Cheslie Kryst การจบชีวิตอันแสนเศร้าอีกครั้ง จากประเด็น 'Cyberbullying' ที่โลกไม่เคยจำ

     เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาวงการนางงามระดับโลกต้องเผชิญหน้ากับข่าวเศร้า เมื่อ Cheslie Kryst นางงามจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2019 ดีกรี 10 คนสุดท้ายบนเวทีมิสยูนิเวิร์สในปีเดียวกันนั้น ได้ตัดสินใจจบชีวิตลงด้วยการกระโดดตึกสูง 60 ชั้นที่ตั้งอยู่บนเกาะแมนฮัตตัน ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุสลดดังกล่าวนั้นเชสลียังได่โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวเอาไว้ว่า “May this day bring you rest and peace.” ราวกับเป็นลางบอกเหตุสำคัญก่อนการจากไปของเธอ

     หลังจากที่ข่าวการเสียชีวิของเชสลีแพร่สะพัดไปทั่วโลกภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ก็ยังมีอีกหลายสำนักข่าวที่ให้ความสนใจและตามขุดคุ้ยถึงสาเหตุที่แท้จริงที่เชสลีตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลง โดยหลายสำนักข่าวยังได้รายงานถึงเบาะแสที่ตรงกัน นั่นคือประเด็นของ “Cyberbullying” ที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจทำแบบนั้น

     ย้อนกลับไปในช่วงที่เธอได้รับตำแหน่ง Miss USA ประจำปี 2019 ใหม่ๆ ตอนนั้นเธอมีอายุได้ 28 ปี ซึ่งนับว่าเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากที่สุดที่ได้รับตำแหน่ง อีกทั้งหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่งไปแล้ว เธอยังต้องต่อสู้กับกระแสคอมเมนต์ในทางลบที่มีเข้ามาอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ที่บอกว่าเธอแก่เกินไป, ไม่สวย, สรีระของเธอดูเหมือนผู้ชายมากเกินไป หรือกระทั่งไม่เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งระดับประเทศ ทั้งหมดนี้นับเป็นกระแสคอมเมนต์ที่ทำร้ายจิตใจของเชสลีมาเป็นเวลานาน โดยเชสลีได้รับมือกับกระแสคอมเมนต์ด้านลบมากมายเหล่านั้นด้วยการลบอิโมติคอนรูปหน้าอาเจียนออกจากโพสต์บนบัญชีอินสตาแกรมของเธอนับครั้งไม่ถ้วน ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมากระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหา Cyberbullying ที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดียตอนนี้ คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับสภาวะการถูกกีดกันออกจากสังคม ซึ่งต่อมาก่อให้เกิดภาวะโรคซึมเศร้า และบางรายอาจเลยเถิดไปจนถึงการตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงดังเช่นในหลายๆ กรณี จริงอยู่ที่การก้าวเข้ามาเป็นบุคคลสาธารณะที่แสงของสปอตไลต์ส่องถึงอยู่เสมอนั้นจำเป็นที่จะต้องมีความเข้มแข็งมากพอในการตั้งรับกับกระแสอันหลากหลายที่พร้อมจะถาโถมเข้ามา หากเราทุกคนก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า จำเลยที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ในตอนนี้คือ “มนุษย์” ธรรมดาคนหนึ่งที่มีขีดจำกัดด้านอารมณ์และการรับมือไม่ต่างจากคนทั่วไป

     ความน่าเสียดายที่สุดของข่าวในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่การตัดสินใจปลิดชีพชีวิตตัวเองเพื่อสังเวยให้กับความคิดเห็นด้านลบจากบุคคลนิรนามในโลกโซเชียลเท่านั้น แต่โลกใบนี้ยังต้องสูญเสียบุคคลที่มีค่าที่สุดคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยลงมือเคลื่อนไหวผ่านแคมเปญ #BlackLivesMatter อย่างจริงจัง และยังเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กสาวทั่วโลกได้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความภาคภูมิใจในตัวเองบนเวทีมิสยูนิเวิร์สมาแล้ว