CELEBRITY

She's a ROCKSTAR! รวบโมเมนต์ประวัติศาสตร์ 'ลิซ่า-ลลิษา' ศิลปินหญิงผู้ประสบความสำเร็จแห่งปี 2024

แน่นอนว่าแม้จะมีเหล่าผู้คนที่โลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถยืนหยัดได้แทบทุกแวดวงและสามารถขึ้นแท่นเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกได้ ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ ถือเป็นบุคคลนั้นที่ผุดขึ้นมาอันดับต้นๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลอดปี 2024 ที่ผ่านมา เธอคือดาวเด่นและเป็นที่กล่าวถึงทุกช่วงเวลาของปีนี้

  เรื่อง: รมิตา เนื่องทองนิ่ม และ อชิรญา ดวงแก้ว

 

     ถือเป็นเวลาอันรวดเร็วที่เดินทางมาถึงช่วงสิ้นปี 2024 แล้วหลังจากที่อุตสาหกรรมต่างๆ ได้มีเหล่าผู้คนสร้างผลงานไว้เป็นที่ประจักษ์ให้แก่โลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงเฉพาะกลุ่มหรือแวดวงทั่วไปที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ง่าย แน่นอนว่าแม้จะมีเหล่าผู้คนที่โลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถยืนหยัดได้แทบทุกแวดวงและสามารถขึ้นแท่นเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกได้ กล่าวมาถึงเช่นนี้แล้วหลายคนคงมีชื่อของศิลปินหญิง ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ผุดขึ้นมาอันดับต้นๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลอดปี 2024 ที่ผ่านมา เธอคือดาวเด่นและเป็นที่กล่าวถึงทุกช่วงเวลาของปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในอุตสาหกรรมเพลงหรือแม้แต่อุตสาหกรรมแฟชั่นที่ลิซ่ากลายเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ เรื่อยไปจนถึงการเป็นบุคคลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งในด้านของผลงานมากคุณภาพ รวมถึงพรสวรรค์และพรแสวงเฉพาะตัว เพื่อเป็นการส่งท้ายปีไปอย่างงดงาม โว้กประเทศไทยจึงรวบรวมโมเมนต์พิเศษของลิซ่าให้ผู้อ่านทุกคนได้ท่องไปกับความโดดเด่นและร่วมพิสูจน์ไปพร้อมกันว่า เธอคืออีกหนึ่งบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกอย่างแท้จริง

ปฐมบทแห่งความสำเร็จผ่านบทเพลงที่ฉีกตัวตนใหม่




WATCH





      หลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในฐานะสมาชิกของวง BLACKPINK และหมดสัญญาการเป็นศิลปินเดี่ยวภายใต้สังกัดเพลงยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลีใต้อย่าง YG Entertainment ลิซ่าก็ได้ตัดสินใจเปิดค่ายเพลงเป็นของตัวเองในชื่อ ‘LLOUD’ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในด้านดนตรีและวงการบันเทิง โดยการก้าวเข้ามารับตำแหน่ง CEO ควบคุมงานบริหารเป็นครั้งแรกนั้นถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในเส้นทางการเติบโตของเธอ ที่พร้อมจะผลักดันขีดจำกัดใหม่ๆ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการให้เป็นไปตามฝันและความสามารถที่เธอมี ไม่นานนักหลังจากประกาศเปิดค่ายลิซ่าก็ได้เปิดตัวเซ็นสัญญากับค่ายเพลงจากฟากฝั่งอเมริกา RCA RECORDS หนึ่งในเครือของ SONY Music Entertainment ที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกาและเต็มไปด้วยศิลปินระดับโลกมากมาย เพื่อดูแลผลงานเพลงโซโล่และนับเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับการเตรียมความพร้อมในฐานะศิลปินเดี่ยว


     ก้าวที่สองของลิซ่าก็สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการเพลงด้วยการประกาศปล่อยโซโล่ใหม่ล่าสุดในชื่อ ‘ROCKSTAR’ พร้อมทีเซอร์เรียกน้ำย่อยที่ได้คนไทยมาร่วมถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ และชื่อของลิซ่าก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง เมื่อการปล่อยเพลงเต็มกลับสร้างปรากฏการณ์ไวรัลทั่วโลกโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่โททัลลุคสุดซ่าที่สลัดภาพจำของเธอจากหน้ามือเป็นหลังมือ และสิ่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจมากที่สุดคือการล้างคราบเคป๊อปออกจนสิ้นซาก ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและสะท้อนถึงเส้นทางอนาคตในวงการเพลงของเธอ และเป็นไปตามคาด เพราะการเปิดตัวมิวสิกวิดีโอ ROCKSTAR ทำยอดวิวทะลุหลักล้านได้ภายใน 27 นาที โดยผลงานเพลงดังกล่าวพุ่งทะยานสู่อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard และทำยอดทะลุ 100 ล้านวิวหลังปล่อยออกมาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น


