CELEBRITY
บทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ! Timothée Chalamet เผยถึงความรู้สึกที่ได้เป็นเฟซคนล่าสุดของ BLEU DE CHANELTimothée Chalamet พูดคุยกับ CHANEL ถึงตัวตน ความทรงจำเกี่ยวกับกลิ่นหอมในวัยเด็ก และบทบาทใหม่ในฐานะแอมบาสเดอร์ของ BLEU DE CHANEL |
นอกจากลิสต์ตารางงานในวงการภาพยนตร์ที่ดูจะยาวเหยียดเป็นหางว่าวในปีนี้ของ Timothée Chalamet ไม่ว่าจะเป็นผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง DUNE ภาค 2 บทบาทเจ้าของโรงงานช็อกโกแลตในภาพยนตร์เรื่อง Wonka และภาพยนตร์เชิงอัตชีวประวัติของ Bob Dylan ที่หลายคนต่างรอดู นักแสดงดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส-อเมริกันวัย 27 ปีคนนี้ยังมีอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในวงการบิวตี้มาให้ได้ติดตามกัน โดยล่าสุดแบรนด์ CHANEL ได้ประกาศต้อนรับทิมโมธีในฐานะแอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุดของน้ำหอมสำหรับบุรุษ BLEU DE CHANEL ซึ่งถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับชาเนลและยังเป็นครั้งแรกของเขาในฐานะแอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์แฟชั่นและความงาม แต่เขาคุ้นเคยกับกลิ่นหอมไอคอนิกของแบรนด์ซีไขว้เป็นอย่างดี “ผมจำได้ว่าคุณยายของผมชอบซื้อนํ้าหอม CHANEL N°5 ให้กับพี่สาวของผมเป็นของขวัญวันคริสต์มาส” ทิมโมธีเล่าถึงความทรงจำแรกเกี่ยวกับน้ำหอมชาเนลในบทสนทนาแบบเป็นกันเองกับ CHANEL ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาในกรุงนิวยอร์ก โดยบอกเล่าเกี่ยวกับตัวตน ปรัชญา นํ้าหอม และบทบาทใหม่ในการเป็นตัวแทนบุรุษของ BLEU DE CHANEL ที่เปี่ยมไปด้วยแง่มุมที่หลากหลาย
แคมเปญที่กําลังจะมาถึงนี้นับเป็นครั้งแรกที่คุณได้ร่วมงานกับแบรนด์ความงามและแฟชั่นอย่างเปนทางการ ทําไมตอนนี้ถึงเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการเป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่ของ BLEU DE CHANEL
ผมไม่ต้องโน้มนาวตัวเองเลยเมื่อถูกทาบทามให้เป็นแอมบาสเดอร์คนใหม่ของ BLEU DE CHANEL การตัดสินใจไม่ต่างกับการตกลงรับเล่นหนังสักเรื่อง ผมโชคดีที่ได้ทำอาชีพที่มีโอกาสสร้างสรรค์และเลือกโปรเจ็กต์ที่ตรงกับแพชชั่นของตัวเอง เหมือนเวลาสวมถุงมือแล้วทุกนิ้วรู้สึกว่ามันพอดีเป๊ะ มันทําให้ไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลย คุณแค่รู้สึกได้ถึงความน่าตื่นเต้นและอยากทุ่มเททั้งหมดให้ในทันที
CHANEL มีประวัติเลื่องลือในการเป็นผู้นําที่พลิกโฉมวงการแฟชั่นและความงาม องค์ประกอบส่วนใดของแบรนด์ที่ทําใหคุณรู้สึกคล้อยตาม
ความกล้าแสดงออกอันเป็นธรรมชาติของ CHANEL วิธีการนําเสนอที่แปลกใหม่และประณีตโดยไม่จําเป็นต้องทําอะไรโจ่งแจ้ง สิ่งเหล่านี้ทําให้ผมรู้สึกดีมากที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์และยังรวมถึงระดับความเชื่อมั่น ความเคารพ และแนวความคิดที่ไร้ขีดจํากัดแห่งกาลเวลาที่มีอยู่ในตัวของผู้นําและผู้ร่วมงานทุกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
