สามสาวไทยในชุดแบรนด์ไทยที่คานส์! 3 ดาราไทยสวมชุดของ 3 ดีไซเนอร์ไทยเยือนพรมแดงระดับโลก

จะเรียกว่าพฤษภาคมเป็นเดือนที่แฟชั่นพรมแดงร้อนระอุที่สุดก็ว่าได้ โดยเฉพาะในปี 2018 นี้เรากล้าพูดว่าร้อนกว่าปีไหนๆ เพราะนอกจากจะมีคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ไปเยือนพรมแดงงานเมท กาล่าแล้ว ในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่จัดขึ้นในช่วงเดียวกันนี้คุณยังได้เห็นสาวไทยอีกถึง 3 คน!

สามนางแบบและนักแสดงสาวชาวไทย เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ และโยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม ปรากฏตัวบนพรมแดงในชุดของดีไซเนอร์ไทยถึง 3 แบรนด์คือ Poem, Mesh Museum และ Milin ที่สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษเพื่อเทศกาลหนังเมืองคานส์โดยเฉพาะ ในฐานะตัวแทนของ Piper-Heidsieck ออฟฟิเชียลแชมเปญเพียงแบรนด์เดียวที่เสิร์ฟตลอดงานเทศกาลหนังเมืองคานส์มากว่า 25 ปี โว้กตามติดเบื้องหลังกว่าจะเป็นลุคพรมแดงสุดเอ็กซ์คลูซีฟของสามสาวมาให้แฟนๆ ชมที่โว้กที่เดียวเท่านั้น!

POEM FOR JANIE 

“อย่างที่หลายคนจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า Piper-Heidsieck เป็นแชมเปญโปรดของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ซึ่งเป็นแฟชั่นไอคอนคนแรกๆ เลยที่ผมชอบ ฉลองพระองค์ของพระนางมีอิทธิพลกับวงการแฟชั่นมาจนถึงทุกวันนี้ ผมเลยหยิบเอาซิลูเอตบางอย่าง ดีเทลบางอย่างจากสไตล์เสื้อผ้าของพระนางมารี อ็องตัวแน็ตมาออกแบบใหม่ให้ดูโมเดิร์นขึ้น ซึ่งจะเรียกลุคนี้ว่าเป็น ‘โมเดิร์น มารี อ็องตัวแน็ตก็ได้ครับ’ ผมกับพี่เจนี่เองเราทำงานกันมาหลายครั้งแล้ว จนเราสามารถทำงานกันทางโทรศัพท์ได้เลย เรารู้จักรูปร่างและคาแร็กเตอร์ของพี่เขาอยู่แล้ว ดังนั้นเราทำงานกันง่ายมาก” ฌอน-ชวนล ไคสิริ ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Poem เล่าถึงการทำงานในโปรเจกต์ระดับอินเตอร์

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ Piper-Heidsieck เปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์ไทยได้ทำชุดให้ตัวแทนของแบรนด์ไปที่เมืองคานส์ ซึ่งโจทย์ของผมคือความ ‘Effortless’ ซึ่งมันยากเพราะบางครั้งการที่เราตั้งใจทำอะไรมากๆ มันมักจะไม่ออกมาเป็นแบบนั้น มันจะดูพยายาม ดังนั้นเราต้องใช้ประสบการณ์ของเราที่มีทำให้สมบูรณ์แบบในโจทย์ของเรา ซึ่งตัวพี่เจนี่เองเขาเป็นผู้หญิงที่มีคาแร็กเตอร์แบบไม่ดูพยายามอยู่แล้ว ผมเลยรู้สึกได้ว่ามันต้องออกมาดีแน่นอนครับ”

 ภาพสเกตช์ชุดที่ฌอน-ชวนล ไคสิริออกแบบให้เจนี่-เทียนโพธิ์สุวรรณไปเดินพรมแดงในเมืองคานส์ 

“แว๊บแรกเลยที่รู้ว่าจะได้ทำชุดเรานึกถึงพื้นที่กว้างๆ บนพรมแดงที่เป็นเอาท์ดอร์ ดังนั้นเราจะต้องทำชุดที่มีน้ำหนักเบา และดูรีแล็กซ์ ซึ่งจะแตกต่างกับออสการ์หรือเมท กาล่า ซึ่งความท้าทายคือพี่เจนี่ต้องแต่งตัวเอง ต้องเท้าความก่อนว่าปกติชุดของ Poem เราจะมี Dresser ไปให้บริการที่หน้างาน ทุกอย่างจะต้องถูกเก็บรายละเอียดโดยคนที่เราเทรนมาแล้ว เพราะชุดของโพเอมเนี่ยเป็นชุดที่ยาก ถ้าไม่มีคนที่เราเทรนใส่ให้บางทีจะไม่รู้เลยว่าจะเอาตัวใส่เข้าไปในชุดได้อย่างไร อย่างบางทีเวลาทำชุดให้ดาราใส่ไปงานที่จัดในเมืองไทยเรามีคนเดินตามเลยด้วยซ้ำ จะคอยเก็บคอยเซ็ตกระโปรงให้ตลอด แต่ครั้งนี้เราไม่สามารถไปไกลขนาดนั้นได้ พี่เจนี่ต้องแต่งเองทำเองทุกอย่าง นี่คือความยากของการออกแบบชุดนี้ ซึ่งเป็นโจทย์หลักที่เราต้องคิดถึงตลอดเวลา เราต้องทำให้คนสวมเขาสวมเองได้ที่หน้างาน และต้องใช้ได้จริงครับ”

