หล่อจนไม่อยากลืม! เหล่านี้คือหนุ่มฮอลลีวู้ดที่สาวๆ แทบทุกคนต้องเคยตกหลุมรักมาก่อน

ถ้าปัจจุบันมี Timothée Chalamet, Justin Bieber หรือ Shawn Mendes ที่ให้สาวๆ รุ่นใหม่ได้ตกหลุมรักกันแล้ว สมัยก่อนล่ะคุณคิดว่าจะมีใครกันบ้าง วันนี้โว้กรวบ 9 หนุ่มหน้าหล่อที่มาพร้อมทักษะในด้านการแสดงและการร้องเพลงที่ทำให้เราเคยตกหลุมรักมาก่อนในวันวานมาให้ได้ชมกัน จะมีใครบ้างตามมาดู

Brad Pitt

โครงหน้าบึกบึนราวเทพเจ้าสร้างของหนุ่ม Brad Pitt คือสิ่งที่มัดใจสาวๆ ได้อยู่หมัด แต่หากความชื่นชอบคงอยู่ไม่ได้นาน ถ้าหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีฝีมือทางด้านการแสดงที่เรียกว่าสุดยอด เพราะแบรดไต่เต้าจากบทตัวประกอบในภาพยนตร์มาหลายเรื่องกว่าจะได้ฉายแสงฝีมือทางด้านการแสดงกับการแจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่อง Legends of the Fall จนได้รับเสนอชื่อเข้าชิงในบทสมทบชายยอดเยี่ยมจากรางวัล Golden Globe Awards การแสดงของเขาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งจากลีลาสายบู๊ในภาพยนตร์เรื่อง Troy กับการรับบทเป็นนักรบกรีก Achilles และก้าวต่อมากับการได้พบรักนักแสดงสาว Angelina Jolie ในภาพยนตร์เรื่อง Mr. and Mrs. Smith  ที่แม้ภายหลังจะเลิกราหย้าร้างกันไปหลังมีลูกแท้ๆ และลูกบุญธรรมด้วยกันถึง 6 คน

Leonardo Dicarprio

ไม่มีเขาคนนี้เป็นไปไม่ได้กับหนุ่ม Leonardo Dicarprio ไม่ใช่แค่หน้าตาและรูปลักษณ์ชวนใจสั่นเท่านั้น แต่ทว่าทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมที่ฉายแววตั้งแต่เริ่มเข้าวงการแรกๆ กับภาพยนตร์เรื่อง What’s Eating Gilbert Grape เคียงบ่าเคียงไหล่กับ Johnny Depp ในบทของเด็กพิการทางสมองและนั่นทำให้เขาได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมของรางวัลออสการ์ และแม้จะชวดรางวัลครั้งนี้หากลีโอเดินหน้าต่อกรุยทางให้เขามีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นจากภาพยนตร์รักโศกนาฏกรรมเรื่อง Romeo + Juliet ก่อนจะตามมาติดๆ กับภาพยนตร์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดการกับบทหนุ่มผู้รักอิสระ Jack Dawson ในภาพยนตร์ Titanic ที่ทำเอาสาวๆ ทั่วโลก ย้ำว่าทั่วโลกต้องยอมศิโรราบให้กับหนุ่มคนนี้

Ryan Gosling

นักแสดงชาวแคนาดาพร้อมหน้าตาจิ้มลิ้มพิมพ์ใจอย่าง Ryan Gosling เข้าวงการด้วยการร่วมรายการ "The Mickey Mouse Club" ในวัย 12 ขวบ (เพื่อนร่วมคลาสของ Justin Timberlake, Britney Spear และ Christina Aguilera) และจากการเป็นนักร้องในวัยเด็กเขากลับพบว่าชื่นชอบการแสดงมากกว่า หลังจากนั้นไรอันเดินหน้าเต็มตัวด้วยการเป็นนักแสดงมาหลายบทบาทก่อนจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความสามารถด้านการแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง The Believer และเป็นที่พูดถึงไปทั่วบ้านทั่วเมืองด้วยบทพระเอกหนุ่มผู้มีรักมั่นคงประกบคู่กับ Rachel McAdams ในภาพยนตร์รักโรแมนติก The Notebook ที่ทำให้สาวๆ ทุกคนตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น หากหนุ่มไรอันยังได้เสนอเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากภาพนตร์รักโรแมนติกดราม่าเรื่อง Blue Valentine เข้าคู่กับ Michelle Williams อีกด้วย