อย่างที่ Gabrielle Chanel เคยกล่าวว่า “แฟชั่นมีวันล้าสมัย แต่สไตล์คงอยู่ตลอดไป”
นั่นเป็นวิธีการกล่าวได้สมบูรณ์แบบมากครับ! ผมจะขอหยิบไปใช้บ้าง CHANEL คือแบรนด์และสัญลักษณ์ที่สามารถพูดถึงได้ในคลาสวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย ผมจําได้ว่าในคลาสมนุษย์วิทยาสมัยเรียน มหาวิทยาลัย เราคุยกันถึงแบรนด์ต่างๆ ที่ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษ์ณ และการเล่าเรื่องมีความหมายสอดคล้องกันและฝังแน่นอยู่ในอัตลักษณ์ ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาผมเพิ่งแวะไปที่บูติก CHANEL ในเบเวอร์ลีฮิลส์ ซึ่งเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนถึงบรรยากาศของการให้ความเคารพกันอย่างจริงใจภายในร้าน
มีประวัติอันยาวนานในความสัมพันธ์ของแบรนด์กับฮอลลีวูดและวงการภาพยนตร์ ตั้งแต้การมาเยือนลอสแองเจลิสครั้งแรกของ Gabrielle Chanel ในปี 1930 เพื่อแต่งตัวให้กับ Gloria Swanson ไปจนถึงความมุ่งมั่นจากใจจริงในการอนุรักษ์ผลงานชิ้นเอกของภาพยนตร์ ทั้งยังให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แก่ผู้กํากับและนักแสดงไม่ว่าจะเป็นหน้าใหม่ในวงการและผู้ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว การได้รับรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ CHANEL กับอุตสาหกรรมส่งผลให้การทํางานรวมกันครั้งนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้นไหม
ในฐานะคนที่หลงใหลในการสร้างภาพยนตร์และการแสดง การร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นและความงามที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับภาพยนตรมีความหมายมากที่สุดสําหรับผมครับ ยิ่งไปกว่านั้น CHANEL ยังมอบโอกาสที่น่าเหลือเชื่อให้ผมได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทําภาพยนตรสั้น ด้วยแรงบันดาลใจจาก BLEU DE CHANEL ซึ่งกํากับโดย Martin Scorsese นักเขียนชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในยุคของเรา
ไม่ต่างจากตัวคุณ BLEU DE CHANEL เปรียบได้ดั่งชายผู้เข้าใจตัวเองและโลกอย่างลึกซึ้ง กลิ่นหอมที่เผยถึงตัวตนแบบสองขั้ว ไม่วาจะเป็นแสงและเงา ยามพลบคํ่าและรุ่งอรุณ และกลิ่นวู้ดดี้ที่มีอันเดอร์โทนเป็นกลิ่นหอมสดชื่น แล้วในความคิดของคุณ BLEU DE CHANEL สื่อถึงอะไร
ผมชอบ BLEU DE CHANEL เป็นพิเศษตรงกลิ่นหอมและเรื่องราวเบื้องหลังที่เปิดใหคุณตีความได้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากภาพยนตร์และการเล่าเรื่อง การแสดงออกอย่างเปนธรรมชาติและการตีความที่แตกต่างกันออกไปของผู้ใช้ ท้ายที่สุดแล้วคือการรับรู้ว่ากลิ่นทําให้พวกเขารู้สึกอยางไร ประเด็นสําคัญมันจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าผมจะคิดอย่างไร
