CELEBRITY
Little Bastard รถยนต์ต้องคำสาปของ ‘James Dean’ พระเอกเจ้าความเร็วตลอดกาลแม้ว่าจะเป็นคำสาปหรือสิ่งเหนือธรรมชาติที่อาจจะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หนึ่งสิ่งที่เที่ยงแท้ที่สุดคือการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท |
คงไม่มีใครเหมาะสมกับวลี ‘Live Fast, Die Young’ เท่ากับ James Dean อีกแล้ว ในตอนที่ยังมีชีวิต ไอคอนระดับตำนานแห่งฮอลลีวูดผู้นี้มักจะควบรถสปอร์ตคู่ใจไปไหนมาไหนเสมอ ความหลงใหลในความเร็วนี้ถึงขั้นที่เขาลงแข่งขันรถยนต์อย่างจริงจังหลายต่อหลายรายการ หรือแม้กระทั่งในวันที่โบกมือลาโลกนี้ ก็เป็นความเร็วที่พรากไป และด้วยวัยเพียง 24 ปี มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ไม่ถึง 10 เรื่อง ทว่าชื่อ James Dean กลับสามารถเคียงข้างกับตำนานฮอลลีวูดคนอื่นๆ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
อย่างไรก็ตามกลับมีบางคนเชื่อว่าไม่ใช่ความเร็วที่พรากชีวิตของ James Dean ไป ทว่าเป็นคำสาปของ Little Bastard รถยนต์คู่ใจของเขาต่างหาก เรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไรกันแน่ ติดตามอ่านได้ในบทความนี้
เติบโตมาด้วยความเร็ว
หลังจากที่ลืมตาดูโลกในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 1931 ณ รัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เพียง 5 ปี ความรักในความเร็วก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจของเด็กชาย James Dean เมื่อเขาจำเป็นต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวฝ่ายคุณตา เนื่องจากคุณแม่เสียชีวิตลง
Marcus Winslow คือชื่อคุณตา เขาชื่นชอบกีฬาแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะบาสเกตบอล, เบสบอล หรือแม้กระทั่งกีฬาที่แข่งขันกันด้วยความเร็ว ดังนั้นเมื่อ Dean อายุครบ 16 ปี สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ได้อย่างถูกกฎหมาย Marcus ก็ไม่รอช้าที่จะสนับสนุนหลานชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยการมอบของขวัญชิ้นใหญ่เป็นมอเตอร์ไซค์ Czechoslovakia ขนาด 125 cc
เนื่องจากเมืองแฟร์เมาท์ รัฐอินเดียนา ที่ Dean อาศัยอยู่กับครอบครัวคุณตา Marcus ป็นย่านชนบทที่เต็มไปด้วยที่ลานกว้างและทุ่งหญ้า ของขวัญชิ้นนี้จึงถือว่าเข้าทาง Dean สุด ๆ เขาสามารถใช้เวลาอยู่กับมันทั้งวัน ขับไปนู่นมานี่ตามที่ใจปรารถนา
"มันคือของขวัญชิ้นโปรดของเขาจริง ๆ"
"ทุกคนในย่านแฟร์เมาท์ต่างขนานนามเขาว่า ‘Dean เจ้าแห่งความเร็ว’" Dorothy Schulz คณบดีแห่งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แฟร์เมาท์เล่าย้อนความหลัง
เมื่อมีมอเตอร์ไซค์ Czechoslovakia อยู่ข้างกาย Dean ก็เลิกสนใจกีฬาประเภทอื่น ๆ อีกต่อไป เขาใช้เวลาว่างมาขลุกตัวอยู่ที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ท้องถิ่นเพื่อเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับขี่หรือซ่อมแซม แม้แต่คุณตา Marcus ก็คงไม่คาดคิดว่าของขวัญชิ้นนี้จะจุดประกายความฝันให้กับเด็กหนุ่มได้ขนาดนี้
"ความฝันสูงสุดของ Dean ไม่ใช่การเป็นสุดยอดนักแสดง แต่คือการเข้าร่วมการแข่งขัน Indianapolis 500 น่าเสียดายที่มันไม่เคยเกิดขึ้น ฉันมั่นใจว่าถ้าเขาไม่จากไปเร็วขนาดนี้ เขาสามารถทำมันได้สำเร็จอย่างแน่นอน" Schulz กล่าว
ยินดีที่ได้รู้จัก Little Bastard
