CELEBRITY

เปิดบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Anne Hathaway กับบทบาทใหม่ในฐานะโกลบอลแอมบาสเดอร์ของ Shiseido

“ถ้าคุณโชคดีที่ได้มีชีวิตที่ยืนยาว ผิวของคุณก็จะสืบทอดเรื่องราวของคุณไปด้วย” Anne Hathaway เผยถึงปรัชญาในการดูแลผิวของเธอในฐานะ Vital Perfection Global Ambassador พร้อมรับหน้าที่ถ่ายทอดและส่งต่อความคิดอันทรงพลังภายใต้แคมเปญ Potential Has No Age

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา แบรนด์ชิเซโด้ ได้ประกาศแต่งตั้งให้ แอนน์ แฮทธาเวย์ นักแสดงสาวมากฝีมือและแฟชั่นไอคอนแห่งยุค ขึ้นเป็นโกลบอลแอมบาสเดอร์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Vital Perfection ที่ถูกคิดค้นเพื่อตอบโจทย์การฟื้นบำรุงผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ และด้วยแนวคิดที่ตรงกันกับแบรนด์ชิเซโด้ แอนน์ จะได้รับหน้าที่ถ่ายทอดและส่งต่อความคิดอันทรงพลังผ่านแคมเปญ “Potential Has No Age” เพื่อชื่นชมความงามทุกรูปแบบ ทุกช่วงอายุ ส่งต่อพลังบวกเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ พร้อมตอกย้ำแนวคิดที่ว่า ทุกความเป็นไปได้ เป็นไปได้เสมอ

( รูปภาพ: Courtesy of SHISEIDO )

 

Vogue: รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์และมรดกอันน่าทึ่งอย่างชิเซโด้

Anne: ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่พวกเขารู้สึกว่าฉันเหมาะสม ชิเซโด้เป็นแบรนด์ที่สื่อถึงคุณภาพสูงสุดมาหลายชั่วอายุคน พวกเขามีความซื่อสัตย์สุจริต ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ที่พวกเขารู้สึกว่าฉันเป็นคนที่สามารถสะท้อนสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ค่ะ

V: คุณชื่นชมอะไรมากที่สุดเกี่ยวกับชิเซโด้ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการสะท้อนประเพณีและค่านิยมของวัฒนธรรมญี่ปุ่น

A: ความเอาใจใส่ ความรอบคอบ ความเข้มงวด และความหลงใหล ความหลงใหลที่ว่านี้ดูเหมือนจะถูกสื่อออกมาอย่างชัดเจนมาก แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นสิ่งที่สามารถเงียบได้โดยที่ไม่ทำให้ความเข้มข้นของมันลดลงเลยเช่นกัน ฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของฉันกับ Shiseido ทำให้ฉันมองเห็นในสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น แบรนด์นี้เป็นเหมือนมรดกที่ตกทอดกันมาในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าพวกเขาสามารถก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีโลกได้โดยไม่สูญเสียอัตลักษณ์ของตัวเองไปเลย



WATCH




V: อะไรทำให้คุณตื่นเต้นที่สุดในการเป็นโกลบอลแอมบาสเดอร์คนใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Vital Perfection

A: ฉันตื่นเต้นกับตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดีมาก! แต่ฉันต้องนั่งคิดเรื่องชื่อนี้สักพักเลยเพราะฉันรู้ว่า ผู้คนรู้สึกกดดันมากกับคำว่าสมบูรณ์แบบ แต่จากอีกมุมมองหนึ่งฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะฉันรู้ว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คุณเองนั่นแหละที่กระตุ้นความสมบูรณ์แบบนั้นเพราะนั่นคือสิ่งที่อยู่ภายในตัวคุณ มันเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว เป็นวิธีการนำเสนอแนวคิดแห่งความสมบูรณ์แบบที่ทุกคนเข้าถึงได้

