คนไทยในงานออสการ์! คุยกับ อั๊ต-อัษฎา ในฐานะคนไทยที่เข้าใกล้เวทีออสการ์มากที่สุด

งานประกาศผลรางวัลที่ได้ชื่อว่าทรงเกียรติที่สุดในวงการบันเทิงระดับโลกปีนี้จะเป็นอีกปีที่มีคนไทยเพียงหนึ่งเดียวได้รับหน้าที่อันน่าปรารถนาไม่แพ้กันอย่างการสัมภาษณ์เหล่าดาราฮอลลีวู้ดบนพรมแดง “อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล” ได้ชื่อว่าเป็นคนไทยเพียงหนึ่งเดียวที่เข้าใกล้เวทีประกาศผลรางวัลอะคาเดมี อวอร์ดส์ หรือออสการ์มากที่สุด

นอกจากบทบาทหน้าที่ประจำอย่างการร่วมงานกับ Joox แอปพลิเคชั่นฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในยุคดิจิทัล อั๊ตยังมีอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นเกียรติสูงสุดอย่างการเป็นพิธีกรภาคสนามในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ให้กับช่อง HBO Asia โดยในงานออสการ์ครั้งที่ 90 เป็นอีกครั้งที่คนไทยจะได้เห็นหน้าหนุ่มไทยแท้ ขอย้ำว่าไทยแท้ (แม้จะหน้าลูกครึ่ง)คนนี้ปรากฏตัวบนพรมแดงออสการ์อีกครั้ง พร้อมพูดคุยกับเหล่าดาราจอเงินผู้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองคนโปรดของคุณแบบใกล้ชิด

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล สวมเสื้อสูทจากแบรนด์ Theater ภายในพื้นที่งานออสการ์ครั้งที่ 90 ก่อนถึงวันจริง 

“ย้อนไปเมื่อปี 2015 หรือเมื่อ 3 ปีที่แล้วผมเคยรับหน้าที่พิธีกรภาคสนามในงานออสการ์ให้กับ HBO Asia มาแล้ว เนื่องจากว่า HBO เขาได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดงานออสการ์ที่อเมริกา ดังนั้นเราเลยได้เข้าไปสัมภาษณ์นักแสดงที่มาร่วมงานบนพรมแดงด้วย พอมาปี 2018 ได้กลับมาทำหน้าที่นี้อีกเป็นครั้งที่สองก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี ถึงเราจะอยู่ในวงการนี้มานานทำงานมาก็นาน แต่ก็จะมีงานบางงานที่เขาติดต่อมาแล้วเราก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้อย่างเช่นออสการ์เป็นต้น อย่างดาราดังๆ ที่เราติดตามผลงานเขาเคยเห็นเขาแต่ในจอ พอได้มาเจอตัวจริงมันก็ต้องตื่นเต้น” อั๊ตเล่าถึงความรู้สึกที่ได้รับหน้าที่นี้อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ทำเราอดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล ขณะทำหน้าที่พิธีกรภาคสนามในงานออสการ์ครั้งที่ 87 เมื่อปี 2015

