CELEBRITY
#VogueFlash The Glass Castle หนังเรื่องใหม่ที่อาจส่งให้บรี ลาร์สันได้ออสการ์อีกตัว!คุยกับ บรี ลาร์สัน นักแสดงหญิงดีกรีออสการ์ชั้นแนวหน้าของฮอลลีวู้ด กับบทบาทดราม่าสุดประทับใจอีกครั้งใน The Glass Castle ที่น่าจะทำให้เธอมีโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ทางการแสดงอีกครั้งก็เป็นได้ |
บรี ลาร์สัน ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ฮอตที่สุดคนหนึ่งของวงการในตอนนี้ หลังจากที่เธอคว้ารางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเมื่อปี 2015 จากเรื่อง Room ในการรับบทเป็นเหยื่อลักพาตัวซึ่งต้องเลี้ยงลูกของเธอในห้องแคบๆ ก่อนกราฟชีวิตเธอจะพุ่งกระฉูดเมื่อได้รับเรื่องให้แสดงบท Captain Marvel ฮีโร่หญิงคนใหม่ที่กำลังรอแจ้งเกิด ตอนนี้เธอกลับมารับบทดราม่าน้ำดีที่เคยคว้ารางวัลให้เธออีกครั้งใน The Glass Castle
The Glass Castle จากหนังสือที่ติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิวยอร์ก ไทมส์ ถึง 261 สัปดาห์ขายได้มากกว่า 6 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก และแปลไปแล้วถึง 22 ภาษา รวมทั้งได้รับเสียงวิจารณ์ในระดับยอดเยี่ยม ทำให้ผู้อ่านถึงกับต้องหลั่งน้ำตากันมาถ้วนหน้า ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราว Coming of Age อันทรงพลังสุดสะเทือนใจ ที่เกิดขึ้นจริงของ “จีนเน็ตต์ วอลล์ส” (บรี ลาร์สัน) ชีวิตวัยเด็กของเธอกับพี่น้องอีก 3 คนเริ่มที่ต้องเติบโตมาในครอบครัวที่ยากลำบาก อดมื้อกินมื้อ และต้องเร่ร่อนย้ายที่อยู่เป็นประจำ ในขณะที่พ่อของเธอ “เร็กซ์” (วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน) ถึงจะมีอาการติดเหล้าอย่างหนัก แต่เขาก็รักลูกสุดหัวใจและมักจะสอนให้ลูกมีความกล้าหาญที่จะเผชิญกับโลกความเป็นจริง ส่วนแม่ “โรส แมรี่” (นาโอมิ วัตส์) ยังคงพยายามไล่ตามความฝันที่จะเป็นศิลปิน หลงใหลในความรักอิสระเสรี ถึงแม้ระหว่างเส้นทางแห่งการเติบโตจะเต็มไปด้วยบททดสอบที่โหดร้าย และการโยกย้ายที่ไม่มีวันจบสิ้น แต่ จีนแนตต์ ก็ดิ้นรนฝ่าฟันจนกลายมาเป็นนักข่าวสาวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับการนับหน้าถือตาจากสังคมในที่สุด ความทะเยอทะยานของเธออาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่ลึก ๆ แล้ว บทเรียนชีวิตที่พ่อเคยสอน ความผูกพันของครอบครัวที่ไม่มีวันเสื่อมสลายคือพลังสำคัญที่ส่งให้เธอก้าวมายืนถึงจุดนี้ ...และถึงเวลาแล้วที่เธอจะกอบกู้คำว่าบ้านให้กลับคืนมาอีกครั้ง
The Glass Castel ที่มาของชื่อเรื่องมันคืออะไร แล้วช่วยยกตัวอย่างเรื่องที่ตัวละครของคุณต้องเผชิญให้เราหน่อยได้ไหม?
บรี ลาร์สัน: "The Glass Castle" (ปราสาทแก้ว) คือคำสัญญาที่ เร็กซ์ ให้ไว้ว่าจะสร้างบ้านในฝันให้กับครอบครัว เขาวาดแบบไว้แล้วและเก็บพิมพ์เขียวติดตัวไว้ตลอดเวลาที่ย้ายบ้าน เขาแค่ต้องการเงินมาสร้างแค่นั้น มันมีตอนหนึ่ง จีนเน็ตต์ อายุสามขวบ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าตาในรถบ้านครอบครอบครัว เธอกำลังต้มไส้กรอกเพราะแม่เธอมัวแต่วาดรูปไม่สนใจทำอาหาร จู่ๆ เสื้อเดรสของจีนเน็ทก็ไฟลุก ลามไปที่ท้อง ชายโครง และหน้าอกของเธอ เธอต้องเข้าโรงพยาบาลถึงหกสัปดาห์ จนกระทั่งพ่อของเธอแอบพาเธอหนีออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านมาเพื่อให้มานั่งต้มไส้กรอกเหมือนเดิม แถม โรสแมรี่ พูดกับเธอว่า ‘ดีแล้วล่ะ จำไว้ไปเป็นบทเรียน’ แล้วกลับไปวาดรูปต่อ
การเตรียมตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้มันต่างจากเรื่องอื่นไหม
