WELLNESS

ทำความรู้จักวิตามินดี (Vitamin D) ทั้งประโยชน์ และภาวะขาดวิตามิน วิตามินที่มีดีมากกว่าที่คิด!

หนึ่งในวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายอย่าง ‘วิตามินดี’ ที่มีดีมากกว่าที่คิด พามารู้จักประโยชน์ แหล่งอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี พร้อมวิธีการป้องกัน ภาวะขาดวิตามินดี

     นอกเหนือจากวิตามินเอ (Vitamin A) บี (Vitamin B)  ซี (Vitamin C)  ที่ใครหลายคนรู้จักและทราบถึงสรรพคุณอันมีประโยชน์ต่อร่างกาย รู้หรือไม่ว่าหนึ่งในวิตามินที่สำคัญไม่แพ้กันแต่คนส่วนใหญ่มักละเลยและมองข้ามไป นั่นคือ ‘วิตามินดี’ (Vitamin D) วิตามินที่สามารถรับได้จากแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและยามเย็น มีคุณสมบัติหลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียมให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกบางและกระดูกพรุน นอกจากนี้วิตามินดียังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งวันนี้โว้กบิวตี้จะพาไปรู้จักกับวิตามินดีให้มากขึ้น

 

 

รวมสารพัดประโยชน์ของวิตามินดี

     หน้าที่หลักๆ ของวิตามินดีคือช่วยควบคุมภาวะสมดุลของแร่ธาตุแคลเซียม ฟอสเฟต แคลเซียม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ระบบต่างๆ ในร่างกาย ครอบคลุมไปตั้งแต่สมอง หัวใจ หลอดเลือด กระดูก เอ็น และอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

  • ช่วยลดอาการปวดศีรษะไมเกรนที่สัมพันธ์กับรอบประจำเดือน
  • ช่วยต้านโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ เนื่องจากการที่วิตามินดีช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินมากขึ้น
  • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ปรับสมดุลและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • ช่วยป้องกัน และรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ
  • ช่วยให้อาการนอนหลับดีขึ้น
  • ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

 

 

วิตามินดีหาได้จากแหล่งใดบ้าง

  • ร่างกายสามารถรับวิตามินดี ได้จากการรับแสงแดดอ่อนๆ โดยร่างกายจะสังเคราะห์เพื่อรับรังสี UVB เปลี่ยนสารคอเลสเตอรอลใต้ผิวหนังและนำไปส่งต่อส่วนอื่นๆ ในร่างกายเพื่อใช้ประโยชน์
  •  รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันตับปลา ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่แดง นมและผลิตภัณฑ์จากนม เห็ด เมล็ดธัญพืช สาหร่ายบางชนิด
  •  รับประทานวิตามินดีหรืออาหารเสริมที่มีส่วนประกอบจากวิตามินดี

 



WATCH



 

ภาวะขาดวิตามินดีเป็นอย่างไร

     ภาวะการขาดวิตามินดีส่วนใหญ่มักมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีอาการเกี่ยวกับกระดูก ทั้งปวดกระดูก ปวดตามข้อต่างๆ บางรายอาจมีภาวะกระดูกบางและส่งผลให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้

 

ใครที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี

  • กลุ่มคนที่ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรง ทั้งการสวมเสื้อคลุม ใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีไขมันสะสมมาก จะเสี่ยงต่อการมีภาวะขาดวิตามินดีมากกว่าคนปกติ
  • ผู้สูงอายุ เพราะผิวหนังจะมีความสามารถในการสังเคราะห์วิตามินดีลดน้อยลง
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ควรได้รับการตรวจเพื่อหาระดับวิตามินดีในร่างกาย

 

 

วิธีป้องกันการขาดวิตามินดี

  • ปรับวิถีชีวิตโดยให้โดนแสงแดดมากขึ้น โดยเฉพาะแสงแดดช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงยามเย็น ซึ่งเป็นแสงแดดอ่อนๆ มีรังสีจากแสงแดดที่ทำร้ายผิวน้อยกว่าช่วงเวลากลางวัน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 5 นาที เพื่อให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามินดีอย่างมีประสิทธิภาพ
  • รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน หรือรับประทานอาหารเสริม ประเภทวิตามินดีเพิ่มเติม แต่การรับประทานอาหารเสริมควรได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อน เพราะหากมีระดับแคลเซียมในเลือดสูงอยู่แล้ว การรับประทานวิตามินเสริมอาจทำให้ร่างกายแย่ลงได้

 

     วิตามินดีถือเป็นหนึ่งในวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่คิด ดังนั้นจึงควรตรวจร่างกายว่ามีภาวะบกพร่องวิตามินดีหรือไม่ เพราะร่างกายที่ขาดวิตามินดีนั้นส่งผลอันตรายต่อการทำงานในร่างกายไม่น้อยเลย หากใครที่กำลังกังวลว่ามีภาวะเสี่ยงขาดวิตามินดีสามารถป้องกันได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีสูงและจากการรับประทานวิตามิน ทั้งนี้ควรอยู่ในการดูแลหรือได้รับคำแนะนำจากแพทย์เสียก่อน

 

ภาพ : Canva

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VitaminD