เจาะลึกสัมภาษณ์ 'วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร' ในวันที่ชีวิตและความคิดของเขาชัดเจนยิ่งขึ้น

     นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของนักแสดงหนุ่มแถวหน้าวิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจรก็คือการมีครอบครัวที่อบอุ่นห้อมล้อมด้วยความรักเหมือนที่เขาเคยได้รับมา

    “อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ได้เจอคนเยอะมาก สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือเรื่องของการวางตัว พอเราเป็นบุคคลสาธารณะ เราจะต้องระวังและมีสติในทุกย่างก้าว เพราะมันจะส่งผลในวงกว้างมาก ต้องมีสติและรอบคอบในทุกก้าว” วินพูดถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้จากอาชีพนักแสดง การได้พบปะแฟนคลับที่หลากหลาย การได้เดินทาง และได้ทำงานในวงการต่างๆ วินบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่เขาได้เรียนรู้ “ทุกครั้งที่ผมไปประเทศใหม่ๆ เราจะรู้สึกว่าเรายังเป็นเด็กใหม่สำหรับวงการเขา อาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่พอไปบ่อยๆ ก็เริ่มคุ้นชิน การทำงานไม่ได้แตกต่างกันมาก อย่างไปอิเวนต์ก็จะคล้ายกับในประเทศไทย”

     สิ่งหนึ่งที่เขาประทับใจและตั้งข้อสังเกตคือความแตกต่างทางวัฒนธรรมทำให้พฤติกรรมของแฟนคลับมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่น่ารักสำหรับเขา “แฟนๆ แต่ละประเทศต่างกัน บางประเทศก็พลังเยอะ กรี๊ดเชียร์ บางประเทศก็จะเรียบร้อย เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เอเนอร์จี้เชียร์เต็มที่ ญี่ปุ่นคือเรียบร้อย ตรงจังหวะ ทำป้าย เอากล้องส่องทางไกลมาดูตอนเราเล่นคอนเสิร์ต ผมว่าน่ารักดี” แฟนคลับสำหรับวินจึงเป็นกลุ่มบุคคลที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน “ทุกวินาทีของผม ผมต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุด จะได้ไม่เสียใจทีหลัง เพราะถ้าทำเต็มที่ไม่ว่าจะเจอข้อผิดพลาดอะไร เราจะเรียนรู้และจะทำให้เราเก่งขึ้น” เขาพูดถึงการทำงานและส่งสารเล็กๆ ถึงคนที่มองเขาเป็นไอดอลด้วย “เราไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นแบบอย่างให้ใคร แต่เราก็เป็นตัวเองในสิ่งที่เราคิด ผมจะดีใจทุกครั้งที่มีคนมาพูดถึงเรื่องราวของเขาให้ฟัง เช่น เหตุการณ์ล่าสุดคือผมทำธุรกิจของผม แล้วมีการสัมภาษณ์ผู้สมัครรับคนเข้าบริษัท มีผู้สมัครคนหนึ่งเดินเข้ามาร้องไห้กับผม เขาบอกว่าดีใจมากที่วันนี้ได้คุยกับเรา เพราะแฟนเขาเคยเป็นโรคซึมเศร้าเกือบจะฆ่าตัวตาย แต่วันนี้กลับมามีชีวิตปกติได้เพราะชอบผมมาก และมองผมเป็นไอดอล ทำให้ผมรู้สึกดีใจที่เราสามารถช่วยเหลือหรือเป็นกำลังใจให้คนอื่นมีแรงขับเคลื่อนในชีวิตต่อไปได้ ดีใจมากๆ แล้วก็ขอบคุณเขามากๆ ที่อย่างน้อยให้เรามีโอกาสส่วนหนึ่งในการช่วยชีวิตเขา” 

     ช่วงหลังๆ มานี้ นอกจากการเป็นศิลปินแล้ว เรายังเห็นวินในบทบาทของนักธุรกิจด้วย นั่นก็คือเจ้าของร้านขนม Souri ที่ทำกับพี่สาว และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีตชื่อ Velence แต่ถ้าถามถึงเป้าหมายในชีวิตจริงๆ ผู้ชายวัย 25 ปีคนนี้ตอบว่า “อยากมีครอบครัวของตัวเอง ที่อบอุ่นเหมือนครอบครัวของผมตอนนี้ เป็นครอบครัวของตัวเองที่รวมกับครอบครัวใหญ่ของผมได้ มีความสุข แฮปปี้ สมาชิกในบ้านมีความสุข แล้วก็ไม่ลำบาก (หัวเราะ)” อาจจะเป็นคำตอบที่เราไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักจากนักแสดงชายวัยนี้ วินขยายความว่า “ถ้าเมื่อก่อนเป็นเป้าหมายระยะสั้น แต่พอยิ่งโตเรายิ่งมองถึงเป้าหมายระยะยาวมากขึ้น เช่น ตอนเด็กๆ เป้าหมายคืออยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ หรืออยากมีรถของตัวเอง (หัวเราะ) แต่พอโตขึ้นเราก็อยากมองเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น ในระยะยาวผมมองถึงครอบครัว มองถึงบั้นปลายของคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากให้เขาเป็นอย่างไร” การเติบโตมาในครอบครัวใหญ่หล่อหลอมมุมมองนี้ให้เขา “ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆ สำหรับผม อาจเป็นเพราะผมอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ ทำให้ผมมีภาพนั้น ถ้ามีของตัวเองก็อยากมองความรักเป็นแบบนั้น ชอบความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันจริงๆ ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ส่งเสริมในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งก็อาจจะไม่ใช่สำหรับผม มันควรจะดีขึ้นไปด้วยกันทั้งคู่ เป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจ สบายสมอง สบายกาย ที่เป็นตัวเองได้มากที่สุด”

     สามารถตามไปอ่านบนสัมภาษณ์และแฟชั่นเซ็ตเต็มของ 'วิน-เมธวิน' ได้ในนิตยสารโว้กประเทศไทย ฉบับมิถุนายน 2024 วางแผงแล้วทั่วประเทศ