V: คุณเริ่มหลงใหลเรื่องการดูแลผิวตั้งแต่เมื่อไหร่

A: ฉันได้มีโอกาสทำงานร่วมกับนักแสดงสาวท่านหนึ่งในช่วงที่ฉันอายุ 20 ปี ฉันคิดเสมอมาว่าการดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญ แล้วฉันก็สังเกตเห็นว่าเธอล้างเครื่องสำอางออกหลังจากการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างไร และมันเป็นกระบวนการที่เป็นขั้นเป็นตอนการทำความสะอาดผิวของเธอเป็นกระบวนการที่มีหลายขั้นตอนมาก และมีบางอย่างที่เข้ากับฉัน ฉันก็เริ่มที่จะดูแลผิวของตัวเองอย่างพิถีพิถันมากขึ้น ผลที่ได้รับก็เรียกได้ว่าล้ำลึกมากเพราะฉันพบว่ายิ่งฉันให้ความสำคัญกับการดูแลผิวนานเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งแต่งหน้าน้อยลงเท่านั้น การแต่งหน้าไม่มีอะไรผิด จริงๆ แล้วฉันค่อนข้างแต่งหน้าเยอะมากเพื่อทำงาน แต่ฉันพบว่าฉันมีความสุขมากที่ไม่ต้องแต่งหน้าในชีวิตประจำวันปกติ

V: อะไรคือวิธีการดูแลผิวในแบบฉบับของคุณเอง 

A: ก่อนอื่นเลย ฉันจัดสรรเวลาไว้สำหรับการดูแลผิวโดยเฉพาะเนื่องจากฉันมีผิวที่แพ้ง่าย ดังนั้นถ้าฉันไม่จัดเวลาไว้ให้การดูแลผิว ผิวของฉันก็จะเกิดความเครียด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องปรนนิบัติผิวแบบเต็มขั้นตอนแต่ก็ต้องมีการบำรุงดูแลประมาณหนึ่ง มันเป็นความสุข ฉันชอบที่จะรู้สึกมีส่วนร่วมกับชีวิตของตัวเอง รู้สึกเหมือนได้ตั้งสติ มันคือความรู้สึกของการล้างเครื่องสำอางออกเมื่อจบวัน ความรู้สึกในการเติมน้ำให้ผิวก่อนนอน ความรู้สึกเมื่อทาผลิตภัณฑ์ดีๆ บนผิว ซึ่งจะทำให้ผิวมีความสุขมากๆ ซึ่งก็มีความกดดันอย่างมากในการดูแลตัวเองให้ถูกต้องทุกขั้นตอน และฉันคิดว่าจริงๆ แล้วมันไม่มีถูกหรือผิด หากคุณโชคดีพอที่จะเข้าสู่วัยหนึ่งในชีวิต คุณจะตระหนักได้ว่านิสัยของคุณคือเรื่องราวของชีวิตคุณ มันทำให้ฉันตื่นเต้นกับการลงทุนกับตัวเองในแบบที่หวังว่าจะได้เป็นสักวันหนึ่ง

V: ในเส้นทางแฟชั่นของคุณช่วงนี้ อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเริ่มออกนอกกรอบในการแต่งตัวมากขึ้น

A: หลายอย่างมาก! หนึ่งในนั้นคือ เอริน วอลช์ สไตลิสต์ที่น่าทึ่งของฉัน! เธอสร้างแรงบันดาลใจให้ฉัน สไตล์ของเธอโดนใจฉันมากและไม่ว่าเธอจะใส่อะไรก็ตาม เธอก็ใส่มันด้วยวิธีที่ง่ายดายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เสมอ เธอทำให้ฉันอยากเป็นแบบนั้นบ้าง นอกจากนั้นฉันยังสนใจแฟชั่นของคนยุคใหม่อย่างช่วงวัย Gen Z ซึ่งมันดูสนุกและน่าตื่นเต้นมากจริงๆ 

( รูปภาพ: Vittorio Zunino Celotto/Getty Images )

 

V: Gen Z ชอบสีสัน!

