CELEBRITY
#VOGUEMORE จุดมาร์กแห่งความสำเร็จครั้งใหม่ของ “มาร์ค ต้วน” ในฐานะศิลปินเดี่ยวตัวตนที่ถูกเล่าอีกหนึ่งด้าน ค้นพบเส้นทางสายใหม่ของมาร์ค ต้วน กลับมาอีกครั้งบนปกโว้กประเทศไทย |
ช่างภาพ: ธาดา วาริช
แฟชั่นไดเร็กเตอร์: จงกล พลาฤทธิ์
นายแบบ: มาร์ค ต้วน
ผู้ช่วยสไตลิสต์: ภัทรสกรณ์ มีวรรณเลิศกุล
แต่งหน้า: วิศรุต จุลละศร
ทำผม: หฤษฎ์ ปัญญาอ้าย
อาร์ตไดเร็กเตอร์: วิวาน วรศิริ
กราฟิกดีไซเนอร์: บพิตร วิเศษน้อย
กว่า 7 ปีที่ผ่านมา หลายคนรู้จัก "มาร์ค ต้วน" ในฐานะศิลปินระดับอินเตอร์ หนึ่งในสมาชิกวง GOT7 บางคนรู้จักเขาในฐานะแร็ปเปอร์คนเก่งของวงการ คนหน้าตาดีที่ติดอันดับหนึ่งในสิบ ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยจากเมืองแอลเอ “พี่เข้” หรือ “มัคคึ” ของเหล่าอากาเซ่ และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่หลอมรวมขึ้นเป็นมาร์ค ต้วน ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ในวันนี้ทุกคนยังได้รู้จักกับอีกหนึ่งตัวตน และหนึ่งบทบาทที่ต่อท้ายชื่อของเขาอย่างเป็นทางการ มาร์ค ต้วน กับการเป็น “ศิลปินเดี่ยว”
หากก่อนลุยผลงานเดี่ยวในปัจจุบัน มาร์คได้ใช้ชีวิต 7 ปีในการเติบโตเคียงข้างกับเพื่อนๆ อีก 6 คนอย่าง Jay B, Jackson, Jinyoung, Youngjae, BamBam และ Yugyeom ผ่านการเคี่ยวกรำฝึกฝนจนงวดภายใต้สังกัด JYP Entertainment และมีแฟนคลับมากมายทั่วภูมิภาคคอยเป็นกำลังใจ สิ่งเหล่านั้นเปลี่ยนหนุ่มขี้อายสัญชาติอเมริกันเชื้อสายไต้หวันคนนี้ ที่เคยใช้ชีวิตทั่วไปในนครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้กลายเป็นศิลปินที่มีคุณภาพคนหนึ่งในวงการ K-Pop มาร์คในช่วงวัยรุ่นเลือกที่จะตามฝันของตัวเอง ก้าวสู่สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมใหม่ในประเทศเกาหลีใต้ จนกลายมาเป็นไอดอลรุ่นพี่ที่เคารพรักของเด็กรุ่นใหม่ในวงการ
แจ็กเกตบอมเมอร์คอปีนซิปหน้าผ้านีโอพรีนบุนวมเย็บลาย ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรงเอวสูงผ้าวูล เข็มขัดหนังเส้นเล็ก รองเท้าบู๊ตหนังส้นสูง ทั้งหมดจาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO
ปี 2021 คือจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่เป็นระลอกที่สองของมาร์คและเพื่อนร่วมวงก็อตเซเวน เมื่อทุกคนตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทางต้นสังกัด และจับมือกันก้าวเข้าสู่บทใหม่ของเส้นทางศิลปินที่ท้าทายมากกว่าเดิม พวกเขาทิ้งทวนกิจกรรมสุดท้ายที่งาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 35 การแสดงครั้งสุดท้ายภายใต้ค่ายเจวายพี ใจหาย...หลายๆ คนพูดถึง เมื่อได้เห็นมาร์คแพ็คกระเป๋าและก้าวออกจากตึก เพื่อนทุกคนรุมล้อมห้อมหน้าหลังส่งเขากลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนตามความต้องการของเจ้าตัว แต่ในขณะเดียวกันยังคงพร้อมกลับมารวมตัวในโอกาสต่างๆ และยึดมั่นหนักแน่นว่าวงยังคงอยู่ครบ เพียงแต่ช่วงเวลานี้ทั้ง 7 คนขอเลือกลงหลักปักฐานที่มั่นที่ใหม่ และเดินหน้าเข้าสู่เส้นทางเดี่ยวของตัวเองเพื่อตามฝันอีกครั้งหนึ่ง
