Mulan น่าดูหรือไม่...ฟังรีวิวครบทุกองค์ประกอบจากเหล่าผู้ชมรอบปฐมทัศน์แบบไม่มีกั๊ก

     เจ้าหญิงดิสนีย์คือสิ่งที่แฟนคลับแทบทุกวัยทั่วทั้งโลกรอคอย ภาพยนตร์แอนิเมชั่นแต่ละเรื่องล้วนเติมเต็มความฝันวัยเด็กให้ทุกคนได้เสมอ เนื้อเรื่องอันเข้มข้น บทเพลงสุดไพเราะ ฉากอลังการ และความน่ารักของตัวละครต่างๆ คือกุญแจหลักพาให้ภาพยนตร์เส้นเรื่องเจ้าหญิงดิสนีย์เป็นที่นิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ภาพ 2.5 มิติ จน 3 มิติ ตอนนี้ล้ำหน้าไป 4 มิติแล้วด้วยซ้ำ แต่ปี 2020 นี้ “Mulan” หรือ “มู่หลาน” จะพลิกโฉมเจ้าหญิงดิสนีย์แบบเดิมๆ เพราะเรื่องนี้จะถูกนำเสนอแบบ “Live-action” หรือการใช้คนแสดงแทนการ์ตูนแอนิเมชั่นพร้อมเสียงพากย์ กลายเป็นว่าทุกคนคาดหวังและตั้งธงเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้สูงมากว่าจะต้องออกมามีมิติใหม่ๆ วันนี้เราจะพาไปชมความคิดเห็นของเหล่าแขกคนสำคัญผู้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนใครว่าเขาจะมีมุมมองต่อภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไรบ้าง

     งานฉายรอบปฐมทัศน์นี้จัดขึ้นที่ “Dolby Theatre” ในฮอลลีวู้ด โดยภาพยนตร์มู่หลานฉบับคนแสดงนั้นแสดงนำโดย Liu Yifei รวมถึง Donnie Yen และนักแสดงมากฝีมือเชื้อชาติเอเชียอีกหลายคน นั่นทำให้เราเลือกพูดถึงการใช้คนแสดงแทนการทำแอนิเมชั่นกันก่อน โดยคนส่วนใหญ่ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงจากแอนิเมชั่นมาเป็นไลฟ์แอคชั่นคือการตัดสินใจครั้งสุดยอดของดิสนีย์ นับตั้งแต่ซินเดอเรลล่าปี 2015 ก็ไม่มีภาพยนตร์คนแสดงไลฟ์แอคชั่นอีกเลย มีเพียงแอนิเมชั่นเท่านั้น ทำให้การเลือกใช้คนแสดงครั้งนี้ก็เรียกความสนใจจากเหล่าคอหนังได้เป็นอย่างดีก่อนเริ่มฉายจริงเสียอีก

     ความพิเศษของการใช้คนแสดงคืออารมณ์ร่วมจากคนสู่คน หลายคนลงความเห็นตรงกันว่า “มันทำให้ภาพยนตร์ดูจริงจังสมกับเนื้อเรื่องมากขึ้น” นอกจากนี้ยังการคำชมต่างๆ นานาเกี่ยวกับเรื่องการใช้คนแสดงคือการสื่อสารอารมณ์ที่ทั้งแววตา กิริยาท่าทาง องค์ประกอบฉาก และอื่นๆ ทำให้ผู้ชมเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกของมู่หลานจริงๆ ในขณะที่ความเข้มข้นขนาดนี้จะเกิดขึ้นได้ไม่สุด 100 เปอร์เซ็นต์หากทางดิสนีย์รังสรรค์ออกมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่น เสน่ห์ของคำว่า “การ์ตูน” อาจจะหายไป แต่ความสุดยอดเรื่องการตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ(อย่างน้อยก็กับนักวิจารณ์) เราปิดท้ายด้วยคำพูดสวยๆ ว่า “ดิสนีย์ทำให้มู่หลานดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเหมาะกับเป็นสตรีผู้กล้าจริงๆ”

     เรื่องต่อมาคือฉากต่างๆ ขยายมาจากหัวข้อใช้คนแสดง นั่นแปลว่าการใช้คนแสดงจำเป็นต้องมีฉากหลังจริงหรือเสมือนจริงเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นการรังสรรค์ฉากต่างๆ ล้วนสร้างอารมณ์ความหนักแน่นให้ภาพออกมาสมจริงน่าตื่นเต้นเหมือนอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง หากเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเราจะได้เห็นความแฟนตาซี ฝีมือการทำกราฟิก และการประยุกต์ใช้ฉากกับตัวละคร ฉากของมู่หลานปี 2020 จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่แฟนๆ ดิสนีย์รวมถึงคอหนังทั่วไปไม่ควรพลาด