อย่างไรก็ตามสุดท้ายโชคชะตาก็นำพา James Dean เข้าสู่วงการบันเทิง โดยทิ้งความฝันการเป็นนักแข่งรถอาชีพไว้เบื้องหลัง เขาเปิดตัวด้วยบทบาทนักแสดงสมทบเล็ก ก่อนที่จะใช้มันเป็นบันไดที่ทำให้ในที่สุดเขาก็ได้รับบทบาทครั้งสำคัญ ในภาพยนตร์เรื่อง East of Eden ซึ่งเข้าฉายในปี 1955
เรียกได้ว่านี่คือบทบาทที่เปลี่ยนชีวิตของ Dean ไปโดยสิ้นเชิง เพราะ East of Eden ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ทั้งในแง่รายได้และคำวิจารณ์ นั่นทำให้ Dean เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มบ้านนอกขัดสนเงินทอง กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งฮอลลีวูด ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย และก็คงเดาไม่ยากว่า Dean ใช้เงินที่ได้มาหมดไปกับอะไร….ไม่ว่าจะเป็น Triumph Tiger T110, Indian Warrior TT และ Royal Enfield 500 cc ต่างก็ทยอยเข้ามาจอดภายในโรงจอดรถของ Dean หรือแม้กระทั่งรถยนต์อย่าง MG TD และ Porsche 356 Speedster ก็เช่นกัน
จากที่เคยขี่แค่มอเตอร์ไซค์ Czechoslovakia ขนาด 125 cc ดังนั้นตอนนี้เมื่อมีทั้งมอเตอร์ไซค์และรถสปอร์ตความเร็วระดับท็อปในครอบครอง ความหลงใหลในความเร็วของ Dean ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก ก่อนที่การถ่ายทำ Rebel Without a Cause อีกหนึ่งภาพยนตร์สร้างชื่อของ Dean จะเริ่มเปิดกล้อง เขาก็ใช้เวลาว่างดังกล่าวลงแข่งขันรถยนต์ทางเรียบติดต่อกันถึง 3 รายการ
"บอกตามตรงว่าในตอนนั้น Dean โดนนักแข่งรุ่นเก๋าหลายรายดูหมิ่นพอสมควร ทุกคนมองเขาเป็นดาราที่มาแข่งรถเพื่อเป็นงานอดิเรก"
"อย่างไรก็ตามเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนประหลาดใจ ผมเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลย" Gus Viklowe จากนิตยสาร MotoRacing กล่าว เนื่องจากในการแข่งขันเปิดตัว Dean ก็สามารถคว้าอันดับ 3 มาครอบครองได้สำเร็จ เอาชนะนักแข่งอาชีพรุ่นเก๋าได้หลายราย
"การแข่งรถเป็นช่วงเวลาเดียวที่ผมรู้สึกว่างเปล่าและเป็นอิสระที่สุด" Dean กล่าวในการสัมภาษณ์หลังการแข่งขัน Palm Springs Road Races สิ้นสุดลง
WATCH
หลังจากนั้น Dean ก็กลับมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Rebel Without a Cause ต่อในฐานะพระเอกเจ้าความเร็ว ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ผลงานการแสดงของเขาประสบความสำเร็จมหาศาล นำพามาทั้งเงินทองและชื่อเสียงที่มากขึ้น Dean จึงใช้เงินนำเงินก้อนดังกล่าวไปซื้อรถยนต์คันใหม่ ที่เร็วกว่าเดิม แรงกว่าเดิม นั่นคือ Porsche 550 Spyder รถสปอร์ตที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,500 cc ให้กำลัง 110 แรงม้าที่ 7,800 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยตัวถังที่เป็นอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา
Dean ตั้งชื่อรถคันใหม่ของเขาว่า "Little Bastard" ซึ่งว่ากันว่า ชื่อดังกล่าวมาจากคำที่ Bill Hickman สตันท์นักขับคู่ใจตั้งให้เป็นฉายาของ Dean
พระเอกเจ้าความเร็วเห่อเจ้า Little Bastard เอามากๆ ถึงขั้นที่ไม่ว่าเขาจะเจอเพื่อนคนไหน ก็ต้องเอามันมาอวดอยู่เสมอ หนึ่งในนั้นคือ Alec Guinness เพื่อนนักแสดง ที่บังเอิญเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทว่าปฏิกิริยาของ Guinness เมื่อได้เห็น Little Bastard กลับผิดคาด
"ผมจำหน้าตาของ Alec ในวันนั้นได้แม่นเลยล่ะ หลังจากที่ดูรถของ Dean เสร็จ เขาก็เดินกลับมาในร้านด้วยสีหน้าซีดเผือกเลย"
"ผมรีบถามเขาว่า เฮ้เพื่อน นายโอเคหรือเปล่า?"
