“หนึ่งในเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงเกาหลี” ฉายานี้คงไม่ได้มาง่ายๆ Han So Hee คือซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง อีกทั้งยังมีฐานแฟนคลับหนาแน่นทั้งในและต่างประเทศ เธอสามารถถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของตัวละครที่เธอแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง มากไปกว่านั้นเสน่ห์ของตัวเธอเองยังทำให้คนชื่นชอบและพร้อมจะติดตามทุกอิริยาบถ เพราะฉะนั้นการสร้างภาพลักษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทว่าครั้งหนึ่งเธอเคยต้องละทิ้งตัวตนหนึ่งเพื่อไล่ล่าความฝัน ถึงวันนี้จึงเกิดคำถามว่าอะไรคือกรอบความเหมาะสมในการขีดเส้นกำหนดภาพลักษณ์ที่คนๆ หนึ่งต้องแสดงออก

Han So Hee ที่มาพร้อมรอยสักก่อนเข้าวงการบันเทิงอย่างจริงจัง / ภาพ: @forsoheex

     รอยสักเปรียบเสมือนงานศิลปะที่ผนึกลงบนผิวหนังของมนุษย์อย่างเป็นอมตะ หลายคนเลือกจะสักเพื่อนำเสนอตัวตนและความชื่นชอบของตัวเอง ฮันโซฮีก็เช่นกัน เธอคือหญิงสาวผู้หลงใหลในความสวยงามของการสะกดหมึกลงบนเรือนร่าง มาถึงจุดนี้หลายคนอาจสงสัยว่ากับผู้หญิงที่ไม่มีรอยสักบนร่างกายจะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร แท้จริงแล้วในอดีตเธอเคยมีรอยสักอยู่ไม่น้อย และมันกลายเป็นขวากหนามใหญ่ที่เธอต้องเลือกจะตัดทิ้งเพื่อเดินหน้าต่อ หรือจะคงไว้และรอวันเวลาทองที่อาจไม่เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีเบิกทางได้งดงามกว่าจะยอมเสี่ยง จนสุดท้ายเธอต้องลาขาดกับรอยสักเพื่อกรุยทางให้ตัวเองโลดแล่นในวงการนี้ให้ได้

รอยสักบริเวณแขนของ Han So Hee ก่อนจะถูกลบเมื่อเข้าวงการบันเทิงเต็มตัว / ภาพ: Koreaboo

     ความมีสไตล์กับภาพลักษณ์อันงดงามขัดแย้งกันในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี ต้องบอกว่าการสร้างคาแร็กเตอร์ให้คนจดจำในฐานะเจ้าหญิงแห่งวงการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องนำเสนอแง่มุมที่สะท้อนความงดงามตามอุดมคติ การมีรอยสักอาจถูกมองว่าแสบซ่าและไม่สามารถรับความหลากหลายเรื่องบทบาทในการแสดงได้ เพราะจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้คนมิอาจจินตนาการภาพตามได้อย่างสมจริงหากฮันโซฮีต้องเล่นบทอ่อนหวาน ในขณะที่แขนเต็มไปด้วยรอยสัก นี่คือภาพจำที่อยู่ในระบบความคิดของผู้ชม ไม่ใช่แค่ในเกาหลี แต่ในหลายสังคมทั่วโลกก็มองภาพเช่นนี้เหมือนกัน

Han So Hee กับใบหน้าอันเป็นเอกลักษณ์และรอยสักที่บ่งบอกสไตล์ด้านศิลปะก่อนเข้าวงการ / ภาพ: KpopHit

     รอยสัก สาวสวย และวงการบันเทิง ทุกอย่างดูจะขัดแย้งไปหมดตามมาตรฐานกฎเกณฑ์ของวงการบันเทิงเกาหลีและวงการบันเทิงเอเชีย เพราะภาพลักษณ์ของผู้หญิงถูกกำหนดไว้อย่างคับแคบ มีใส่สีปรุงแต่งเพิ่มเติมสามารถทำได้ แต่การสร้างความเนียนละเอียดสะท้อนถึงความเฟมินีนอันอ่อนหวานคือตัวเลือกลำดับแรกๆ เสมอ หรือในอีกทางหนึ่งผู้หญิงก็เท่ได้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีค่านิยมไหนเปิดโอกาสให้สาวมีรอยสักก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มที่ขนาดนั้น แต่ถ้ามองในมุมความลื่นไหลก็เข้าใจได้ เพราะการมีร่องรอยเหล่านี้ติดตัวนั้นอาจทำให้รับบทได้ไม่มากนัก อีกทั้งยังมีภาพจำที่คนอาจยึดติดกับผู้แสดงมากกว่าตัวละครเนื่องจากความโดดเด่นของร่องรอยศิลปะบนเรือนร่าง ถ้าหากอยากจะโด่งดังและได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง การทำตัวเองเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ที่สามารถแสดงสีสันต่างๆ ได้ชัดเจนอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮันโซฮี

คาแร็กเตอร์ทรงพลังใน My Name อาจทำให้หลายคนคิดถึง Han So Hee เวอร์ชั่นมีรอยสักอีกครั้ง / ภาพ: Pinterest

