Son vs Jennie เปิดกลยุทธ์ของ Calvin Klein ที่เลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์เกาหลีต่างเพศต่างสไตล์
รูปแบบการนำเสนอความเย้ายวนที่มีรากฐานต่างกัน สะท้อนรูปแบบการมองความเซ็กซี่และสร้างตัวตนในแบบฉบับ Calvin Klein ที่หลากหลายกว่าเดิม
เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2022 Calvin Klein ประกาศให้ Son Heung Min ดาวเตะเกาหลีจากสโมสรท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ นับเป็นซูเปอร์สตาร์จากแดนกิมจิอีกรายที่สามารถโลดแล่นอยู่ในแคมเปญของแบรนด์ระดับยักษ์ใหญ่ได้ ทว่าทิศทางการเลือกผู้นำเสนอแบรนด์ครั้งนี้อาจแตกต่างไปจากเดิม เพราะก่อนหน้านี้ผู้คนตื่นเต้นกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ฝ่ายหญิงจากเกาหลีอย่าง Jennie แห่งวงแบล็กพิงก์ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าความแตกต่างตรงนี้เป็นความตั้งใจของแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาอย่างไร และมีผลอย่างไรในเชิงลึก
Son Heung Min ถ่ายแคมเปญของแบรนด์ Calvin Klein ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์
กรณีของซนต้องบอกว่าเขาเป็นนักเตะเกาหลีที่เนื้อหอมสุดขีด ด้วยวัย 30 ปี ถือเป็นจุดพีกของวงการลูกหนัง และด้วยผลงานในพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่เขาแปลงร่างเป็นเครื่องจักรสังหารประตู ทำให้ตอนนี้ว่ากันว่าเขาเป็นนักเตะเอเชียที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่ง ดังนั้นไม่น่าแปลกใจถ้าแบรนด์จะหานักกีฬาสัญชาติเกาหลีที่โด่งดังและยอดเยี่ยมที่สุด ก็จะมองข้ามซนไปไม่ได้ เขาจึงมีโอกาสเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ พร้อมทั้งถ่ายแคมเปญโดยการสวมไอเท็มชิ้นเด่น ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มใหม่ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ชุดชั้นใน และกางเกงเดนิม ซึ่งทั้งหมดเป็นไอเท็มหลักที่ทุกคนคุ้นภาพแบรนด์คาลวิน ไคลน์กันเป็นอย่างดี
Son Heung Min ถ่ายแคมเปญของแบรนด์ Calvin Klein ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์
ในจุดนี้ต้องบอกว่าซนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นสุดขีด ทั้งในและนอกสนาม การขึ้นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าวิธีการเลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์จากต่างวงการกำลังสร้างมิติการนำเสนอที่มีอิทธิพลในวงกว้าง ซนคือฮีโร่ด้านกีฬาของชาวเกาหลี เขาเป็นต้นแบบของเหล่าสุภาพบุรุษในประเทศและเป็นแรงบันดาลใจให้คนเอเชียมากมาย เพราะฉะนั้นการได้เขามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หมายความว่านี่คือการส่งเสริมเสื้อผ้าที่ผูกโยงกับเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะชุดชั้นในที่ซนอวดโฉมความงามของรูปร่างอันเป็นแรงบันดาลใจอย่างเปิดเผย และนั่นก็เป็นแง่มุมที่สะท้อนเรื่องสุขภาพและการเป็นแรงผลักดันควบคู่ไปกับวิถีความงดงามที่แบรนด์ต้องการนำเสนอมาโดยตลอด
WATCH
Jennie ถ่ายแคมเปญของแบรนด์ Calvin Klein ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์
ตัดภาพกลับมาที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ฝั่งหญิงอย่างเจนนี่กันบ้าง เธอคือซูเปอร์สตาร์แห่งวงการเคป๊อปที่ทุกคนให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่เรื่องกีฬา ด้านแฟชั่นและอุตสาหกรรมบันเทิงต่างหาก แฟชั่นของเธอผูกโยงกับวิถีความงามตามแบบฉบับของคาลวิน ไคลน์เช่นกัน การอวดโฉมเรือนร่างในอุดมคติของใครหลายคนคือจุดมุ่งหมายที่สามารถดึงดูดความสนใจจากทั้งแฟนคลับของตัวเธอและแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับคาแร็กเตอร์ที่มีความเซ็กซี่แต่ไม่หวือหวาจนเกินพอดียิ่งทำให้เสน่ห์ของเจนนี่ถูกใจคนในวงกว้าง ไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ตาม นั่นแปลว่าพลังของสาวคนนี้สามารถสร้างกลไกแห่งการโฆษณาได้อย่างมหาศาลจริงๆ ซึ่งแบรนด์ก็ใช้แนวทางเดียวกันในการเลือก Jung HoYeon เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกคนหนึ่ง
Jennie ถ่ายแคมเปญของแบรนด์ Calvin Klein ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์
ความเซ็กซี่เย้ายวนและไลฟ์สไตล์ความเก๋ ในมุมของตลาดคาลวิน ไคลน์ฝั่งผู้หญิงมุ่งไปในเรื่องไลฟ์สไตล์และแฟชั่นมากกว่าแคมเปญของผู้ชาย เรามีโอกาสเห็นเจนนี่ในชุดหลากสไตล์ และชุดชั้นในอันโดดเด่นนั้นก็มาพร้อมบรรยากาศแห่งความเซ็กซี่มีระดับ สะท้อนกลิ่นอายเฟมินีนออกมาอย่างชัดเจน ในขณะที่ภาพของซนแม้จะเผยให้เห็นเรือนร่างเหมือนกัน แต่มันเป็นความเซ็กซี่อันเปี่ยมไปด้วยความเซ็กซี่ที่แข็งแรง ผสมผสานกลิ่นอายความเย้ายวนลงไปบ้างตามมนต์เสน่ห์ของแบรนด์ ทว่ากลุ่มเป้าหมายในการนำเสนอก็มีทิศทางการมองแคมเปญต่างกันอยู่พอสมควร และยิ่งมองย้อนกลับไปถึงแคมเปญเก่าๆ ของแบรนด์จะเห็นว่าแคมเปญฝั่งผู้ชายจะเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและรูปแบบความเซ็กซี่ที่แมสคิวลีนจ๋าๆ ในขณะที่ผู้หญิงจะมีความเก๋เซ็กซี่น่าค้นหา ซึ่งทั้งหมดสะท้อนคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ทั้ง 2 ด้าน และนี่คือกลยุทธ์ที่คาลวิน ไคลน์เลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์สัญชาติเกาหลีแบบต่างเพศ ต่างสไตล์ และต่างจุดมุ่งหมาย แต่สุดท้ายปลายทางก็คืออารมณ์ความรู้สึกเย้ายวนชวนค้นหาแต่เพิ่มรูปแบบให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้นนั่นเอง
ภาพ: Calvin Klein
WATCH