|
CELEBRITY
เจาะลึกเส้นทาง ‘อาโป-ณัฐวิญญ์’ จากนักแสดงที่ถูกตั้งคำถามสู่นักแสดงที่ฉายแสงระดับสากลเปิดเส้นทาง ‘อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์’ หนึ่งในนักแสดงที่เคยพิสูจน์ตัวเองมามากมายกว่าจะประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้ |
ในยุคที่อุตสาหกรรมบันเทิงไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดพร้อมกับการแจ้งเกิดของนักแสดงรุ่นใหม่มากมาย ชื่อของ ‘อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์’ คือหนึ่งในชื่อที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากบทบาทที่โดดเด่นใน KinnPorsche The Series ซึ่งเขาประกบคู่กับ ‘มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’ ด้วยความลงตัวทางการแสดงที่เป็นธรรมชาติของทั้งสองได้สร้างกระแสตอบรับอย่างล้นหลามส่งให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ก้าวขึ้นมาเป็นปรากฏการณ์ในวงการบันเทิงตลาดวาย และทำให้อาโปกลายเป็นที่รู้จักในระดับสากลในเวลาอันสั้น ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวและศักยภาพด้านการแสดงที่เติบโตขึ้น อาโปจึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะพาย้อนเส้นทางความสำเร็จของอาโป ตั้งแต่ก้าวแรกในวงการบันเทิงไปจนถึงการก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในระดับสากล
View this post on Instagram
แม้ในปัจจุบัน ‘อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์‘ จะเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงระดับแนวหน้าของเมืองไทยแต่เส้นทางการแจ้งเกิดของเขานั้นกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของอาโปเกิดขึ้นจากการได้รับบท ธนา ทวีวัฒนะ ในละครเรื่อง สุดแค้นแสนรัก ซึ่งเป็นบทบาทแรกของเขาในฐานะนักแสดง แต่ผลงานชิ้นนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลายและเส้นทางการแสดงในช่วงแรกของเขากลับเต็มไปด้วยความท้าทาย อย่างไรก็ตาม อาโปกลับไม่ย่อท้อ เขาได้รับโอกาสในการพัฒนาผ่านละครอีกหลายเรื่องของช่องสาม อาทิ เลือดมังกร ชาติพยัคฆ์ หรือเพลิงพรางเทียน และอีกหลายเรื่องซึ่งเป็นการสะสมประสบการณ์ด้านการแสดงอย่างมั่นคงก่อนจะสิ้นสุดสัญญากับช่องสามไป จนกระทั่งการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ทำให้อาโปตัดสินใจพักงานจากวงการบันเทิงแล้วย้ายไปค้นหาตัวเองอีกครั้งพร้อมกับเรียนรู้ชีวิตในมุมมองอื่นที่สหรัฐอเมริกา
WATCH
โดยโอกาสครั้งสำคัญในเส้นทางสายบันเทิงของอาโปมาถึงเมื่อเขาตัดสินใจมาแคสต์ซีรี่ส์วายฟอร์มยักษ์หลังจากกลับจากสหรัฐอเมริกา กับบทบาท พอร์ช ใน KinnPorsche The Series ที่ผลิตโดย Be On Cloud ค่ายศิลปินและโปรดักชั่นเฮาส์ที่มุ่งเน้นสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ กับการประกบคู่แสดงกับ ‘มาย-ภาคภูมิ’ จนกลายมาเป็นปรากฏการณ์ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมในวงกว้าง ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นยังรวมไปถึงตลาดบันเทิงต่างประเทศ บทบาท พอร์ช ในเรื่องนี้นับเป็นจุดพลิกผันของอาโปที่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงศักยภาพการแสดงออกมาอีกครั้งอย่างเต็มที่ โดยนอกจากความสามารถที่เฉียบคมแล้ว เคมีที่ลงตัวกับมายเองก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม KinnPorsche The Series จึงกลายเป็นที่กล่าวขวัญและโด่งดังไปทั่วเอเชีย ทำให้ชื่อของอาโปเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงชายแถวหน้าของวงการ
View this post on Instagram
