CELEBRITY

เจาะลึกคาแร็กเตอร์อันโดดเด่น 3 สไตล์จาก 3 แบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยของ CHANEL

ตั้งแต่ ‘ออกแบบ หมาก และ เบ็คกี้’ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาทำให้ชาเนลเป็นแบรนด์ที่แตกต่าง

หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สามารถดึงดูดและสร้างมูลค่าในอุตสาหกรรมรวมถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างตำแหน่ง ‘แบรนด์แอมบาสเดอร์’ ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเริ่มจากฝั่งตะวันตกก่อนจะค่อยๆ แพร่กระจายมายังฝั่งตะวันออกและมาสู่ประเทศไทย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเองก็เติบโตรวดเร็วจนเป็นที่น่าจับตาจากตลาดโลก เช่นเดียวกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง CHANEL ที่เพิ่งประกาศแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุดอย่าง ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง’ นักแสดงสาวดาวรุ่งในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนที่ 3 ต่อจาก ‘ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง’ และ ‘หมาก-ปริญ สุภารัตน์’ ที่ขึ้นแท่นไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแต่ละคนต่างมีบุคลิกและสไตล์ที่แตกต่างกันแต่สามารถสะท้อนและหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของชาเนลได้อย่างลงตัว โดยพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนเท่านั้นแต่ยังเป็นภาพสะท้อนของสิ่งที่แบรนด์ต้องการนำเสนอ

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Chutimon Chuengcharoensukying (@aokbab)

‘ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง’ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนแรกของชาเนลโดยเธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับชาเนลมาตั้งแต่ปี 2018 กับการไปชมแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2019 ก่อนที่ไม่กี่เดือนต่อมาออกแบบจะได้มาปรากฏตัวในทีเซอร์สำหรับโชว์ CHANEL Cruise 2018/2019 Replica ที่จัดแสดงที่กรุงเทพฯ และมีโอกาสได้ร่วมงานกับชาเนลในอีกหลายโปรเจกต์หลายแขนงไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น บิวตี้ หรือจิวเวลรี และหลังจากร่วมงานกันมายาวนาน ชาเนลก็ได้ประกาศแต่งตั้งให้เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการ พร้อมกับหนึ่งก้าวสำคัญอย่างการร่วมเดินแบบในโชว์ CHANEL Cruise 2024/25 ณ ประเทศฮ่องกง นับเป็นการเดินทางสู่ความสำเร็จในระดับสากลของเธอที่สะท้อนภาพในการไล่ล่าความท้าทายอันแปลกใหม่ โดยออกแบบสามารถนำเสนอแฟชั่นที่ผสานตัวตนเข้ากับแบรนด์ได้อย่างหลากหลายแนวทางผ่านภาพของสาวชาเนลผู้เก่งกาจเปี่ยมไปด้วยความสามารถเชิงศิลปะจากการที่เธอคว้ารางวัล International Emmy Awards 2024 สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ พร้อมทั้งเป็นดั่งตัวแทนพลังของผู้หญิงที่สอดประสานกับแก่นแท้ของชาเนลที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ยุคของ Gabrielle Chanel

 




 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Prin Suparat (@mark_prin)

‘หมาก-ปริญ สุภารัตน์’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้ชายไทยคนแรกของชาเนลจากการที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ในหลายๆ ครั้ง อาทิ การถ่ายนิตยสารแฟชั่นต่างๆ การร่วมทริปของฝั่งชาเนลบิวตี้เป็นประจำอย่างการร่วมค้นพบความน่าอัศจรรย์ของดอกคามิลเลียสีแดงอันเป็นหัวใจของส่วนผสมใน N°1 de CHANEL ไลน์สกินแคร์เจนเนอเรชั่นใหม่ของชาเนล และที่โดดเด่นอย่างการเป็นตัวแทนนาฬิการุ่น J12 ที่เข้ากันได้ดีกับสไตล์อันเรียบเท่ของเขา ซึ่งหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ หมากได้สะสมประสบการณ์และทักษะการแสดงจนก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งการเติบโตบนเส้นทางในวงการบันเทิงของเขาได้ต่อยอดในอีกหลายบทบาทและหลายอุตสาหกรรม โดยหนึ่งในนั้นคือการชิมลางก้าวเข้ามาสู่วงการแฟชั่น จิวเวลรี และนาฬิกาอย่างเต็มตัว ซึ่งจากการร่วมงานในหลายครั้งส่งให้หมากขึ้นแท่นเป็น Friend of the House ของชาเนลก่อนจะเลื่อนมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตัวตนที่น่าค้นหาของหมากที่สามารถผสานความเรียบง่ายเข้ากับความหรูหราได้อย่างเป็นธรรมชาติสะท้อนออกมาเป็นความเท่แบบที่ไม่ต้องพยายามหรือ Effortless Chic อันเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของชาเนล

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Rebecca Patricia Armstrong (@beccca)

และปิดท้ายด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดอย่าง ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง’ ที่เพิ่งเปลี่ยนสถานะเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือนหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสได้ร่วมงานกันอยู่เรื่อยมาจากจุดเริ่มต้นในฐานะแขกคนสำคัญของชาเนลที่เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ในช่วงปารีสแฟชั่นวีกคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ณ Grand Palais เรื่อยมาจนถึงปารีสแฟชั่นวีกครั้งล่าสุด ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 ที่เบ็คกี้ได้ไปร่วมงานในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนที่ 3 ต่อจากออกแบบและหมาก เบ็คกี้ได้สร้างปรากฏการณ์ Thai Power ในแฟชั่นวีกครั้งล่าสุดผ่านการสร้างมูลค่า EMV ที่สูงจนติดท็อป 10 ลิสต์คนดัง โดยสร้างมูลค่าสูงถึง 9.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนตัวตนที่ยิ่งใหญ่และความทรงอิทธิพลของเธอรวมถึงบุคลิกที่สามารถดึงดูดความสนใจผู้คนได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัว เบ็คกี้สามารถนำเสนอความเป็นชาเนลผ่านลุคที่ดูโดดเด่นอยู่เสมอ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอสามารถผสานความเป็นตัวเองเพื่อสะท้อนคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดั่งตัวแทนของสาวยุคใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจส่งให้ชาเนลดูเข้าถึงง่ายมากขึ้น

 

ด้วยสามคาแร็กเตอร์จากสามแบรนด์แอมบาสเดอร์ส่งให้ชาเนลมีความหลากหลายมิติ ไม่เพียงในด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เข้มแข็งขึ้นแต่ยังสะท้อนความหลากหลายและความลึกซึ้งที่ชาเนลต้องการนำเสนอผ่านทั้งสามตัวแทนที่มีบุคลิกแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นภาพของหญิงสาวผู้เก่งกาจ ความเรียบง่ายที่ผสานความเท่อย่างเป็นธรรมชาติ หรือการนำเสนอความสดใสและมั่นใจ ซึ่งทั้งหมดนี้คือคาแร็กเตอร์ที่ผสานเข้ากับชาเนลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เปี่ยมไปด้วยบุคลิกโดดเด่นเหล่านี้ส่งให้ชาเนลเป็นแบรนด์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นไอคอนของโลกแฟชั่นเสมอมา ไม่แน่ว่าอาจได้เห็นการร่วมงานระหว่างชาเนลและคนไทยอีกก็เป็นได้

 

(สามารถตามไปอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ CHANEL ได้ที่ https://www.vogue.co.th/Search/index?search=CHANEL)

 

Photo: Courtesy of CHANEL

WATCH

 
Close menu