Bright for Calvin Klein
CELEBRITY

จาก 'ผู้ชายตะวันตก' ถึง 'ผู้ชายเอเชีย' ประวัติศาสตร์ความเซ็กซี่บนเรือนร่างหนุ่ม Calvin Klein

กว่าเราจะได้เห็น Mark Tuan, Jungkook BTS หรือกระทั่ง ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ได้ขึ้นไปอยู่บนแฟชั่นแคมเปญ Calvin Klein สุดเย้ายวนแบบนั้น ไม่ได้ง่ายและรวดเร็วอย่างที่คิด เพราะพื้นที่แห่งนั้นเคยเป็นพื้นที่สงวนไว้ให้แค่ "ผู้ชายฝั่งตะวันตก" มาก่อน!

     นับเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ตลาดการค้า "ชุดชั้นใน" แบรนด์ดังกลับมาคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นฟากฝั่งของ Victoria's Secret ที่กลับมาประกาศจัดโชว์ครั้งยิ่งใหญ่ในชื่อ #TheTour23 หลังจากหันหลังให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไปนานหลายปี เพื่อกลับไปทบทวนและรีแบรนด์ใหม่ให้ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น จนตอนนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนแฟชั่นและสื่อใหญ่ทั่วโลก ซึ่งพากันลุ้นว่าการกลับมาครั้งนี้จะยิ่งใหญ่และแปลกใหม่แค่ไหน หรือกระทั่งในฝั่งของ Calvin Klein ก็ไม่น้อยหน้า พาเหรดปล่อยแคมเปญชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับชาวไทย ด้วยการดึงตัวหนุ่มสุดฮอตอย่าง "ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี" มาร่วมถ่ายแคมเปญชุดชั้นในเป็นครั้งแรก ที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าสาวกแฟนคลับไปได้อย่างท่วมท้นตามคาด หรือล่าสุดกับแคมเปญใหญ่ที่ดึงเอาแบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดังทั้ง Kendall Jenner, เจนนี่ BLACKPINK และ จองกุก BTS มาถ่ายทอดความเย้ายวนขั้นสุด จนกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก

     ความน่าสนใจของแคมเปญสุดเย้ายวน หลังจากที่เหล่าคนแฟชั่นร่วมสังเกตการณ์กันมาหลายปี ก็คงจะเห็นพ้องต้องกันว่า ตลอดเวลาหลายทศวรรษจากจุดกำเนิดของแคมเปญแฟชั่น Calvin Klein นั้น ผู้ชายคนดังที่ได้รับเลือกให้ขึ้นแคมเปญล้วนแล้วแต่เป็นชายชาวตะวันตกทั้งสิ้น ที่ร่วมสร้างโมเมนต์ไอคอนิกและหน้าประวัติศาสตร์อันน่าจดจำให้กับแบรนด์ Calvin Klein เสมอมา ไม่ว่าจะเป็น Tom Hintnaus ในปี 1982-1983, Mark Wahlberg ในปี 1992, Antonio Sabato Jr. ในปี 1996, Justin Bieber ในปี 2016 หรือกระทั่ง Shawn Mendes ในปี 2019 และอีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายจากฝั่งตะวันตกทั้งสิ้น ก่อนที่ในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ที่กระแส Asian Power จะเข้ามาตลบหลังและเปลี่ยนกระแสนิยมไปตลอดกาล ทำให้อุตสาหกรรมทั้งหลายบนโลกใบนี้ หันกลับไปหาตลาดภาคพื้นเอเชียกันยกใหญ่ เราจึงมีโอกาสได้เห็น Calvin Klein ไม่พลาดตามกระแสเอเชียด้วยการเริ่มดึงเอาศิลปินชายหลายคนจากฝั่งเอเชียมาร่วมงาน พร้อมสร้างไวรัลไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Lay Zhang, Mark Tuan, Jungkook เรื่อยไปจนถึง Son Heung-min นักกีฬาฟุตบอลเกาหลีใต้ ที่เข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัว Face of Calvin Klein ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการร่วมงานกับ ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความโด่งดังของกระแส Asian Power ได้แผ่ขยายจากเกาหลีใต้ไปสู่ประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

Calvin Klein Campaign

     ไม่เพียงแค่ประเด็นของ Asian Power เท่านั้นที่จะถูกพูดถึง เมื่อเราหยิบยกเอาแฟชั่นแคมเปญของ Calvin Klein ขึ้นมาพูดถึง เพราะอีกหนึ่งประเด็นที่มักถูกตั้งคำถามตามมาก็คือ "ความหลากหลาย" ที่ปรากฏบนตัวโฆษณาแคมเปญของ Calvin Klein ที่มักจะไม่ค่อยได้แสดงถึงความหลากหลายมากนัก กับเหล่านายแบบที่ผ่านการฟิตหุ่นและร่างกายมาอย่างดี พร้อมโชว์มัดกล้ามเนื้อในตำแหน่งที่ถูกต้องใกล้เคียงกับ "นิยามความงามตามรูปปั้นสมัยเรเนซองส์" ในรูปแบบอุดมคติสมบูรณ์แบบ ซึ่งแน่นอนว่าในมิติหนึ่งคงต้องยอมรับว่า นี่คือสิ่งสำคัญซึ่งสร้างความเย้ายวนและเพิ่มเสน่ห์ให้กับแคมเปญแฟชั่นไม่น้อย ทว่าในยุคสมัยที่โลกชูประเด็น "ความหลากหลาย" สู่สาธารณะอย่างชัดเจนเช่นนี้แล้ว นิยามความงามของรูปร่างตามบรรทัดฐานที่ถูกประกอบสร้างขึ้นจึงถูกตั้งคำถามตามมา ซึ่งทางแบรนด์ Calvin Klein ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สร้างสรรค์แคมเปญมากมายที่แสดงออกถึงการโอบรับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพานายแบบหลากหลายไซซ์ หลากหลายสีผิวมาขึ้นแคมเปญจริงจัง เรื่อยไปจนถึงกลุ่มทรานส์ และ LGBTQ+ และอีกมากมาย ถือเป็นอันจบยุคสมัยที่นายแบบบนแคมเปญต้องเป็นชายตะวันตกที่มีมัดกล้ามเพอร์เฟ็กต์ไว้เท่านั้น สำหรับ Calvin Klein ที่เราต่างหวังว่าเราจะได้เห็นความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ 

     (สามารถตามไปอ่านเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับแบรนด์ Calvin Klein ได้ที่ https://www.vogue.co.th/fashion/article/jungkook-bts-named-as-brand-ambassador-of-calvin-klein)

     

ข้อมูล : Vogue France, Daily Mail และ The Independent

WATCH