หนึ่งในการเตรียมตัวเป็นพิธีกรภาคสนามในงานออสการ์ที่สำคัญอั๊ตบอกว่าต้องไล่ดูหนังทุกเรื่องที่เข้าชิงรางวัลหลัก เพราะหากไม่ดูคุณก็จะคุยกับเหล่านักแสดงไม่รู้เรื่อง “การเตรียมตัวในปีนี้ต่างจากครั้งก่อนพอสมควรครับ เนื่องจากครั้งที่แล้วเป็นครั้งแรกเรายังมือใหม่ อย่างแรกเลยคือให้นึกภาพเด็กคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงวันสอบโดยที่ไม่เคยทบทวนบทเรียนมาก่อนเลย ผมเป็นแบบนั้นเลยครับ เรามาเริ่มดูหนังที่เข้าชิงเอา 2-3 สัปดาห์ก่อนถึงวันงาน เราต้องรีบมากเพราะกลัวดูไม่ทันซึ่งนั่นทำให้เราไม่มีเวลาที่จะตกผลึกให้กับหนังแต่ละเรื่อง แต่มาครั้งนี้เรารู้แล้วเรามีประสบการณ์ เราก็จะไล่ดูหนังที่คาดว่าจะเข้าชิงมาตั้งแต่ต้นปีเลย พอออสการ์เขาประกาศลิสต์เข้าชิง 1 เดือนก่อนงาน เราก็แค่มาเก็บบางเรื่องที่เรายังขาด อย่างพวกหนังที่เข้าชิงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายและหญิงยอดเยี่ยมผมก็ดูครบหมดแล้วครับ”

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล พิธีกรภาคสนามของ HBO Asia ในงานออสการ์ครั้งที่ 87 และครั้งที่ 90

นอกเหนือจากการไล่ดูหนังจนครบทุกเรื่องแล้วอั๊ตเล่าว่าการจำรายละเอียดของเหล่านักแสดงก็เป็นอีกเรื่องที่เขาต้องทำการบ้านอย่างหนัก “ด้วยความที่ HBO เขาเป็นช่องทีวีช่องใหญ่ของสหรัฐฯ เขาก็จะได้รายงานในพื้นที่ที่ค่อนข้างเอ็กซ์คลูซีฟ อย่างครั้งที่แล้วตอนแรกผมไม่ได้คิดว่าจะยาก คิดว่าน่าจะชิลๆ แต่ปรากฏว่าพอไปถึงเราได้ยืนสัมภาษณ์ข้างช่องทีวีใหญ่ๆ ระดับ NBC, ABC, CBS ซึ่งเป็นช่องทีวีเบอร์ใหญ่ยักษ์ของที่โน่น ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็เป็นประมาณช่อง 3 ช่อง 7 ดังนั้นดาราดังๆ ตัวท็อปเขาก็จะเดินผ่านมาช่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็จะแวะมาตรงโซนที่ผมยืนอยู่ด้วย นั่นหมายความว่าเราจะได้คุยกับนักแสดงเบอร์ใหญ่เยอะมาก ดังนั้นเราต้องแม่นเรื่องข้อมูล บางครั้งเราเห็นว่านักแสดงหลายๆ คนเขาหน้าคล้ายกันจนถ้าดูเผินๆ อาจจะสับสนได้ ถ้าเราไม่ได้ติดตามผลงานเขาจริงๆ อย่างครั้งที่แล้วผมต้องกลับไปทำการบ้านเรื่องชื่อของนักแสดงแต่ละคนทั้งคืนเลย ไม่ได้นอน เพราะเราไปในฐานะตัวแทนของช่อง HBO แล้วก็ต้องยืนสัมภาษณ์ข้างช่องใหญ่ๆ เพียบ เกิดเรียกชื่อเขาผิดขึ้นมาอายแย่ ข้อมูลเราต้องแน่น ต้องมั่นใจ”

ก่อนจะถึงค่ำวันออสการ์ หรือเช้าตามเวลาประเทศไทย อั๊ตต้องไปถึงล่วงหน้าหลายวัน “อย่างแรกเลยเราต้องไปถึงล่วงหน้า 2 วันครับ วันแรกจะเป็นวันที่เราต้องไปลงทะเบียน ไปเช็คระบบต่างๆ ตรวจสอบเรื่องพื้นที่ หลักๆ วันแรกจะเป็นเรื่องของการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัย ส่วนวันที่ 2 จะเป็นวันที่เราเริ่มถ่าย บอกให้คนดูรู้ว่าเราอยู่ที่นี่แล้วนะ พร้อมที่จะรายงานให้ทุกคนดูบรรยากาศ เป็นเหมือนกับ Sneak Peek ส่วนวันที่ 3 ถึงจะเป็นวันจริง หลักๆ ขั้นตอนของงานก็จะเป็นคล้ายๆ ที่เมืองไทยนะผมว่า คือสักช่วงบ่ายๆ ก็จะเป็นคิวเข้างานของนักแสดงทั่วไป ส่วนนักแสดงดังๆ ที่เป็นตัวท็อปเขาก็จะมากันช่วงใกล้งานเริ่ม”