บรี ลาร์สัน: ตอนที่ฉันแสดงใน Room ฉันใช้เวลาหาข้อมูลทุกแง่มุมของการโดนกักขังเพราะมันเป็นอะไรที่ฉันไม่เคยโดนมาก่อน แต่ในเรื่องนี้ฉันคุยกับ จีนเน็ตต์ ได้โดยตรง ฉันจะอีเมล์ไปหรือโทรไปถามเธอเมื่อไหร่ก็ได้ หนึ่งในสิ่งที่ฉันชอบที่สุดตอนที่เราติดต่อกันครั้งแรกคือเธอบอกว่า ‘ฉันอยากให้คุณเล่าความจริงออกมา และฉันอยากให้คุณเล่าความจริงของคุณ นี่อาจจะเป็นเรื่องราวของฉันแต่ฉันอยากให้คุณทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องของคุณด้วย ฉันอยากให้คุณทำทุกอยากที่ความรู้สึกของคุณอยากทำ ไม่มีคำถามไหนที่มันส่วนตัวเกินไปหรอก’ ความสัมพันธ์ของเราเริ่มด้วยความอบอุ่น เราเชื่อใจกัน
1 / 2
2 / 2
คุณรู้สึกยังไงบ้างกับบทบาทที่คุณได้แสดง
บรี ลาร์สัน: ในเรื่อง จีนเน็ตต์ มานิวยอร์กเพื่อเยียวยาตัวเองจากอดีตแต่แล้วเธอคิดได้ว่าเธอไม่สามารถลบครอบครัวไปจากใจได้เลย มันก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญของเธอ ฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยรู้สึก ทุกคนที่ถึงช่วงอายุนั้นก็รู้สึกอยากมีชีวิตของตัวเอง อยากแยกตัวเองออกมาจากร่มเงาของครอบครัว เธอผลักตัวเองออกมา เพื่อค้นหาตัวเองแต่ในการค้นหาตัวเองนั้นแหละที่พาตัวเธอกลับบ้านสิ่งที่ จีนเน็ตต์ ตระหนักได้ตอนท้ายเรื่องคือประสบการณ์ทั้งหมดที่เธอได้มาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่เธอในวัยเด็กทำให้เธอเป็นตัวเธอทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องแค่เรื่องดีแต่ยังรวมเรื่องร้ายๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้จักอดทนต่ออุปสรรค
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่คุณได้กับมาร่วมงานกับ เดสติน เครตตัน ผู้กำกับ การทำงานร่วมกับเขาเป็นอย่างไรบ้าง?
บรี ลาร์สัน: ฉันชอบทำงานกับเขามากนะตั้งแต่เราได้ทำงานด้วยกันใน Short Term 12 แล้ว เขาเป็นคนที่ทำให้นักแสดงรู้สึกสบายใจที่ได้เล่น เดสติน เห็นใจและเข้าใจนักแสดงมาก เขาเป็นคนเซนส์ซิทีฟ และนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันได้ทำงานกับเขาซึ่งต้องแสดงเป็นตัวละครที่คุณต้องแทบทิ้งตัวตนของตัว เองไปเลย เมื่อคุณทำอย่างนั้นคุณต้องไว้ใจทีมงานรอบข้างซึ่ง เดสติน ทำได้อย่างไร้ที่ติ
การทำงานร่วมกับ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน เป็นยังไงบ้าง
บรี ลาร์สัน: วู้ดดี้ และครอบครัวของเขาเป็นคนสำคัญของชีวิตฉัน การที่ได้แสดงบทนี้ร่วมกับเขาเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมากเพราะปกติเราก็รักกันอยู่แล้วซึ่งมันออกมาในตัวหนังเลยทีเดียว เมื่อเล่นกับ วู้ดดี้ คุณรู้สึกได้จริงๆ แม้ว่าหลายครั้งที่ เร็กซ์ ทำตัวน่ารังเกียจ แต่เรายังสัมผัสได้ถึงความรักระหว่างเขาและ จีนเน็ตต์
WATCH
1 / 4
2 / 4
3 / 4
4 / 4
แล้วกับ นาโอมิ วัตส์ ที่มารับบทเป็น โรส แมรี่ แม่ของคุณในเรื่อง
บรี ลาร์สัน: การแสดงของนาโอมิสุดยอดมาก มันเป็นบทที่ยากมากเพราะเธอดูสับสนตลอดเวลา ซึ่งนาโอมิถ่ายทอดเธออกมาได้งดงาม เหมือนกับว่าความเป็น โรส แมรี่ ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอตลอดเวลา ซีนงัดข้อที่เกิดขึ้นช่วง จีนเน็ตต์ โตคุณจะได้เห็นเธอเล่นเป็นหญิงแก่ที่ยังมีความเป็นเด็กสาวอยู่เต็มเปี่ยม
คุณประทับใจงานส่วนไหนของเรื่องที่สุด?
บรี ลาร์สัน: จริงฉันชอบหมดเลยนะทุกคนแสดงฝีมือในงานของตัวเองเต็มที่จริงๆ แต่ถ้าให้เลือกที่ชอบที่สุดคงเป็นงานศิลป์ เราได้ ชารอน ซีย์มัวร์ นักออกแบบงานสร้างที่เคยทำเรื่อง Argo มาร่วมงานกับเราในเรื่องนี้ ชารอน ทำให้ภาพในหนังสือเป็นจริงขึ้นมา ตั้งแต่ขวดแก้วของ โรส แมรี่ ที่แขวนไว้ริมหน้าต่างในบ้านหลังโทรม เสาใต้บันไดที่มีภาพเขียนของ โรส แมรี่ เต็มไปหมด ไปจนถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างอพาร์ตเมนท์สุดหรูของ จีนเน็ตต์ ในนิวยอร์ก ที่ไม่ว่าจะงดงามแค่ไหนแต่มันกลับรู้สึกมืดหม่นและว่างเปล่า เธอสร้างบรรยกาศให้บ้านของครอบครัววอลล์สดูรก ยุ่งเหยิง และมันมีกลิ่นอายของความรักอบอวนไปหมด ส่วนอพาร์ตเมนท์ในนิวยอร์กมีทุกอย่างที่ควรจะมีเพื่อมอบความสุขให้เข้าของแต่อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถทดแทนสิ่งที่มีความหมายจริงๆ ได้
WATCH