WATCH
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อฉีดนํ้าหอม BLEU DE CHANEL
การได้ฉีดนํ้าหอม BLEU DE CHANEL เหมือนเป็นการตอกยํ้าถึงประสบการณที่แตกต่าง อาจจะเป็นรูปลักษณ์ โอกาสพิเศษ หรือการออกเดท สําหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว นํ้าหอมมีจุดประสงค์เฉพาะ ผมไม่ใช่คนที่ฉีดนํ้าหอมตลอดเวลา แต่พอได้ฉีดมันจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งต่อมามันจะกลายเป็นความทรงจําที่ยํ้าเตือนใหนึกถึงช่วงเวลานั้น กลายเป็นบางสิ่งที่มีความหมายกับคุณมากขึ้น
แนวคิดของ BLEU DE CHANEL มีรากฐานมาจากสถานะของการเป็นคนที่ไม่จํากัดตัวเองอยู่ภายใต้กรอบเดิมๆ ตามแต่โชคชะตาจะกําหนด เป็นคนที่มองการณ์ไกลนอกเหนือจากสถานะที่เป็นอยู แนวคิดนี้สอดคล้องกับเส้นทางหรืออุดมการณ์ของคุณเองบ้างไหม
สําหรับผมแล้ว แนวคิดของการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นวนเวียนอยู่กับความทะเยอทะยานอย่างต่อเนื่องที่จะควบคุมตัวเองให้ได้มีพลังในการใช้ชีวิตตามความเป็นจริงให้มากที่สุด เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุด และการได้แสดงออกถึงสิ่งที่คุณต้องการทั้งสําหรับตัวเองและผู้อื่น หรือแม้กระทั่งการได้แสดงออกในเรื่องเล็กน้อยมากๆ ในยามบ่ายวันหนึ่ง
คุณมีความทรงจําเกี่ยวกับกลิ่นหอมที่จดจํามาตั้งแต่วัยเยาว์บ้างไหม
ผมโตมาพร้อมกับตอนที่พี่สาวของผมเต้นอยู่ที่โรงเรียนสอนเต้น Rosella Hightower ในเมืองมูแฌ็งสซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ครั้งหนึ่งแม่พาเราไปชมการปรุงนํ้าหอมที่เมืองกราสส์ ผมชอบประสบการณ์ครั้งนั้นมาก และได้ซื้อสเปรย์ฉีดห้องกลิ่นซีดาร์วู้ดกลับมาฉีดห้องนอนของผมด้วย ผมฉีดลงบนเสื้อผ้าโดยบังเอิญ แล้วกลิ่นมันก็แรงมาก แต่ผมยังจําความรูสึกในตอนนั้นได้เป็นอย่างดีเลยครับว่าการได้คัดสรรกลิ่นหอมสําหรับห้องของตัวเองเป็นการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนั่นให้ความรู้สึกของการเป็นคนฝรั่งเศสและเป็นความทรงจําที่ผมคิดถึงครับ
พลังที่กลิ่นหอมนําเสนอมีความเป็นนามธรรมและแตกต่างกันมากมาย รวมถึงสิ่งที่มันชวนใหนึกถึงและกระตุ้นให้เกิดขึ้น บทบาทใดของนํ้าหอมที่ช่วยในการเลือก กําหนด และตอกยํ้าตัวตนของผู้ใช้ รวมถึงตัวตนที่เราแสดงออกใหโลกได้เห็นด้วย
สิ่งที่ผมสนใจคือการมีอัตลักษณ์ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยประเด็นต่างๆ มากมาย การสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และการที่คุณสามารถเลือกสไตล์ใหกับตัวเองได้โดยไม่ต้องไปสนใจกรอบที่ถูกกําหนดไว้แลวนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยังเป็นสิ่งที่ยังไดรับการผลักดันในโซเชียลมีเดีย ผมนั่งคิดขณะเดินทางมาที่นี่ในวันนี้ว่ากลิ่นของนํ้าหอมนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ผ่านสื่อที่เห็นในโซเชียลมีเดีย มันคือหนึ่งในวิธีการแสดงออกถึงตัวตนได้อย่างสร้างสรรค์โดยไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งเพื่อการค้าซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ใช้ในการโปรโมท กลิ่นคือสิ่งที่มีไว้สําหรับคุณโดยแท้จริง เหมือนกับที่เสื้อผ้าทําให้ผู้สวมใส่รู้สึกแตกต่างกันถึงแม้วามันจะเป็นชุดเดียวกันก็ตาม