     ทั้งนี้ลิซ่าไม่ปล่อยให้แฟนๆ ต้องรอนาน เพราะหลังจากที่สร้างความถล่มทลายทั่วโลกกับเพลง ROCKSTAR แล้ว เธอก็ได้ประกาศปล่อยซิงเกิลใหม่ที่ครั้งนี้ได้ศิลปินสาวชาวสเปนอย่าง ‘Rosalia’ มาร่วมแจมด้วย เธอเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยเนื้อเพลงภาษาอังกฤษและภาษาสเปนที่แตกต่างจากผลงานที่ผ่านมา มาพร้อมกับสไตล์การแต่งตัวราว 10 ลุคที่ผสานความจัดจ้านในไวบ์ยุค 90s อันเต็มไปด้วยสีสันและแพตเทิร์น และสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นลิซ่าในลุคผมสีบลอนด์ไร้ผมหน้าม้าที่แตกต่างไปจากเดิม ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้เองที่แสดงให้เห็นว่าลิซ่าได้หลุดจากกลิ่นอายความเป็นเคป๊อปอย่างสมบูรณ์แบบพร้อมกับเปิดประตูสู่การเป็นศิลปินระดับโลกอย่างแท้จริง โดยครั้งนี้ผลงาน New Woman กวาดยอดวิวไปมากกว่า 38 ล้านวิวภายในเวลาเพียงแค่ 3 วัน


     ปิดท้ายผลงานเพลงไปกับ Moonlit Floor เพลงรักสุดหวานที่ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ชื่นชมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งบนชาร์ต iTunes ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเป็นแนวเพลงฉีกจากผลงานที่ผ่านมาของเธอที่มักจะมีความสนุกสนานผสานความป๊อปและฮิปฮอปเข้าด้วยกัน แต่ครั้งนี้กลับเต็มไปด้วยความหวานที่นำเสนอความป๊อปเข้ากับจังหวะที่โยกตัวได้อย่างเพลิดเพลิน Moonlit Floor เป็นหนึ่งในเพลงที่ลิซ่านำขึ้นแสดงโชว์บนเวทีนางฟ้า Victoria’s Secret ร่วมกับ ROCKSTAR ถือเป็นโมเมนต์แห่งความทรงจำที่แฟนๆ ต่างภาคภูมิใจ

ตอกย้ำความสำเร็จจากเวทีดนตรีสู่บัลลังก์แฟชั่น


     สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงเมื่อแบรนด์ Louis Vuitton ประกาศแต่งตั้งลิซ่าขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก นับเป็นอีกความสำเร็จที่สะท้อนว่านอกจากอุตสาหกรรมเพลงแล้วเธอเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมแฟชั่นเช่นกัน โดยแบรนด์ระบุว่าลิซ่าสามารถสร้างมาตรฐานด้านดนตรี สไตล์ วัฒนธรรม และกำลังจะต่อยอดถึงผลงานผ่านหน้าจออย่าง The White Lotus สะท้อนถึงความยอดเยี่ยมในการอุทิศตนเพื่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อันเป็นดั่งคุณค่าหลักของหลุยส์ วิตตอง ในบทบาทผู้สรรสร้างโลกดนตรีและวัฒนธรรมป๊อปยุคปัจจุบัน ลิซ่านับเป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่เชื่อมสัมพันธ์กับเครือธุรกิจแฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยผลงานอันประจักษ์แก่สายตาผู้อ่านทุกคนนี้สะท้อนให้เห็นว่าลิซ่าเสริมสร้างประสบการณ์ เติบโต และก้าวเข้าขึ้นสู่ยอดพีระมิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การแสดงบนเวทีและการคว้ารางวัลระดับโลกในฐานะการเป็นศิลปินเดี่ยว

