กระเป๋าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการประดับลุคและรูปลักษณ์ของเรา และยังเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์และสถานะของคนที่ถือ ซึ่งแบรนด์อย่าง Hermès ก็นับเป็นหนึ่งแบรนด์ที่หรูหราและมีมูลค่า โดยกระเป๋าอย่าง Kelly และ Birkin ไม่เพียงแต่มีราคาที่สูง แต่ยังเป็นกระเป๋าที่หาซื้อได้ยากและใช้เวลาในการผลิตถึง 18 เดือนหรือมากกว่านั้น อีกทั้งยังจำกัดจำนวนที่ผลิตต่อปี จึงเป็นกระเป๋าที่ไม่ใช่ทุกคนซื้อได้ ซึ่งหนึ่งในกระเป๋าที่เอ็กซ์คลูซีฟและแพงที่สุดในประวัติของแบรนด์คือกระเป๋าเบอร์กิ้นที่มีชื่อว่า “Ginza Tanaka Birkin”

     กระเป๋าใบนี้เกิดจากการร่วมงานของแอร์เมสกับกินซ่า ทานากะ ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบเครื่องประดับชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั่งโดย Tanaka Gonbei ในปี 1892 และโด่งดังทุกวันนี้สำหรับดีไซน์เครื่องประดับที่ใช้วัสดุล้ำค่าและงานผลิตที่แม่นยำ ซึ่งกระเป๋าเบอร์กิ้นดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นเหล่านี้ แต่ดีไซน์จะมีความแตกต่างจากเบอร์กิ้นธรรมดาโดยสิ้นเชิง โดยที่ตัวกระเป๋าจะทำมาจากทองคำขาวทั้งหมด พร้อมกับเพชรที่ประดับด้านนอกของกระเป๋าถึง 2,182 เม็ด แต่จุดเด่นคือ Centerpiece ที่เป็นเพชรหินรูปลูกแพร์ น้ำหนัก 8 กะรัต ที่สามารถถอดออกมาและนำมาใช้เป็นเข็มกลัดได้ นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษตรงสายของกระเป๋า ที่ห่อหุ้มด้วยเพชรและสามารถถอดออกมาสวมเป็นสร้อยข้อมือหรือสร้อยคอได้ ความพิเศษเหล่านี้จึงแสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่กั้นระหว่างกระเป๋าและเครื่องประดับ

     ด้วยดีไซน์ที่สวยสะดุดตา ไม่แปลกที่กระเป๋าจะมีความเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะ กระเป๋าใบนี้ถูกเปิดตัวขึ้นมาในปี 2015 เป็นกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด มีราคาสูงถึง 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งติดอันดับ 5 กระเป๋าที่แพงที่สุด เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งความหรูหราในโลกแห่งแฟชั่นโดยแท้จริง

เขียน: ปัณณ์ งามเบญจวงศ์
แก้ไขเรียบเรียง: นาทนาม ไวยหงษ์