นอกเหนือจากความสำเร็จบนหน้าจอแล้ว อาโปยังสามารถขยายอิทธิพลไปสู่วงการแฟชั่น ด้วยเสน่ห์และบุคลิกที่โดดเด่นทำให้เขาได้รับโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ลักชัวรีระดับโลกอย่าง Dior อยู่หลายครั้งจนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น House Ambassador ประจำประเทศไทยร่วมกับมาย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงสถานะของพวกเขาในฐานะบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น และนอกเหนือจาก Dior แล้วอาโปยังขึ้นแท่น Brand Ambassador ประจำประเทศไทยของ Skechers แบรนด์แฟชั่นสายสปอร์ตผสมสตรีตแวร์ ซึ่งการร่วมงานกับสองแบรนด์ในวงการแฟชั่นยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของอาโปในฐานะนักแสดงมากฝีมือแต่ยังสะท้อนให้เห็นเสน่ห์และสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาในระดับสากลอีกด้วย
นอกจากนี้ เส้นทางสายการแสดงของอาโปยังได้รับโอกาสใหม่ๆ ในระดับนานาชาติผ่านการผลักดันสู่ตลาดสากลโดยการจับมือร่วมกันระหว่าง Be On Cloud และ Uni-icon Entertainment บริษัท Talent Management Agency จากประเทศจีน สร้างสรรค์ผลงานจอเงินเรื่องแรกของอาโป แมนสรวง ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของสังคมชนชั้นสูงในสยามสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งอาโปได้รับบท เขม นายรำหนุ่มที่ต้องแฝงตัวในคณะรำเพื่อปฏิบัติภารกิจเปิดโปงขบวนการกบฏ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการด้านการแสดงของอาโปแต่ยังสะท้อนถึงความสามารถของเขาในการถ่ายทอดบทบาทที่มีมิติซับซ้อนและท้าทายอย่างการเป็นนายรำที่ต้องใช้ทักษะนาฏศิลป์ และเป็นอีกครั้งที่อาโปได้นำพาการแสดงของเขาประสบความสำเร็จระดับนานาชาติทั้งยังส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปในตัว
View this post on Instagram
ความสำเร็จของอาโปไม่ได้จำกัดแค่ในวงการบันเทิงและแฟชั่นเท่านั้น ไม่นานหลังจากได้รับตำแหน่ง Friend of the Maison ของ Piaget แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์ก็มีการประกาศแต่งตั้งอาโปเป็น Global Brand of Ambassador คนแรกจากประเทศไทย การได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของแบรนด์ระดับโลกสะท้อนถึงศักยภาพและอิทธิพลของอาโปที่ขยายไปสู่เวทีระดับนานาชาติ และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่านักแสดงไทยสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับโลกได้อย่างแท้จริง
และปิดท้ายด้วยอีกสองโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของอาโปในปีนี้ อย่างเรื่อง Shine ซีรี่ส์ที่จัดทำขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง Be On Cloud และกระทรวงพาณิชย์ เรื่องราวที่ย้อนกลับไปในช่วงปลายยุค 60s ช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังอลหม่านเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงมากมาย ในยุคที่เสรีภาพและความหวังกำลังเบิกบาน กับเส้นทางที่ต้องเลือกระหว่างอุดมการณ์และความรัก และภาพยนตร์เรื่อง ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่จ่อคิวเข้าฉาย โดยถือเป็นภาพยนตร์ที่ท้าทายอีกหนึ่งเรื่องกับบทบาท ตี๋ใหญ่ จอมโจรในตำนานของประเทศไทยที่เคยมีตัวตนอยู่จริงและถูกดัดแปลงมาแล้วถึงสามรอบ
เส้นทางของอาโปนับเป็นเรื่องราวของความมุ่งมั่น พลังใจ และการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค จากนักแสดงที่เคยถูกตั้งคำถามสู่นักแสดงที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ ทุกย่างก้าวของเขาเป็นข้อพิสูจน์ถึงความพยายามและความตั้งใจที่จะนำพาคนคนหนึ่งก้าวสู่จุดสูงได้ และอาโปยังคงเดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุดเพียงแค่ความสำเร็จในวันนี้ แต่พร้อมที่จะสร้างสรรค์แรงบันดาลใจและสิ่งใหม่ๆ ให้วงการบันเทิงไทยและระดับโลกต่อไปอย่างแน่นอน
ภาพ: via Instagram @apo555, Courtesy of Skechers and Courtesy of WeTV
WATCH