     นอกจากผลงานเพลงและแฟชั่นที่กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนว่าการแสดงบนเวทีระดับโลกของลิซ่าก็เป็นที่น่าจดจำไม่แพ้กัน เพราะเธอกวาดความสนใจจากเหล่าผู้ชมทั่วโลกได้อยู่หมัดจึงนำมาซึ่งการก้าวสู่เวทีงานประกาศรางวัลยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมเพลงในช่วงเดือนกันยายนอย่าง MTV Video Music Awards ประจำปี 2024 ที่ลิซ่ามีชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 4 สาขาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Best K-POP, Best Editing, Best Choreography และ Best Art Direction และเธอได้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่แฟนๆ เมื่อลิซ่าคว้ารางวัลสาขา ‘Best K-POP’ ไปครองได้สำเร็จด้วยผลงานเพลง 'ROCKSTAR' หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอสร้างปรากฏการณ์ด้วยการแสดงเพลง ‘New Woman’ และ ‘ROCKSTAR’ เรื่อยไปจนถึงลุคบนพรมแดงที่สามารถสะกดทุกสายตา จนเกิดเป็นแฮชแท็ก “LISAisBACK_VMAs” ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งทั่วโลกบนแอปพลิเคชั่น x  ทั้งนี้ยังถือเป็นครั้งที่สองของลิซ่าที่ได้เป็นเจ้าของรางวัลบนเวทีแห่งนี้หลังจากที่เคยคว้ารางวัล ‘Best K-POP’ ไปเมื่อปี 2022 ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าเดิมแต่บทใหม่ได้อีกว่า ลิซ่าคือศิลปินเดี่ยวจากวงการเคป๊อปคนแรกและคนเดียวที่เป็นเจ้าของรางวัลนี้ถึงสองครั้งอีกด้วย

ภาพ: Gabriele Di Martino

     ลิซ่าได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่แฟนๆ อย่างต่อเนื่องด้วยการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวที่เทศกาลดนตรี 'Global Citizen Festival' ครั้งแรก ณ มหานครนิวยอร์ก ในช่วงปลายเดือนกันยายนด้วยท่าเต้นอันโดดเด่นและเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ในการแสดงซิงเกิลฮิตอย่าง “Rockstar” และ “New Woman” รวมถึง “LALISA” และ “MONEY” พร้อมบอกใบ้ถึงซิงเกิลล่าสุดอย่าง "Moonlit Floor" จนเรียกความสนใจจากเหล่าแฟนๆ ไปได้อีกเช่นเคย

     แน่นอนว่าอีกหนึ่งโชว์ที่เหล่าผู้ชมประทับใจมากที่สุดแห่งปีคงหนีไม่พ้นการแสดงของลิซ่าบนรันเวย์นางฟ้าระดับตำนานอย่างเวที Victoria’s Secret ที่กลับมาจัดโชว์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 6 ปี ซึ่งนับว่าห่างหายและเป็นที่รอคอยมากที่สุด โดยเธอได้รับความสนใจตั้งแต่ลุคการเดินบนพรมชมพูที่สวมบราสีเงินเมทัลลิกปักประดับระยิบระยับเข้ากับผ้าคลุมซีทรู และการแสดงเปิดโชว์ด้วยเพลง ‘ROCKSTAR’ และแสดงสดต่อเนื่องกับเพลง ‘Moonlit Floor’  พร้อมกับลุคลูกไม้ซีทรูสุดเซ็กซี่ จนกลายเป็นอีกหนึ่งคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากและเป็นที่กล่าวถึงจนถึงปัจจุบัน

     ปิดท้ายไปกับการคว้ารางวัลล่าสุดของลิซ่าจากเวทีประกาศรางวัล MTV EMAs ประจำปี 2024 มาได้ในสาขารางวัล Best Collaboration แห่งปี จากผลงานเพลง 'New Woman' ซึ่งเป็นผลงานที่เธอได้ทำร่วมกับศิลปินหญิงชาวสเปน Rosalìa และเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้งในฐานะของศิลปิน K-Pop คนแรกที่สามารถคว้ารางวัลดังกล่าวไปครองได้สำเร็จ นอกจากนี้แล้วในปี 2025 ลิซ่าจะยังเป็นหนึ่งในศิลปินเดี่ยวที่จะขึ้นแสดงเทศกาลดนตรีระดับโลก ‘Coachella’ ซึ่งถือเป็นโมเมนต์ประวัติศาสตร์และโมเมนต์แห่งความทรงจำของลิซ่าที่แฟนคลับทุกคนภูมิใจกับศิลปินคนโปรดนี้