Olivier Polge นักปรุงนํ้าหอมของ CHANEL เน้นยํ้าบ่อยครั้งถึงแนวคิดของการทําให้สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นสามารถรับรู้ได้
นั่นเป็นการอธิบายที่ดีครับ กิจวัตรการฉีดนํ้าหอมก่อนออกจากบานนั้นมันมีเจนตนาที่เราคิดไว้ก่อนอยู่แล้ว การที่คุณฉีด BLEU DE CHANEL เหมือนเป็นการลงมือปฏิบัติในทันทีเพื่อยืนหยัดที่จะเป็นตัวเอง
การถูกเลี้ยงดูมาแบบฝรั่งเศส-อเมริกันส่งผลอะไรกับบุคลิกของคุณบ้าง
ผมเติบโตมาท่ามกลางวัฒนธรรมที่ต่างไปจากคนรอบตัว ผมใช้เวลาหน้าร้อนที่หมู่บ้านเล็กๆ ในฝรั่งเศสที่เรียกว่า Le Chambon-sur-Lignon ซึ่งต่างกันคนละขั้วกับชีวิตของผมในนิวยอร์กเลยก็ว่าได้ แต่สุนทรีย์ภาพและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของทั้งสองสถานที่ก็ยังมีแรงดึงดูดสําหรับผมเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Jay-Z, หนังอารต์ เฮาสอิสระ, วรรณกรรม, การเป็นแฟนคลับสโมสรฟุตบอล Saint-Étienne, ตํานานความผูกพันกับ McDonald’s, และเกม Xbox 360 สิ่งเหล่านี้ปะปนกันไปหมด ทว่าก็ยังทําให้ผมรู้สึกดีและเปิดใจรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ
เมื่อพูดถึงอาชีพของคุณ คุณเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ให้กับความกลัวใช่ไหม
สิ่งใดไม่ทําใหคุณเกิดความกลัว แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ท้าทายมากพอที่จะให้คุณทํามัน
ในบรรดาตัวละครหลากหลายทั้งหมดที่คุณต้องสวมบทบาทมีอะไรที่เหมือนหรือเชื่อมโยงกันบางไหม
ผมก็หวังวาจะมีความเชื่อมโยงอยู่บ้างนะครับ และถึงแม้ผมจะไม่คิดว่าบทมนุษย์กินคนในเรื่อง Bones and All หรือบทคนบ้าช็อกโกแลตใน Wonka จําเป็นต้องมีจุดเชื่อมโยงกัน แต่ผมเชื่อว่ามีความเที่ยงแท้บางอย่างแฝงอยูในตัวละครทั้งหมดที่ผมเล่น
คุณเป็นนักอ่านตัวยงที่ชื่นชอบนักคิดผู้ยิ่งใหญอย่าง Fyodor Dostoevsky, Fernando Pessoa และ George Orwell อะไรดึงดูดคุณให้สนใจวรรณกรรม
ผมอยากรู้เกี่ยวกับปรัชญามาโดยตลอด รู้สึกเหมือนมันเป็นหนทางสู่จุดสิ้นสุดของการทําความเข้าใจว่าเรากําลังอยู่ ณ จุดไหนในช่วงเวลานั้นๆ หนทางเดียวที่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิต นั่นคือจุดที่ควรจะเป็น สรุปก็คืออะไรก็ตามที่ช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ในวันนั้นและรู้ว่าจุดหมายของคุณคือที่ไหน สมัยผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมชอบ Arthur Schopenhauer เพราะงานของเขาให้ความรู้สึกถึงทฤษฎีการทําลายล้างที่มีอยู่จริงได้อย่างพอเหมาะพอดีและ Arthur Rimbaud กวีชาวฝรั่งเศสผู้ทําผลงานได้ดีที่สุดตอนอายุ 19 หรือ 20 ปี แม้แต่ Bob Dylan เองก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างล้นหลามจากเขาเช่นกัน