     ในยุค 2022 ความหลากหลายด้านความงามกำลังเปิดกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย้อนกลับไปในปี 2016 กับการปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอเพลง “Tell Me What To Do” ของวง SHINee และเริ่มเส้นทางการแสดงอย่างจริงจังในปี 2017 กับผลงาน “Reunited Worlds” ต้องบอกว่า ณ เวลานั้นฮันก็ไม่มีรอยสักแล้ว เช่นเดียวกับซีรี่ส์ยอดฮิตอย่าง The World of the Married ในปี 2020 รวมถึงเรื่อง Nevertheless และ My Name ในปี 2021 เรียกว่าเธอสามารถก้าวทะยานขึ้นสู่ยอดพีระมิดแห่งวงการบันเทิงเกาหลีอย่างรวดเร็ว โดยแลกมาด้วยการลบรอยสักอันเป็นตัวตนเก่าของเธอ ทว่าในยุคนี้ผู้คนอาจมองอีกแบบ ผู้ใช้โซเชียลมีเดียย้อนถามเกี่ยวกับรอยสักของเธอ ซึ่งก็มีแฟนคลับฮันโซฮีมาให้คำตอบว่าเธอต้องลบเพื่อตามฝัน รอยสักเองก็ไม่ใช่วัฒนธรรมกระแสหลักในสังคมเกาหลีเดิม เพราะฉะนั้นการขึ้นมาอย่างโดดเด่นของฮันโซฮีกับรอยสักจึงไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ

ตัวอย่างรอยสักเท่ๆ ของสาวเกาหลีในยุคปัจจุบัน / ภาพ: @nauaninnau

     ในปัจจุบันวัฒนธรรมการสักถูกมองเป็นเรื่องศิลปะมากขึ้นเรื่อยๆ จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เดินทางไปเกาหลีจึงมีโอกาสเห็นว่าไม่ใช่จะชายหรือหญิงเกาหลีมีความนิยมเรื่องการสักมากจริงๆ เราเห็นผู้ชายดูเนี้ยบกริบแต่เต็มไปด้วยรอยสักทั่วทั้งตัว หรือหญิงสาวหลายคนนำเสนอคาแร็กเตอร์น่ารักสดใส แต่ก็สักลายขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยรายละเอียดความแข็งแกร่ง แม้ในอุตสาหกรรมบันเทิงจะยังไม่เห็นใครที่มีรอยสักโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เท่าคนทั่วไปในสังคม แต่รับประกันเลยว่าชุดความคิดของคนในสังคมเกาหลีเกี่ยวกับรอยสักเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเลยทีเดียว

การถ่ายแคมเปญ Balenciaga ของ Han So Hee ที่เผยให้เห็นรอยสักเล็กน้อย / ภาพ: KDrama Stars - Balenciaga

     “หากฮันโซฮีเดบิวต์ในปี 2022 อาจไม่จำเป็นต้องลบรอยสัก” ต้องบอกว่าเราก็ไม่กล้าพูดอย่างนั้นเสียทีเดียว เพราะแม้วัฒนธรรมจะค่อยๆ ขับเคลื่อน แต่การสร้างค่านิยมอันแข็งกล้านั้นถูกผลิตซ้ำมาจนเป็นที่ยึดถือ ดังนั้นถ้าเธอมาเดบิวต์ยุคนี้อาจสร้างตัวตนที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แต่สุดท้ายก็ติดกับดักความลื่นไหลในการรับงานและด้านการตลาดอยู่ดี ถึงกระนั้นการก้าวข้ามมาสู่โลกแฟชั่นของฮันโซฮีก็เป็นเวทีที่ทำให้เธอได้สัมผัสตัวตนความชัดเจนที่มาพร้อมรอยสักอีกครั้ง เธอถ่ายแคมเปญร่วมกับ Balenciaga และเผยรอยสักบริเวณเอวให้ทุกคนได้เห็นเล็กน้อย ถือเป็นร่องรอยศิลปะบนเรือนร่างที่ฮันโซฮียังคงรักษาไว้

ภาพในอดีตที่ Han So Hee สูบบุหรี่ทำแฟนคลับหลายคนตกใจ / ภาพ: KDramaStars

     คาแร็กเตอร์ “Bad Girl” กับตัวตน ณ ปัจจุบันคือตัวตนของเธอทั้งหมด เมื่อก่อนเธออาจจะมีภาพลักษณ์เป็นสาวแบด คาแร็กเตอร์ดุดันมั่นใจ เรือนร่างมีรอยสัก และสูบบุหรี่ ซึ่งมีหลายคนขุดรูปและใช้ในการสร้างความเกลียดชัง แต่ฮันโซฮีก็ยอมรับกับอดีตและภูมิใจในปัจจุบัน โดยเธอกล่าวว่า “ตอนนี้ฉันก็เป็นตัวของตัวเอง และฉันก็เป็นตัวของตัวเองในขณะนั้น(อดีต) เช่นกัน” ถึงตรงนี้มิติมุมมองของรอยสักยังคงแคบอยู่ ถึงโลกปัจจุบันจะเปิดกว้าง แต่สุดท้ายค่านิยมที่ฝังรากลึกอาจไม่ได้ถูกถอนได้ภายในระยะเวลาหลักปี ดังนั้นเคสของฮันโซฮีจึงเป็นดั่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าบางครั้งการจะเดินหน้าสู่เส้นทางตามฝันอาจต้องละทิ้งตัวตนที่ขัดต่อหลักความคิดของสังคม แล้วคุณล่ะคิดเห็นอย่างไรกับกรณีการลบรอยสักของฮันโซฮีบ้าง