Chad Michael Murray

สาวๆ แทบทุกคนต้องเคยดูภาพยนตร์น่ารักชวนอมยิ้มที่ดัดแปลงมาจากเทพนิยายสุดโรแมนติกอย่างหนังเรื่อง A Cinderella Story ที่ทำให้เราได้ตกหลุมรักหนุ่ม Chad Murray กับบทหนุ่มสุดหล่อกัปตันทีมอเมริกันฟุตบอลในโรงเรียนมัธยมปลายที่ตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่งผ่านการคุยแชตทางโทรศัพท์ โดยหนุ่มแช็ดประกบคู่เรื่องนี้กับนักร้องเสียงใสขวัญใจวัยรุ่นอย่าง Hilary Duff ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ก่อเกิดภาพยนตร์รักสาวนางซินฉบับดัดแปลงคล้ายกันตามออกมาอีกมากมาย โดยหนุ่มแช็ดรับบทภาพยนตร์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาโด่งดังอีกครั้งกับซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง One Tree Hill และด้วยหุ่นสูงโปร่งกับผมสีบลอนด์สุดดูดีก็ไม่แปลกนักหากเขาจะซิวหัวใจสาวๆ ไปครองได้อย่างหน้าตาเฉย

Ryan Phillippe

ต่อกันที่นักแสดงหนุ่มอย่าง Ryan Phillippe หนุ่มผมหยักศกนัยน์ตาสีฟ้าที่แจ้งเกิดจากบทนักแสดงนำจากภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง I Know What You Did Last Summer ที่กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่ว หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้นำชื่อเสียงมาให้เขามากขึ้น หนุ่มฟิลิปป์ก้าวกระโดดอีกครั้งด้วยการรับบทนำจากภาพยนตร์เรื่อง Cruel Intention ประกบคู่แฟนสาวในชีวิตจริงอย่าง Reese Witherspoon โดยทั้งคู่ใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันเป็นเวลา 7 ปีก่อนตัดสินใจแยกทาง อย่างไรก็แล้วแต่หากเราเป็นสาวรีสในวันนั้นก็คงไม่พลาดที่จะตกหลุมรักหนุ่มสุดคิ้วท์คนนี้อย่างแน่นอน (แม้รู้ว่าจะคบกันได้แค่ 7 ปีก็ตาม ก็แล้วใครจะไปทนกับเสน่ห์ของหนุ่มคนนี้ได้กันล่ะ จริงไหม)

Zac Efron

กระเถิบให้วัยรุ่นขึ้นมาหน่อยก็คงจะเป็นหนุ่มฮอตสุดหล่อล่ำอย่าง Zac Efron ที่โด่งดังจากภาพยนตร์มิวสิคัลภาคต่ออย่าง High School Musical โดยหนุ่มแซครับบทเป็นกัปตันทีมบาสเก็ตบอลสุดฮอตขวัญใจคนทั้งโรงเรียนที่กำลังตัดสินใจเลือกทางเดินของชีวิตระหว่างการเป็นนักบาสหรือการเป็นนักแสดง ด้วยท่าทางขี้เล่นและรอยยิ้มหวานที่มาพร้อมดวงตาสีฟ้ากุมหัวใจสาวๆ ได้แน่น โดยช่วงขาขึ้นของแซคคือภาพยนตร์เรื่อง 17 Again ด้วยบทชายวัยกลางคนที่ล้มเหลวกับชีวิตทั้งเรื่องงานและครอบครัว แต่ตัวเขามีโอกาสได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนอายุ 17 ปีเพื่อแก้ไขชีวิตของเขาอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็ยังสยบหัวใจสาวๆ ได้อยู่หมัดด้วยอาวุธพิฆาตอย่างกล้ามแน่นๆ ที่มาพร้อมทักษะการเล่นบาสเก็ตบอลนั่นเอง