ปกติคุณมักจะหาแรงบันดาลใจจากที่ไหน
ผมพยายามที่จะเปิดกว้างมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แรกเริ่มเดิมทีน่าจะได้มาจากดนตรีแต่ตอนนี้จะเป็นอะไรก็ได้ครับ ประโยชน์ของการมีอายุเพิ่มขึ้นและโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คือคุณสามารถรวบรวมแรงบันดาลใจและแนวคิดจากประสบการณ์รวมถึงผู้คนที่คุณมองว่าเป็นแบบอย่าง ตอนที่คุณอายุยังน้อยคุณจะใช้สื่อเป็นตัวชี้วัดว่าสินค้าหรือข้อเสนอแบบไหนที่ดีที่สุดสําหรับคุณ แต่เมื่อคุณโตขึ้นคุณต้องการค้นหาแหล่งข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและจริงใจมากขึ้นเพื่อมาเป็นตัวช่วย
สิ่งที่คุณอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้คืออะไร
เอาจริงๆ ผมคิดมาตลอดเลยว่าถ้าได้ใช้ชีวิตในนิวยอร์กช่วงยุค 60s จะเป็นยังไง! ขณะที่ผมเตรียมจะรับบทเป็นบ็อบ ดีแลนในเรื่อง A Complete Unknown ผมได้แต่คิดถึงย่านใจกลางเมืองในตอนนั้น คงเป็นเพราะปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตในเมืองมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เลยคิดว่าจะเป็นแบบไหนนะ ถ้ามันไม่แพงและเข้าถึงได้แถมยังมีศิลปะและวัฒนธรรมมากมายให้ได้ชื่นชม ผมมักคิดถึงเรื่องนั้นมากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะแม้แต่ตัวผมเองยังเติบโตมาในนิวยอร์กที่แตกต่างจากนิวยอร์กในตอนนี้ นั่นแหละครับคือ ขอคิดประจําวันนี้
คุณรู้สึกอยากขอบคุณอะไรมากที่สุดในตอนนี้
ผมรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอยางที่เกิดขึ้นในเวลานี้เลยครับ ขอบคุณสิ่งที่ทําให้ผมรู้ว่าจะกลับไปทิ้งตัวพักผ่อนได้ที่ไหนในตอนกลางคืน และการได้ทําในสิ่งที่ผมชอบต่อไป ผมรู้สึกขอบคุณที่ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้กับ CHANEL การได้มาเป็นส่วนเล็กๆ ในเรื่องราวของแบรนด์ ได้ยกระดับมรดกตกทอดของแบรนด์ด้วยการช่วยส่งต่อเรื่องราวในบทต่อไปของ BLEU DE CHANEL
การได้ทิมโมธีมาเป็นเฟซให้กับ BLEU DE CHANEL ครั้งนี้คือการนําเสนอกลิ่นหอมอันเลื่องชื่อจากมุมมองใหมที่เปี่ยมไปด้วยพลัง โดยแคมเปญที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้นับเป็นก้าวสำคัญทั้งสำหรับทิมโมธีและแบรนด์ CHANEL เองในการท้าทายความเชื่อเกี่ยวกับน้ำหอมผู้ชายพร้อมร่วมกันเบิกทางสู่ยุคใหม่ของตัวเขาในฐานะผู้เป็นไอคอนสุดโมเดิร์นและผู้สืบสานตำนานแห่งน้ำหอม BLEU DE CHANEL
พบกับแคมเปญภาพถ่ายโปรโมท BLEU DE CHANEL ที่นำแสดงโดยทิมโมธี ชาลาเมต์ กับฝีมือภาพถ่ายโดยช่างภาพชื่อดังอย่าง Mario Sorrenti ได้ในเดือนมิถุนายน 2023 ตามด้วยแคมเปญภาพยนตร์ที่กำกับโดย Martin Scorsese พร้อมกันได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้
WATCH