A: คอนเซปต์ของการแต่งตัวกระตุ้นโดพามีนเป็นเรื่องสนุกมาก ตอนนี้วงการแฟชั่นเองก็กำลังสนุก ฉันรู้สึกว่านักออกแบบรวมไปถึงทุกคนกำลังสนุกสนานกันมาก จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นอย่างนั้นมาตลอดอยู่แล้วก็ได้ เมื่อก่อนฉันอาจเป็นคนเดียวที่อยู่ในมุมคอยมองทุกคนมีความสุขและสนุกสนาน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนว่าสามารถสนุกไปกับมันได้มากขึ้นกว่าที่เคย

V: เพราะอะไรตอนนี้คุณถึงได้สนุกกับแฟชั่นที่เล่นใหญ่และมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น

A: ฉันคิดว่ามันเป็นการที่ฉันเข้าใจมานานว่าฉันควรมีเพียงสไตล์เดียวเท่านั้น ฉันรู้สึกหลงทางมากเพราะฉันไม่รู้ว่าสไตล์นั้นคืออะไรจนกระทั่งฉันพบว่าฉันมีสไตล์ที่หลากหลาย และนั่นคือเหตุผลส่วนหนึ่งว่าทำไมฉันถึงชอบเป็นนักแสดง 

V: อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับทรงผมและการแต่งหน้าที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้

A: ฉันทำงานร่วมกับคนที่น่าทึ่งซึ่งสามารถสร้างอะไรก็ได้ พวกเราสนุกกันมาก ฉันให้ความสำคัญกับความจงรักภักดี บางคนฉันก็ทำงานด้วยมานานหลายสิบปีแล้ว และฉันรู้สึกว่าเรามีความสัมพันธ์ที่ดี เราทำงานหนักมากเพื่อที่จะอยู่ในจุดที่เราอยู่นี้และเราก็ประหลาดใจที่ได้มาอยู่ในจุดนี้ด้วย ดังนั้นเราจึงสนุกกับมันจริงๆ ฉันทำงานกับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง แถมมีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันได้รับแรงบันดาลใจเหล่านั้นมาค่ะ

( รูปภาพ: Dominique Charriau/Getty Images )

 

V: แน่นอนว่าเวลาเดินพรมแดงคุณแต่งตัวได้มีเสน่ห์สวยงามมาก แต่ในวันสบายๆ สไตล์ของคุณเป็นอย่างไร

A: ฉันชอบความสมดุลมากๆ มีหลายแง่มุมในชีวิตที่ต้องเร่งรีบ ซึ่งเมื่อไม่ได้ทำงาน ฉันมักจะอยู่อย่างเรียบง่ายและสบายๆ แต่ความตลกคือ ถ้าเรียบง่ายเกินไปฉันก็ไม่ค่อยจะสบายตัวเหมือนกัน ฉันไม่น่าจะใส่กางเกงวอร์มออกไปเดินในเมือง แต่คงหาอะไรที่สบายพอๆ กับกางเกงวอร์ม แน่นอนว่าฉันมีโหมดหยุดงาน แต่ฉันก็หยุดงานในแบบฉบับของตัวเอง

V: มีวิธีอื่นอีกไหมสำหรับการปรับสมดุลให้ชีวิตของคุณ

A: ฉันกับเพื่อนคนหนึ่งเพิ่งคุยกันเรื่องนี้ ซึ่งเธอบอกว่า "ฉันไม่อินกับคำว่าสมดุล แต่ฉันอินกับคำว่ากลมเกลียว” และมันโดนใจฉันมากเพราะความสมดุลให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่ต้องทำ  ตรงข้ามกับความกลมเกลียว คุณอาจจะถามตัวเองว่า "อะไรคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างรู้สึกเหมือนอยู่ในคลื่นเดียวกัน" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงการเรียนรู้ที่จะมีสติอยู่กับปัจจุบัน และแน่นอนว่าฉันไม่สามารถทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น ฉันเป็นมนุษย์และยังต้องอาศัยการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ การมีสติอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่มันจะช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น

WATCH