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล ขณะทำหน้าที่พิธีกรภาคสนามในงานออสการ์ครั้งที่ 87 เมื่อปี 2015

ในฐานะพิธีกรภาคสนาม อั๊ตเผยให้เราฟังว่าออสการ์คืองานที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยสูงสุด “ก่อนถึงคิวนักแสดงตัวจริงเดินพรมแดง เขาจะมีนักแสดงตัวปลอมมาเดินก่อนเพื่อเป็นการซ้อมคิว เพราะนักแสดงทุกคนเขาจะต้องเดินตามคิวที่ถูกล็อกไว้หมด โดยแต่ละคนก็จะถือป้ายชื่อว่าใครเป็นใคร ด้วยความที่เราเป็นคนขี้เล่นติดนิสัยเวลาเป็นพิธีกรในเอเชียเราก็จะติดชอบหยอกล้อ ตอนนั้นช่วงที่เขาซ้อมคิว Emma Stone ตัวปลอมอยู่ ซึ่งทุกคนก็รู้นะครับว่าเป็น Emma ตัวปลอม เขาก็ถือป้ายชื่อ Emma Stone เดินมา ผมก็เข้าไปคุยเล่นแล้วก็ไปกอดเขา ปรากฏว่าหลังจากนั้นมีช่างภาพคนหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วก็ด่าเลย ว่าไปแตะต้องตัวเขาไม่ได้นะ เขาฟ้องยูได้ ผมตกใจมาก เหวอเลย หลังจากนั้นเลยคิดเยอะมากก่อนจะทำอะไร เล่นอะไร เพราะอเมริกาเขาเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยและสิทธิส่วนบุคคลมาก”

“ในจำนวนหนังที่เข้าชิงปีนี้ถ้าเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมผมเชียร์เรื่อง The Shape Of Water แล้วก็ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ส่วนนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ผมเชียร์ Gary Oldman จากเรื่อง Darkest Hour คนนี้ผมบอกเลยว่าสุดๆ ผมนับถือในฝีมือการแสดง ตอนแรกที่ผมดูเรื่องนี้ผมไม่รู้เลยว่าชายคนนี้คือ Gary Oldman แต่พอมาเปิดดูชื่อนักแสดงถึงรู้ทีหลังว่าเป็นเขา ผมไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำเพราะเขาเล่นได้หลุดจากคาแร็กเตอร์ของตัวเองจนผมไม่สามารถจำเขาได้ อีกคนที่เชียร์ก็คงเป็น Daniel Day-Lewis จาก Phanthom Thread ส่วนฝ่ายหญิงผมเชียร์ Sally Hawkins จากเรื่อง The Shape of Water กับ Frances McDormand จากเรื่อง Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ครับ” 

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล สัมภาษณ์ John Legend และ Chrissy Teigen ที่งานออสการ์ครั้งที่ 87