ในวันที่มาร์คได้กลับมาร่วมงานกับโว้กประเทศไทยอีกครั้งใน Vogue More เราได้มีโอกาสถามเขาถึงการเป็นสมาชิกวงก็อตเซเวน ว่าที่ผ่านมาเขาได้เรียนรู้อะไรบ้าง ซึ่งมาร์คตอบคำถามที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจหนักๆ ว่า “ถ้าคุณมัวแต่กังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ คุณจะเศร้า หรือไม่มีความสุขเลยในชีวิต ในอีกแง่ ถ้าคุณไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่คุณขยันและไม่คาดหวังกับผลลัพธ์ คุณจะมีความสุขกับทุกสิ่ง...ผมเชื่ออย่างนั้นนะ”
สเวตเตอร์คอกลมเข้ารูปผ้านิตใยแคชเมียร์ สวมทับด้วยแจ็กเกตไบเกอร์ตัวสั้นหนังเย็บลาย ทั้งหมดจาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO
หากเส้นทางใหม่ย่อมท้าทาย ในฐานะศิลปินเดี่ยวมาร์คต้องปรับตัวอย่างใหญ่หลวง แต่การได้กลับมาพักผ่อนในสถานที่คุ้นเคยอย่างบ้านเกิด ได้ดำเนินชีวิตและพัฒนาตัวเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เหมือนว่าเขาได้ห่างหายจากมันไปนาน เพราะต้องสวมบทบาทและหน้าที่การเป็นไอดอลตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน มาร์คตกผลึกความคิด ดำดิ่งสู้เบื้องลึกของจิตใจ และค้นพบมาร์คอีกหนึ่งคนในนั้น มาร์คที่กล้าเปิดเปลือยทุกสิ่ง และกล้าทำโดยไร้ซึ่งขอบเขต
เขาซุ่มทำเพลงอย่างเงียบเชียบราวคลื่นใต้น้ำ ไม่นานก็ปล่อยซิงเกิ้ลแรกจากฝีมือการปั้นแต่งด้วยมืออย่าง One in a million ร่วมกับ Sanjoy แนวเพลงกลิ่นอาย R&B ผสมด้วยฮิปฮอปบางเบา เล่าเรื่องราวของการที่คนได้โอกาสมาพบบนเส้นทางเดียวกัน แต่เมื่อเวลาและโชคชะตาเกือบจะแยกพวกเขาออกจากกัน ดนตรีนำพวกเขากลับมาเจอกันได้เสมอ บทเพลงที่สะท้อนเสียงในใจและความศรัทธาของเขา ว่าในวันที่ความเชื่อและความฝันกำลังแยกทางกันไป เพลงจะดึงทุกอย่างกลับมาได้เสมอ เหมือนชีวิตที่เขาอาจต้องแยกกับเพื่อนร่วมทางและแฟนเพลง แต่ตัวเขาเชื่อว่าดนตรีจะสามารถนำพวกเรากลับมาเจอกันที่จุดเดิมได้ตลอด
WATCH
เสื้อคอจีนแขนยาวกระดุมหน้าผ้าไหม ใส่กับกางเกงขาสามส่วนเข้ารูปผ้าวูล เข็มขัดหนังเส้นเล็กหัวโลหะ รองเท้าบู๊ตหนังส้นสูงยาวถึงเข่า ทั้งหมดจาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO
มาร์คยังเล่าผ่านบทสัมภาษณ์กับ Billboard ในปี 2021 ว่าเขากำลังตามหาเสียงที่ใช่สำหรับตัวเขา และการสร้างอัลบั้มของตัวเองผ่านการศึกษาจากเพลงของศิลปินที่เขาชื่นชอบ เพลงที่ปล่อยออกมาตามๆ กันนั้นจึงข้นไปด้วยรสชาติที่แฟนๆ คาดไม่ถึง ผสมด้วยมุมที่ไม่เคยมีใครได้้เห็น รวมทั้งเต็มไปด้วยความเป็นศิลปินอีกด้านที่เพิ่งได้ค้นพบ อย่าง Last Breath คือเพลงที่ระบายความอัดอั้นซึ่งเขาเคยมีอยู่ตลอดในช่วงก่อน ราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนลมหายใจเฮือกสุดท้าย และเพลง My Life กับประเด็นหนักในชีวิตที่ว่าด้วยการพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคนอื่น จนลืมไปว่านี่คือชีวิตของตัวเขาเอง