"เขาตอบกลับว่า โอเค แต่ช่วยบอกกับ Dean หน่อยได้มั้ยว่าอย่าขับรถคันนั้น ถ้าเขาขับรถคันนั้นเขาจะตายภายในวันพฤหัสบดีหน้า" Lew Bracker เพื่อนอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นกล่าวย้อนความหลัง
จริงอยู่ที่ Bracker ที่รู้สึกประหลาดใจกับคำพูดดังกล่าว เขาไม่รู้ว่า Guinness หมายความถึงอะไร แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อ เพราะเขาคิดว่า Guinness อาจจะกำลังหลอนยาเสพติด เนื่องจากในยุคดังกล่าวดาราฮอลลีวูดมีการใช้ยาเสพติดกันอย่างกว้างขวาง
ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องร้ายๆ กำลังจะเกิดขึ้น…
คำสาปหรืออุบัติเหตุ
หลังจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Giant เสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาปลดปล่อยชีวิตไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ Dean ตัดสินใจพาเจ้า Little Bastard ของเขาไปลงทำการแข่งขันทันที โดยรายการแรกที่ตั้งเป้าไว้คือการแข่งขันรถสปอร์ตที่เมืองซาลินาส
ในเช้าวันที่ 30 กันยายน ปี 1955 Dean พร้อมด้วยทีมงานช่างเครื่องคู่ใจซึ่งเป็นชาวเยอรมัน 3 คนได้ออกเดินทางจากฮอลลีวูด สู่เมืองซาลินาส และแน่นอนว่า Dean ขับ Little Bastard คู่ใจไปตามทางหลวงด้วยตัวเอง
มันเป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ พระอาทิตย์กำลังทอดต่ำลงมาชิดกับเส้นขอบฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ Dean และคณะกำลังขับผ่านทางหลวงหมายเลข 466 อยู่ ๆ ก็มีรถ Ford Tudor ปี 1950 ขับมาตัดหน้า Little Bastard ของ Dean แน่นอนว่ารถทั้ง 2 คันประสานงานเข้าอย่างจัง จนตัวรถสะบัดกันไปคนละทิศละทาง
Dean ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Paso Robles War Memorial Hospital ในทันที แต่น่าเสียดายที่เมื่อถึงโรงพยาบาล เขาทนพิษบาดแผลอยู่ 30 นาที ก่อนจะสิ้นใจ ปิดตำนานหนึ่งในนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น
เมื่อเรื่องราวลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม ท่าทีและคำพูดอันแปลกประหลาดของ Alec Guinness จึงถูกหยิบกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง พร้อมคำถามตัวโตๆ ว่าเขาเห็นอะไรในรถ Little Bastard กันแน่
ภาพอุบัติเหตุที่พรากชีวิต James Dean ไปตลอดกาล
Guinness ได้ออกมาอธิบายเรื่องราวนี้ในภายหลังว่า ทันทีที่เขาเห็นรถของ Dean เขาก็รู้สึกใจคอไม่ดีเลย รู้สึกว่ามันคือรถต้องคำสาปที่จะทำให้ชีวิตของทุกคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันต้องเจอกับเรื่องเลวร้าย นอกจากนั้นมีรายงานว่าอาถรรพ์ของรถ Little Bastard นั้นแรงจริง ๆ เพราะหลังจากที่เก็บซากรถของ James Dean ซึ่งพังยับเยินจากอุบัติเหตุไปไว้ในโกดัง โกดังดังกล่าวก็เกิดไฟไหม้ เท่านั้นยังไม่พอ มีรายงานว่า คนงานไม่ต่ำกว่า 2-3 คนประสบอุบัติเหตุโดนซากรถหล่นลงมาทับจนแข้งขาหัก
อย่างไรก็ตามเหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ จากการที่ศาลพิพากษาไม่เอาผิดกับคนขับรถ Ford Tudor ย่อมทำให้ Dean ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ ทว่ามีผู้ออกมาแก้ต่างให้ Dean อยู่หลายครั้ง เช่นรายงานของ LA Times ในปี 2005 ที่ได้เผยแพร่คำสัมภาษณ์ของ Ron Nelson เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงวัยเกษียณซึ่งได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุและอ้างว่า เห็น Dean หายใจรวยรินระหว่างถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาล โดยเขายืนยันว่า ผู้ผิดในเหตุการณ์นี้คือคนขับ Ford และ Dean ไม่ได้ขับด้วยความเร็ว 90 ไมล์ (145 กม.) ต่อชั่วโมงอย่างที่รายงานกัน Nelson อ้างว่า เมื่อพิจารณาจากซากรถและตำแหน่งร่างของ Dean แล้วเขาเชื่อว่า Dean น่าจะขับด้วยความเร็วราว 55 ไมล์ (86 กม.) ต่อชั่วโมงเท่านั้น
ขณะที่รายงานของ Telegraph ในปี 2005 อ้างอิงจากสารคดีของ Channel 5 ที่ใช้การวิเคราะห์หลักฐานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยสารคดีดังกล่าวให้ความเห็นว่า Dean น่าจะขับด้วยความเร็วราว 70 ไมล์ (113 กม.) ต่อชั่วโมงขณะเกิดเหตุ และเขาน่าจะพยายามเบรกอย่างสุดตัวเพื่อเลี่ยงการปะทะมากกว่าการเร่งความเร็วเพื่อหักหลบอย่างที่มีการสันนิษฐานกัน
สุดท้ายแล้วไม่ว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่ James Dean ก็ได้จากโลกนี้ไปแล้วดั่งวลี Live Fast, Die Young ซึ่งก็น่าจะเป็นคติเตือนใจให้คนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี ว่าคำสาปหรือสิ่งเหนือธรรมชาติอาจจะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หนึ่งสิ่งที่เที่ยงแท้ที่สุดคือการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
WATCH