MESH MUSEUM FOR WOONSEN 

“วุ้นเส้นติดต่อมาว่าจะไปเดินพรมแดงที่เมืองคานส์ แล้วเขาอยากให้เราทำชุดให้ เราก็คุยกันว่าโจทย์ของชุดสำหรับเมืองคานส์ต้องเป็นอย่างไรบ้าง เราคุยกันเรื่อยมาเกือบจะทุกขั้นตอนกว่าจะสำเร็จออกมาเป็นชุดนี้ เราคิดว่าวุ้นเขาคงอยากจะผสมรวมระหว่างสไตล์ของเขากับ Mesh Museum แต่แว๊บแรกเราก็ไม่แน่ใจนะว่ามันจะตอบโจทย์เขาได้หรือเปล่า แต่พอมาคิดย้อนอีกทีคือเราเปิดแบรนด์มาเพื่อทำชุดเจ้าสาวโดยเฉพาะ เราทำชุดให้เจ้าสาวมาแล้วหลายรูปแบบหลายคาแร็กเตอร์มาก ทุกคนสามารถบอกความต้องการได้ เราก็เลยรู้สึกว่าบุคลิกของวุ้นเส้นก็มีความท้าทายในการออกแบบเสื้อผ้าให้เพราะเขาเป็นคนที่มีบุคลิกที่ชัดเจน” ใหม่-พลัฏฐ์ ศรีลลิตสร้อย ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Mesh Museum เล่าถึงจุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์ครั้งสำคัญ

“พอรู้ว่าจะได้ทำชุดไปคานส์เราก็ศึกษาเลยว่าดาราฮอลลีวู้ดเขาสวมอะไรกัน จุดเด่นของชุดสำหรับพรมแดงคืออะไร สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกเลยคือชุดที่จะสวมไปเมืองคานส์ต้องมีคือ ‘ความผ่อนคลาย’ เพราะเมืองคานส์เขาเป็นเมืองท่องเที่ยว ด้วยทัศนียภาพและด้วยองค์ประกอบต่างๆ มันทำให้คาแร็กเตอร์พรมแดงเขาผ่อนคลาย ไม่ดูจงใจมาก ซึ่งแตกต่างจากออสการ์หรือลูกโลกทองคำอย่างสิ้นเชิง

“ที่สำคัญเสื้อผ้าต้องช่วยเสริมบุคลิกของผู้สวมใส่ให้ดูโดดเด่นแต่ต้องไม่ดูพยายาม จึงเป็นอีกโจทย์ที่เราต้องทำชุดให้ Effortless มากที่สุด ทำชุดนี้เราใช้เวลาไม่มากประมาณ 3 สัปดาห์ แต่จะมาเยอะช่วงคิดงานมากกว่า ซึ่งเราก็แชร์ไอเดียกับวุ้นเส้นตลอด วิธีการทำงานระหว่างเรากับวุ้นจะเหมือนกับเวลาที่เราทำงานกับเจ้าสาวที่มาตัดชุดทุกอย่าง เราจะแชร์ความเห็นกันทุกขั้นตอนครับ” 

MILIN FOR YOGHURT

“มิลินกับ Piper-Heidsieck เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว อย่างที่รู้กันว่าใครๆ ก็คิดว่ามิลินเป็นสาวปาร์ตี้ หลายคนจะคุ้นเคยกับซิกเนเจอร์ของเราที่ไล่ตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงงานเปิดตัวแบรนด์ที่มีการตกแต่งด้วยแก้วแชมเปญเต็มร้านไปหมด Piper-Heidsieck เป็นแชมเปญที่มีความเป็นแฟชั่นแฝงอยู่พร้อมกับประวัติอันยาวนาน ด้วยความที่เขาเป็นแชมเปญโปรดของพระนางมารี อ็องตัวแน็ตและมาริลิน มอนโร เรารู้สึกว่าทั้งคู่เป็นผู้หญิงที่ตรงกับคาแร็กเตอร์ของมิลินคือเป็นสาวที่ Fearless และมีความ Rebel อยู่ในตัว ส่วนโยเกิร์ตเองเป็นมิวส์ของมิลินมาตลอด เขาเดินแบบให้กับแบรนด์มานานมาก ซึ่งโจทย์แรกเลยคือ ‘โยเกิร์ตอยากใส่สีเหลือง’ แต่การทำชุดสำหรับเดินพรมแดงกับแฟชั่นโชว์ก็จะไม่เหมือนกัน พอเป็นพรมแดงเราต้องดึงเอาความมั่นใจของเขาออกมา จริงๆ เราทำสีเหลืองบ่อยแต่ก็ยังรู้สึกว่าเป็นสีที่ยาก ส่วนซิลูเอตของชุดเราคิดไปถึงรูปทรงของขวดแชมเปญที่กำลังถูกเปิดออก เราเลยทำชุดเป็นทรงกึ่งนาฬิกาทรายคล้ายคอขวดแชมเปญแล้วประดับด้วยขนนกที่ด้านบนซึ่งเปรียบเสมือนฟองที่พุ่งกระจายออกจากขวดเพื่อการเฉลิมฉลอง ที่สำคัญด้วยความที่เป็นพรมแดงเอาท์ดอร์ เวลาที่มีลมอ่อนๆ หรือมีแสงแดดส่องมาที่ชุด ตัวขนนกจะช่วยให้เกิดมูฟเมนต์ขึ้นค่ะ” มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Milin เล่าแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์ชุดสวยให้โยเกิร์ตบนพรมแดงเมืองคานส์