Jesse Mccartney

นิวยอร์กส่งเข้าประกวดกับอีกหนึ่งหนุ่มนักร้องเสียงเอกลักษณ์แนวป็อปและอาร์แอนด์บี Jesse Mccartney เขาเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Dream Street มาก่อน หากเป็นบอยแบนด์ได้ไม่นานเขาเลือกเดินตามฝันตัวเองด้วยการโซโล่เป็นนักร้องเดี่ยวกับซิงเกิ้ลเพลงแรกของตัวเองอย่าง Beautiful Soul ที่ได้เสียงตอบรับอย่างเนืองแน่นจากแฟนเพลง ก่อนที่เขาจะปล่อยเพลงอื่นตามมาอย่าง She’s no you, Because you live จากอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกับซิงเกิ้ลแรก และแน่นอนว่านอกจากเสียงร้องสุดเท่แล้ว ลีลาบนเวทีของเขาก็มีเสน่ห์จนสาวๆ ไม่หวั่นไหวไม่ได้เด็ดขาด

Justin Timberlake

ก่อนหนุ่ม Justin Bieber จะได้แจ้งเกิด หนุ่ม Justin Timberlake นั้นฉายแววหล่อสั่นสะเทือนวงการมาแล้วตั้งแต่เริ่มต้นวัยละอ่อนจากการเป็นศิลปินเด็กให้กับค่ายดิสนีย์คลับในวันนั้น หากหลังเป็นเด็กดิสนีย์ได้ไม่นานหนุ่มจัสตินผันตัวเองไปเป็นบอยแบนด์ในวง N Synce พร้อมออกซิงเกิ้ลมากมายที่ทำเอาสาวๆ กรี๊ดกันคอแทบแตกไม่ว่าจะเป็น Bye Bye Bye, It’s Gonna Be Me และไม่นานบทบาทในการเป็นบอยแบนด์ของจัสตินก็ต้องจบลง หลังจากแยกย้ายจากวงเอ็นซิงค์ไปหนุ่มจัสตินเดินหน้าต่อในฐานะนักร้องเดี่ยวที่ได้รับคะแนนความนิยมแบบพุ่งปรี๊ดของช่วงชีวิตไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิตติดหูอย่าง Cry me a river, Sexy Back หรือ Mirror

The Jonas Brother

ถ้าปัจจุบันมี One Direction (แม้จะแยกวงไปแล้ว) 5 second of summer หรือ Why don’t we สมัยก่อนก็คงหนีไม่พ้นสามหนุ่มพี่น้องวง The Jonas Brother อันประกอบไปด้วย Ken, Joe และ Nick สามหนุ่มวัยใสกับแนวดนตรีป็อปร็อกที่มาพร้อมหลากคาแรกเตอร์ขโมยหัวใจสาวๆ วัยรุ่นในยุคนั้นได้อย่างน่ารักน่าชัง โจนาสบราเทอร์สโด่งดังมาจากการปลุกปั้นของสถานีโทรทัศน์ Disney Channel ที่เคยดันนักร้องสาวอย่าง Miley Cyrus จากซีรีส์เรื่อง Hannah Montana ด้วยการออกอัลบั้มแรกอย่าง It's About Time หากเส้นทางของทั้งสามหนุ่มที่โด่งดังจนพลุแตกคงเป็นช่วงการเติบโตในอัลบั้มที่ 3 อย่าง A Little Bit Longer กับค่ายเพลงใหม่ที่โตเป็นวัยรุ่นขึ้น โดยมีซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยชิมลางก่อนเพื่อนอย่าง Burnin’ Up และแม้ 3 พี่น้องจะยุบวงไปเมื่อ 2013 แต่ 6 ปีให้หลังเขาก็กลับมารวมตัวพร้อมเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ได้เหมือนเคย