เดินทางมาถึงวันสุดท้ายแล้ว สำหรับสัปดาห์แฟชั่นของ 4 หัวเมืองใหญ่ ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2024 ที่นอกจากผลงานแฟชั่นบนรันเวย์ และสตรีตสไตล์ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจะเข้มข้น และสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นมากเท่าใดก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ดูจะคึกคักผิดหูผิดตาก็เห็นจะเป็นลิสต์รายชื่อแขกฟรอนต์โรว์จากประเทศไทย ที่มุ่งหน้าสู่นิวยอร์ก ลอนดอน มิลาน และปารีส ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเดินเกมเพื่อช่วงชิงพื้นที่ในโลกแฟชั่นอย่างจริงจัง 

     อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ประเทศไทยปักหมุดหมายบนแผนที่แฟชั่นระดับโลกมานานหลายปี จนกระทั่งขึ้นแท่นเป็นชาติเอเชียลำดับต้นๆ ที่ได้รับการกล่าวถึงจากแบรนด์ดังระดับตำนานอยู่เป็นนิจ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขยอดขายของแบรนด์ลักชัวรีในประเทศที่เติบโตขึ้นทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง เรื่อยไปจนถึงจำนวนของ "ตัวเล่น" คนไทย ในฐานะของแบรนด์แอมบาสเดอร์ และเฟรนด์ ออฟ เดอะ เฮาส์ บนกระดานหมากรุกแฟชั่นระดับโลก ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี นั่นเองคือสิ่งซึ่งการันตีได้ว่า ประเทศไทยได้กลายเป็นประเทศหัวเมืองแฟชั่นฝั่งเอเชียแล้วก็ไม่ปาน

     เมื่อตัวเล่นเพิ่มขึ้นทุกปี แบรนด์แฟชั่นชื่อดังในประเทศไทยจึงเริ่มหาลู่ทางสร้างความเข้มข้นให้เกิดขึ้นในเกมการแข่งขัน ด้วยการใช้กลยุทธ์ตอกย้ำ พาเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง (นอกเหนือจากเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่มีหน้าที่ต้องเดินทางลัดฟ้าไปชมโชว์ของแบรนด์ต่างๆ ในทุกซีซั่นอยู่แล้ว) บินลัดฟ้าเพื่อไปทำความรู้จักกับดีไซเนอร์ หรือหัวเรือใหญ่ของแบรนด์ดังเป็นว่าเล่น สร้างกระแสบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่หยัดยืนท่ามกลางสปอตไลต์ของโลกแฟชั่น และอาจหมายถึงของโอกาสของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์เหล่านั้น ที่แบรนด์ดังจะเลือกสรรมาร่วมงานด้วยในอนาคตอันใกล้

     อนึ่ง สิ่งที่ผู้เขียนจะร่ายยาวต่อไปนี้ อาจจะขัดหูขัดตาเหล่าคนแฟชั่นสายอนุรักษ์นิยมไปเสียหน่อย แต่ความจริงบนโลกที่หมุนไปทุกวันก็คือ ณ เวลานี้สื่อแฟชั่นโอบรับการทำคอนเทนต์เซเลบริตี้ ที่หลายคนขยาดกันนักหนาแล้วอย่างเป็นทางการ ควบคู่ไปกับการรายงานแฟชั่นบนรันเวย์อย่างเข้มข้น ทั้งหมดนี้ไม่ได้วัดจากแค่สื่อในประเทศไทย ที่เป็นประเทศคลั่งคอนเทนต์เซเลบริตี้เป็นไหนๆ เท่านั้น ทว่าเมื่อคุณหรือใครก็ตามที่ติดตามแฟชั่น ก็คงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วว่า ทั้ง Vogue Us, British Vogue, WWD หรือแม้แต่ Vogue France ที่มักจะถูกแซวอยู่บ่อยครั้งว่า ถือตัวนักหนากับการรายงานลุคเข้าชมโชว์ของเหล่าคนดัง ก็ยังหันมาทำคอนเทนต์รายงานลุคคนดังกันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะในช่วงแฟชั่นวีกที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นหนึ่งซีซั่นที่ผู้เขียนกล้าออกปากได้เลยว่า มีคนไทยบินลัดฟ้าสู่แฟชั่นวีกมากที่สุดซีซั่นหนึ่งเลยทีเดียว

     การมาถึงของวัฒนธรรม Airport Look หรือการรายงานลุคชมโชว์ของเหล่าคนดังนั้น ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงหรือยอดเอนเกจเมนต์บนโซเชียลมีเดียของสื่อและแบรนด์แฟชั่นเท่านั้น ทว่าในนัยหนึ่งคือการกระตุ้นเศรษฐกิจการซื้อขายของแบรนด์แฟชั่นได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการจัดงานเปิดร้านป็อปอัพสโตร์วนไปมาตลอดทั้งปี นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของแบรนด์แฟชั่นที่มีหัวการค้าเข้มข้นอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งยังสร้างยอดการรับรู้ของผู้คนบนโลกโซเชียลมีเดียได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ออกเดินทาง ถึงจุดหมาย และเข้าโชว์ หรือแม้แต่บางครั้งยังมีคอนเทนต์หลังจบโชว์พ่วงมาด้วย นั่นเองคือกลยุทธ์สำคัญของเมืองไทยที่ต้องการจะช่วงชิงพื้นที่สื่อจากทั่วโลก ในวันที่อินฟลูเอนเซอร์จากทั่วโลกยอมแพ้ไปแล้วเมื่อจบโชว์...

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6