สำหรับเพลง Lonely ที่ตามมานั้นบอกเรื่องราวการถูกทิ้งทั้งๆ ที่ทุ่มเททุกอย่างให้ จนสุดท้ายต้องจอมจมอยู่ตัวคนเดียว และ Save Me เพลงที่สะท้อนถึงความต้องการการช่วยเหลือจากใครสักคน ทุกเพลงของมาร์คเปรียบได้กับไดอารี่ส่วนตัวที่อ่อนไหวแต่จริงใจที่สุด และในครั้งนี้เขาเลือกเปิดมันออกเพื่อเผยถึงตัวตน เปลือยอย่างหมดจดให้กับแฟนๆ ได้รู้จักเขาครบทุกมุม เขายังได้ให้สัมภาษณ์กับโว้กประเทศไทยถึงการทำเพลงด้วยว่า “เบื้องหลังแต่ละเพลงมันเกี่ยวกับสิ่งที่ผมเคยประสบพบเจอมา ความทรงจำเก่าๆ ทั้งหมด เป็นความรู้สึกที่ลึกล้ำนะ เป็นเรื่องของอารมณ์ส่วนตัว บวกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ กับผม...มันจริงมากๆ เลยแหละ”
สเวตเตอร์คอกลมแขนยาวผ้านิตใยวูลผสมใยเมทัลลิก ใส่กับกางเกงขายาวทรงตรงเอวสูง กำไลข้อมือโลหะชุบเงิน กำไลข้อมือโลหะชุบเงินแต่งโซ่ รองเท้าบู๊ตหนังส้นสูง ทั้งหมดจาก SAINT LAURENT BY ANTHONY VACCARELLO
สิ่งที่เป็นพลังและแรงผลักดันให้กับการเดินไปข้างหน้าของมาร์ค คือการได้รับการสนับสนุนจากบุคคลเบื้องหลัง แฟนเพลงคือสิ่งที่เขารักและคิดถึงมากที่สุด เพราะหลังทยอยปล่อยเพลงดั่งใจหวัง หนุ่มสัญชาติอเมริกันจึงประกาศแฟนมีตติ้งเดี่ยวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกกับ “Pull-Up” Mark Tuan Fan Meeting in Thailand 2022 เพื่อหวังเก็บเกี่ยวแรงใจไปเป็นพลังงานในการเดินต่อในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้ง เขายังเผยกับโว้กประเทศไทยถึงงานแฟนมีตติ้งที่ร้อนแรงราวกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “มันคือความประใจในการได้ร้องเพลงใหม่ๆ ของตัวเอง เป็นเพลงที่ผมตั้งใจทำมากๆ เลยนะ แต่เหมือนผมไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับเพลงเหล่านั้นดี จนแฟนๆ ส่งพลังมาให้ผมเยอะมาก พวกเขาแสดงออกถึงความรักให้เพลงทุกเพลงของผม ผมไม่คิดว่าจะมีคนมากันมากขนาดนี้ ทำให้รู้สึกถึงความรักตลอดทั้ง 3 รอบของแฟนมีตติ้งเลย”
หลังจบงานแฟนมีตติ้งไปไม่นานเท่าไหร่มาร์คไม่รอช้าปล่อยเพลง Imysm เพลงลำดับที่ 5 ต่อทันที เพลงที่ส่งมอบความรู้สึกคิดถึงที่ท่วมท้นภายในใจของเขา ไม่ว่าตัวเขาจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เขายังคงระลึกถึงและซาบซึ้งต่อแฟนๆ ของเขาเสมอ เหมือนท่อนที่ร้องว่า ‘Wherever you are, I miss you so much’ และในเอ็มวีเพลงนี้เขายังได้หยิบภาพบรรยากาศจากงานแฟนมีตติ้งที่ไทยบางส่วนมาใช้ สร้างความประทับใจให้แฟนๆ กันอีกมากเลยทีเดียว
เวลาเพียงหนึ่งปีกับอีกไม่กี่เดือนเท่านั้นจากการเริ่มต้นในฐานะศิลปินเดี่ยว เพลงทั้งหมดที่เขาทำถูกกลั่นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจตกตะกอนผ่านความคิดและประสบการณ์ที่ผ่านมา สร้างมาร์คคนเดิมที่ดีขึ้นและเก่งขึ้นกว่าเก่า เหนือสิ่งอื่นใดคือมาร์คยังคงเป็นสมาชิกวงก็อตเซเวนไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงทำงานเพลงทั้งสองด้านควบคู่กันไป และยังคงมอบความรักให้กับแฟนๆ เหมือนเดิมอย่างสม่ำเสมอ “ผมต้องการเป็นตัวของตัวเอง ผมไม่อยากให้พวกเขามองว่า โอ้...เขามีชื่อเสียงนะ อยากให้มองผมว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกับเขานั่นแหละ” มาร์ค ต้วน พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่นสไตล์หนุ่มหน้าหยกคนถ่อมตนคนเดิมที่เพียงแต่เติบโตขึ้นบนเส้นทางใหม่ก็เท่านั้น
สามารถติดตามอ่านบทสัมภาษณ์สุดพิเศษฉบับเต็ม พร้อมกับแฟชั่นเซ็ตจัดเต็มได้ในโว้กประเทศไทย ฉบับสิงหาคม 2022
ต้นฉบับเรื่อง: ชานนท์ บุญญศิริ
WATCH