     “การหวนนึกถึงความหลังแต่ไม่ใช่มิวสิคัลแบบที่คุ้นเคย” ปกติภาพยนตร์ดิสนีย์ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นไหนก็โดดเด่นเรื่องการนำการขับร้องมาผสมผสานอยู่ในการดำเนินเรื่องอย่างลงตัว แต่ไม่ใช่กับมู่หลานฉบับใหม่ล่าสุด เพราะเรื่องนี้จะกลายเป็นไลฟ์แอคชั่นที่เน้นเนื้อเรื่อง วิธีการปูเรื่องแบบภาพยนตร์จริงจัง การขาดหายไปของมิวสิคัลคือเรื่องที่หลายคนกังวล แต่เมื่อเหล่านักวิจารณ์ออกมาจากโรงฉายรอบปฐมทัศน์พวกเขาก็เผยว่า “มันทำให้พวกเราหวนนึกถึงความหลังเก่าๆ แต่เปลี่ยนภาพลักษณ์การนำเสนอไปอย่างสิ้นเชิง” หลายคนก็บอกว่าสิ่งนี้มันยอดเยี่ยมมาก “พอฉันได้ดูเรื่องนี้ก็แทบไม่ได้นึกถึงเพลงเลยด้วยซ้ำ” ตอกย้ำว่ามู่หลานฉบับนี้ไม่ใช่มิวสิคัลก็ปังได้...

     เนื้อเรื่องล้อไปกับเทรนด์นิยมเรื่องเพศหญิง...มู่หลานคือมาตรงจังหวะเวลาพอดี ในยุคที่ผู้หญิงพยายามเพิ่มพลังซึ่งกันและกัน เธอเปรียบเหมือนสัญญะแห่งความแข็งแกร่งแต่ไม่แข็งกร้าว ความอ่อนโยนแต่พอเหมาะประกอบกับวิทยายุทธ์อันเลิศล้ำทำให้เจ้าหญิงแดนมังกรคือผู้พิชิตโจทย์ปัญหาสำคัญในปี 2020 ได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ความสนุกที่สอดแทรกอยู่กับมู่หลานคือข้อความลึกซึ้งเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมที่ใครก็สัมผัสได้แบบไม่ยากเย็นนัก ถึงแม้นี่จะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูน แต่มั่นใจได้เลยว่ามู่หลานครองใจแฟนสายแกร่งมานานแสนนาน และวันนี้ก็ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย

     ปิดท้ายกันด้วยคำวิจารณ์เชิงตำหนิกันบ้าง เรื่องนี้เหล่าแขกรอบปฐมทัศน์ค่อนข้างประทับใจมาก แต่ก็มีบางคนระบุว่า “มู่หลานเป็นหนังทั่วๆ ไป” คำนี้อาจจะดูรุนแรงแต่ในมุมมองของชายคนหนึ่งมองว่าทุกองค์ประกอบในเรื่องดีตามที่เรากล่าวกันไว้ข้างต้น แต่สิ่งที่ทำให้มู่หลานไม่ได้พิเศษมากขนาดนั้นก็เพราะเรื่องตัวละครตัวร้ายและคุณภาพของไลฟ์แอคชั่นที่บางส่วนยังไม่สม่ำเสมอกัน มีดรอปไปบ้างบางจุดทำให้มู่หลาน 2020 อาจจะเป็นแค่ผลงานธรรมดาๆ เรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าเพิ่งปักใจเชื่อใครแบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์เพราะสุดท้ายการพิสูจน์ความจริงก็มีแต่เราเท่านั้น ไม่แน่คำวิจารณ์สวยหรูดังกล่าวอาจจะไม่ตรงจริตเรา หรือแม้แต่ข้อด้อยในมุมมองคนอื่นอาจจะเป็นจุดเด่นที่เราชื่นชอบก็ได้ อดใจรอกันอีกนิดเพราะรอบฉายปกติจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมนี้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนเป็นที่แรก ใครเป็นแฟนดิสนีย์และหวนคิดถึงหญิงแกร่งคนนี้ห้ามพลาด!