CELEBRITY
เผยภาพแฟชั่นเซ็ตและบทสัมภาษณ์ ชีวิต ความรัก และความฝัน ของ 'เบลล่า-ราณี แคมเปน'#VogueThailandMay2024 โว้กจับเข่าคุยกับนางเอกสาวแห่งยุค คัฟเวอร์เกิร์ลคนล่าสุดของโว้กประเทศไทย กับหลายเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน |
ช่างภาพ : สุดเขต จิ้วพานิช
แฟชั่นไดเร็กเตอร์ : จงกล พลาฤทธิ์
นางแบบ: ราณี แคมเปน
แต่งหน้า : จิรายุ ดีสาระ
ทำผม : เบญจพร คำพับ
สัมภาษณ์: ปารัณ เจียมจิตต์ตรง
----------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าชีวิตเหมือนการเดินทาง "เบลล่า-ราณี แคมเปน” ก็อาจอยู่บนหลักไมล์ที่สำคัญที่สุดของชีวิต หลังจากประสบความสำเร็จมาแทบทุกอย่างบนเส้นทางบันเทิง และยังพร้อมที่จะผจญภัยไปกับความท้าทายปริศนาที่รออยู่ข้างหน้า ทั้งในบทบาทนักแสดงที่อาจไม่มีคำว่า Work-life balance รวมถึงสเตตัสนักธุรกิจ คนรัก ลูกสาว และสิ่งสำคัญที่ซ่อนอยู่ใน Bucket list
Vogue: เบลล่าเคยบอกว่าหลังจบละครเรื่อง พรหมลิขิต จะขอพักแบบยาวๆ แต่ดูเหมือนปีนี้คิวงานจะแน่นตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว
Bella: นั่นสิคะ (หัวเราะ) ตอนแรกเบลคุยกับผู้จัดการว่าลองลดงานดูไหม จะได้ฟีลแบบ Work-life balance แต่ที่สุดแล้วมันไม่มีอยู่จริงหรอกค่ะ เพราะเรามีความสุขกับการทำงาน แล้วด้วยอายุ กับโอกาสที่เข้ามา ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็อาจจะไม่ได้ทำอีกแล้ว พอดีปีก่อนมีช่วงพักยาวๆ จึงรู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตเตอรีจนไฟกลับมาเต็ม ตอนนี้จึงพร้อมลุยมากๆ ปีนี้เบลมีถ่ายละครเรื่อง เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง เล่นกับเจมส์ จิรายุค่ะ เป็นละครสนุกๆ ฟีลกู๊ด เรื่องนี้เบลมีความท้าทายที่ต้องพูดภาษาอีสานท้องถิ่น ซึ่งจริงๆ คุณแม่ของเบลเป็นคนจังหวัดนครพนม แต่สำเนียงของจังหวัดนี้ไม่เหมือนที่อื่น ก็เลยเรียนรู้จากคุณแม่ไม่ได้ เดี๋ยวจะมีเวิร์กช็อปแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์แนวแอ็กชั่นคอเมดี ได้ทำงานกับค่ายใหม่ที่ยังไม่เคยร่วมงานด้วย และภาพยนตร์อีกเรื่องที่เป็นการร่วมทุนกับต่างชาติ แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้ ฝากแฟนๆ โว้กติดตามด้วยนะคะ (ยิ้ม)
V: ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิง เบลล่ามักจะได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลต่างๆ อยู่ทุกปี แต่รางวัลจริงๆ ของการทำงานในวงการนี้คืออะไร
B: รางวัลจริงๆ คือฟีดแบ็กของคนดูค่ะ ทุกครั้งที่เบลได้ยินว่าผลงานของเราสร้างประโยชน์หรือเปลี่ยนแปลงความคิดของคนดูให้ดีขึ้นได้จะรู้สึกชื่นใจมาก เช่น เวลาเล่นละครที่มีเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจ จะมีแฟนๆ บอกว่าดูแล้วทำให้เขามีพลังสู้กับปัญหาต่างๆ ในชีวิต หรือมีคุณแม่ท่านหนึ่งบอกว่าลูกชอบน้องเบลมาก ช่วยอัดคลิปบอกให้น้องกินผักได้ไหมคะ ซึ่งพอเราถ่ายคลิปให้ ปรากฏว่าน้องกินผักเยอะขึ้นจริงๆ (ยิ้มกว้าง) ฟีดแบ็กเหล่านี้เป็นกำลังใจมากๆ ค่ะ เหมือนเราไม่ได้ให้แค่ความบันเทิง เพราะคนดูยังได้อะไรที่มากกว่าการแสดงด้วย นอกจากนี้ มันยังสะท้อนกลับมาทำให้เบลอยากพัฒนาตัวเอง ทั้งในแง่ของงานแสดงและการชีวิต เบลอาจจะไม่ใช่คนดีในทุกด้านแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อยากเป็นคนที่ดีขึ้น อยากตอบแทนสังคมในแง่มุมที่พอทำได้ เพราะทุกวันนี้ที่เรามีชีวิตที่ดีก็มาจากแฟนคลับและคนที่คอยสนับสนุนทั้งนั้นค่ะ
V: เรื่องล่าสุดที่ได้เรียนรู้จากวงการบันเทิง
B: อืม...(ทำท่าคิด) น่าจะเป็นตอนถ่ายละครเรื่อง พรหมลิขิต เป็นโปรเจกต์ที่โหดมากกับการเล่น 3 คาแร็กเตอร์ ใช้เวลาถ่ายทำ 1 ปี 8 เดือน เป็นช่วงที่ใช้เรี่ยวแรงและพลังชีวิตเยอะ ซึ่งเบลตั้งใจมากๆ และเชื่อว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร อาจมีเรื่องเรตติ้งหรือเจอปัญหานู่นนี่นั่นบ้าง แต่พอทำงานจบ เบลรู้สึกว่ามันคอมพลีต เพราะเราได้ทำทุกอย่างแบบสุดกำลังแล้วจริงๆ
สามารถตามไปชมแฟชั่นเซ็ตเต็มและบทสัมภาษณ์เจาะลึกทั้งหมดได้ในโว้กประเทศไทย ฉบับพฤษภาคม 2024 วางแผงเร็วๆ นี้!
WATCH
WATCH