จากนั้นโว้กจึงถามถึงประสบการณ์ส่วนตัวจากการที่ได้คุยกับดาราฮอลลีวู้ดนับร้อย “คนที่ผมเคยสัมภาษณ์แล้วประทับใจที่สุดเลยคือ Eddy Redmayne ครับ เขาให้สัมภาษณ์แบบเป็นกันเองมาก แล้วก็อีกคู่คือ John Legend กับ Chrissy Teigen ที่หลายๆ คนอาจจะได้เห็นคลิปวิดีโอที่เขาพูดภาษาไทย ซึ่งก่อนจะสัมภาษณ์ผมคิดมาก่อนแล้วว่าอยากขอให้เขาพูดภาษาไทย แล้วเขาก็พูดให้ด้วย เป็นภาพที่น่ารักมากๆ ส่วนคนที่ถ้าผมได้คุยด้วยคงจะตื่นเต้นมากๆ ก็คงจะเป็น Meryl Streep คนนี้ที่สุดของนักแสดงแล้วครับ กับอีกคนคือ Oprah Winfrey ผมไม่ได้อยากถามอะไรแต่อยากบอกให้เขาเล่นการเมือง ทั้งๆ ที่เขาก็บอกไปแล้วแหละว่าเขาไม่เล่น (หัวเราะ) อีกคนคือ Emma Stone ปีนี้ผมอยากคุยกับเขาเพราะปีที่แล้วดันไปกอด Emma ตัวปลอมเลยอดสัมภาษณ์ตัวจริงเลย” อั๊ตเล่าถึงเรื่องราวสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้สัมผัส เมื่อเราถามว่าอั๊ตว่าใครสวยที่สุด อั๊ตตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “เอาจริงๆ เลยนะมีคนหนึ่งที่เดินเข้ามาแล้วรัศมีเปล่งประกายจนผมหยุดทำทุกอย่างเพื่อหันไปมองตาค้างเลยคือ Jennifer Lopez สวยมีพลังสุดๆ ด้วยผิวของเขา ด้วยเสน่ห์ของเขา จนทีมงานต้องเรียกสติผมกลับมาให้ทำงานต่อ ขนาดนั้นเลยนะ”

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล สัมภาษณ์นักแสดงฮอลลีวู้ดบนพรมแดงงานออสการ์ครั้งที่ 87

สัมภาษณ์คนดังระดับนั้นยากไหม เทคนิคที่เราใช้ประจำคืออะไร “อย่างแรกเลยคือเราจะให้เกียรติและให้ความสำคัญกับคนที่เขาพามาด้วย เราจะไม่ลืมแขกของคนที่เราไปสัมภาษณ์ ไม่ให้เขารู้สึกว่าถูกลืม ในฐานะของคนที่เคยทั้งสัมภาษณ์คนอื่นและถูกสัมภาษณ์ด้วยเราจะรู้ว่าการทำแบบนี้เป็นมารยาทที่ห้ามละเลย แล้วผู้ถูกสัมภาษณ์เขาจะรู้สึกว่าเขาอยากคุยกับเราเพราะเราให้เกียรติเขาก่อน อีกอย่างคือผมจะติดตามอัพเดตข่าวของดาราแต่ละคนเพื่อนำมาใช้เป็นบทสนทนาเวลาคุยกัน อย่างเช่นครั้งที่แล้วผมคุยกับ Zoe Saldana นักแสดงจากเรื่อง Avatar ที่เธอเพิ่งคลอดลูก ผมก็จะทักทายด้วยการแสดงความยินดีกับเขาก่อน เป็นต้น ไม่ใช่ตีสนิทนะครับแต่ผมว่ามันเป็นมารยาทที่ดี” 

อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล รายงานบรรยากาศสดทาง HBO Asia ในพื้นที่งานออสการ์ครั้งที่ 90 ก่อนถึงวันจริง

เมื่อเราให้ฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความฝันอยากเป็นส่วนหนึ่งในงานระดับโลกแบบที่เขาได้สัมผัสในวันนี้ อั๊ตบอกแค่เพียงสั้นๆ ว่า “ผมว่ามันไม่ยากเลยในยุคนี้ที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลและสื่อต่างๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด โอกาสมันมีเยอะมาก อยู่ที่ว่าเราเตรียมตัวพร้อมสำหรับโอกาสนั้นไหม ถ้าให้แนะนำก็ขอแค่ให้อดทน และทำทุกงานให้เต็มที่ครับ”