“คิดว่างานนี้น่าจะมีคนรอชมเยอะเราก็เลยกดดันนิดนึง เพราะชุดที่ออกมาต้องสวยทั้งตัวจริงและต้องถ่ายรูปขึ้นด้วย พรมแดงที่คานส์เขาจะเป็นลักษณะที่มีช่างภาพอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ไม่ได้เป็นการยืนถ่ายรูปหน้าแบ็กดรอปด้านเดียว ดังนั้นชุดต้องสวยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่เรื่องการนำเสนอเราไม่ห่วงเพราะโยเขามีประสบการณ์ นี่เป็นปีที่สองแล้วที่โยไปเมืองคานส์ ส่วนชุดเราก็พยายามทำให้สนับสนุนกับการหันไปหันมาได้ทุกองศา เราทำด้านหน้าให้เข้ารูปที่เอวแล้วค่อยๆ โค้งไปด้านหลัง ไม่ได้โฟกัสแค่ข้างหน้า แต่ต้องใส่ใจด้านหลังด้วยเพราะมีช่างภาพอยู่รอบเลยค่ะ ส่วนเรื่องความยาวของชุดเราไม่อยากทำให้ยาวไปเพื่อจะได้เผยให้เห็นรองเท้าบ้าง ที่สำคัญเดินสะดวกกว่า พร้อมกับแทรกผ้าด้านหลังเล็กน้อยให้ดูมีดีเทลมากขึ้นค่ะ”

ส่วนโยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม นางแบบสาวก็แอบกระซิบเหตุที่เลือกสีเหลืองว่า “ที่เลือกสีเหลืองเพราะตอนนี้ที่คานส์เขาอยู่ในช่วงสปริง-ซัมเมอร์ เราก็อยากได้สีที่สดใส เห็นแล้วสดชื่น ที่สำคัญคิดว่าสีเหลืองน่าจะตัดกับสีแดงของพรมได้ดี รวมถึงจากประสบการณ์การเป็นนางแบบทำให้เราได้ใส่ชุดมาเยอะมากหลากหลายสี เรารู้สึกว่าพอใส่สีเหลืองแล้วลุคเราดูแตกต่างน่าสนใจ อย่างปีที่แล้วเราไปในชุดขาวเรียบโก้ พอมาปีนี้ก็อยากทำอะไรสนุกๆ บ้างให้ต่างจากเดิม ซึ่งมิลินตอบโจทย์ที่สุด อย่างปีแรกเราเตรียมทุกอย่างเองกับผู้จัดการซึ่งทางแบรนด์เปิดโอกาสให้เราได้คิดอย่างอิสระ แต่ปีนี้พูดตรงๆ ว่ารู้สึกสบายตัวขึ้นนะคะ (หัวเราะ) เพราะทางมิลินเป็นคนจัดการให้เกือบหมด ต้องให้เครดิตกับมิลินเลย เพราะปีนี้ทาง Piper-Heidsieck เขาอยากจะเน้นไปที่แบรนด์ดีไซเนอร์ไทยทั้ง 3 แบรนด์ด้วย เราเลยไม่ต้องเตรียมอะไรมากค่ะ ก็เบาดี (หัวเราะ)”

ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา Piper-Heidsieck ยังครองเก้าอี้ออฟฟิเชียลแชมเปญเพียงแบรนด์เดียวที่เสิร์ฟในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์มาอย่างยาวนาน ถือเป็นแชมเปญที่อยู่คู่วงการบันเทิงและฮอลลีวู้ดมายาวนานที่สุด อีกทั้งยังเป็นแชมเปญโปรดของไอคอนสาวในตำนานอย่างพระนางมารี อ็องตัวแน็ต และมาริลิน มอนโร การเยือนเมืองคานส์ในครั้งนี้สามสาวไทยทีมแอมบาสเดอร์ยังได้ร่วมชมภาพยนตร์รอบพิเศษ พร้อมกับเป็นแขกวีวีไอพีของ Palais des Festivals et des Congrès ร่วมงานเปิดตัวและชมการประมูลภาพยนตร์ในงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟภายใน Palais des Festivals et des Congrès ที่มีไฮไลต์เป็นระเบียงส่วนตัวซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ชายหาดและเหล่าเรือยอชต์แบบพาโนราม่าอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคานส์ด้วย