การชิมลางของบทบาทอื่นๆ นอกเหนือจากการเป็นศิลปิน

ภาพ: Courtesy of HBO Max

     ขอปิดบทความนี้ไปด้วยหัวข้อรวบโมเมนต์สำคัญของลิซ่าที่เธอได้เข้าร่วมงานต่างๆ นอกเหนือจากบทบาทการเป็นศิลปิน เพราะเธอได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในนักแสดงซีรี่ส์แฟรนไชส์ยอดฮิตจากค่าย HBO Max อย่าง ‘The White Lotus’ ซีซั่นที่สาม แม้ซีรี่ส์ดังกล่าวจะปล่อยให้แฟนๆ ได้รับชมในปี 2025 ทว่าตัวอย่างล่าสุดที่เผยออกมานั้นก็เรียกน้ำย่อยเหล่าแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะเผยให้เห็นบทบาทของลิซ่าบางส่วนกับบทบาท มุกพนักงานโรงแรม ‘The White Lotus Thailand’




     นอกจากการเป็นนักแสดงแล้วลิซ่ายังขึ้นแท่นเป็นคัฟเวอร์เกิร์ลแห่งปีด้วยการเป็นนางแบบขึ้นปกนิตยสารชั้นนำระดับโลก หนึ่งในนั้นคือการขึ้นปก Vogue Japan, Vogue Korea และ Vogue Thailand ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นการการันตีแล้วว่าลิซ่าคือบุคคลที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดจนนำมาสู่การเฉลิมฉลองความสำเร็จของเธอผ่านแฟชั่นเซ็ตของวัฒนธรรมในแต่ละประเทศที่รังสรรค์ขึ้นแตกต่างกันไป ไม่เพียงเท่านั้นลิซ่ายังทวีคูณความยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นตัวแทนร่วมงานสัปดาห์การแข่งขันรถ F1 ในรายการ F1 Miami Grand Prix ประจำปี 2024 ที่จัดขึ้น ณ ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา โดยได้รับเกียรติได้รับเกียรติให้ร่วมเป็นผู้โบกธงตารางหมากรุกอันทรงเกียรติ

     ไม่เพียงเท่านั้นลิซ่ายังการันตีการเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกด้วยการเป็นผู้นำเทรนด์และกระแสนิยมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวงการแฟชั่น หรือแม้แต่วงการของเล่นอย่างอาร์ตทอยสุดฮิตจากค่ายยักษ์ใหญ่ 'Pop Mart' ที่มีต้นกำเนิดมาจากจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ทำให้ป๊อปมาร์ตได้รับความนิยมไปทั่วโลกคือการนำเสนออาร์ตทอยในรูปแบบของกล่องสุ่ม ลิซ่าเองก็เป็นหนึ่งในทาสรักของเล่นเหล่านี้เช่นกัน โดยช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาลิซ่าได้โพสต์สตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัวว่าเธอครอบครองกล่องสุ่มยกบ็อกซ์ของคาแร็กเตอร์ 'Labubu' ในคอลเล็กชั่นพวงกุญแจ 'Macaron' ด้วยความน่ารักเป็นทุนเดิมของเจ้าลาบูบู้ประกอบกับความนิยมของลิซ่า ทำให้ลาบูบู้มาการองนั้นมีราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นอีกเท่าตัว ทั้งสินค้ายังขาดตลาดจนจำเป็นต้องซื้อในราคาที่ถูกเพิ่มราคาในภายหลังอีกด้วย เรื่อยไปจนถึงคาแร็กเตอร์อื่นๆ ในป๊อปมาร์ต อาทิ Molly หรือ Cry Baby ลิซ่าก็ล้วนแล้วแต่นำมาถ่ายอวดลงบนโซเชียลจนเหล่าแฟนๆ ต่างไปหาซื้อตามเธอกันถ้วนหน้า จนนำมาสู่ความครึกครื้นในตลาดอาร์ตทอยในช่วงเวลานั้นเลยทีเดียว

ภาพ: Instagram @lalalalisa_m

     ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คงเพียงพอต่อการพิสูจน์แล้วว่า ลิซ่าไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปินที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลมากคุณภาพ ทว่าเธอยังเป็น ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ที่ยากจะมีคนโค่นล้มอย่างแท้จริง และผู้เขียนเชื่อมั่นว่า เธอจะไม่หยุดความยิ่งใหญ่ไว้แค่ในปี 2024 นี้แน่นอน

กราฟิก : จินาภา ฟองกษีร

WATCH