WELLNESS
เผย 10 วิธีคลายเครียดที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเมื่อต้องเจอกับวันแย่ๆกิจกรรมง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายจากความเครียด |
ทุกเช้าที่ตื่นมาทุกคนก็คงหวังว่าจะได้เริ่มต้นวันอย่างสดใส แต่แค่เจอเรื่องวุ่นๆ หรือเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดตั้งแต่เช้าก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความเครียด แล้วเปลี่ยนวันดีๆ ให้กลายเป็นวันแย่ๆ ได้แล้ว นี่ยังไม่รวมกับความเครียดและความวิตกกังวลที่ต้องเจอในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเรื่องงาน ปัญหาครอบครัว ความกังวลด้านสุขภาพ หรือภาระทางการเงิน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้ระดับความเครียดสูงขึ้น
ความเครียดสะสมนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจนำไปสู่โรคอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ โรควิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า การลดความเครียดลงจะช่วยให้สุขภาพองค์รวมดีขึ้น แต่เพราะว่าจิตใจและร่างกายไม่สามารถกดปุ่มรีสตาร์ตได้เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งที่ทำได้นอกจากแก้ปัญหาที่เป็นต้นเหตุของความเครียดแล้ว อีกวิธีคือหากิจกรรมดีๆ ทำเพื่อช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติ ซึ่งต่อไปนี้คือกิจกรรมที่ทำแล้วช่วยคลายเครียดที่อยากให้คุณลองทำ
1. ออกไปข้างนอก
แทนที่จะนั่งๆ จะนอนๆ และจมอยู่กับความเครียดในบ้านหรือในห้องแคบๆ ลองออกไปข้างนอกกันเสียหน่อย ไม่ว่าจะไปเดินเล่น หรือไปปิกนิกก็เป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าวันนั้นคือวันทำงานที่ต้องเข้าออฟฟิศ การออกไปข้างนอกในช่วงพักเบรกเป็นเวลาสั้นๆ ก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ ลองเดินรอบๆ ตึกสัก 10 นาที เพื่อเติมพลังและพักสมองจากทุกสิ่ง
2. โทรหาคนในครอบครัว
เมื่อเกิดความเครียดให้ลองโทรหาสมาชิกในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนใกล้ชิดเพื่อปรึกษาพูดคุยกัน ซึ่งการพูดคุยกับคนที่เรารักจะสามารถช่วยให้ดึงเราให้ออกจากความคิดเครียดๆ รวมถึงอาจยังได้คำปรึกษาดีๆ ที่ช่วยให้ความเครียดลดน้อยลงด้วย
3. ฝึกหายใจลึกๆ
หากพบว่าตัวเองกำลังรู้สึกหนักอกหนักใจ วิธีที่จะช่วยรีเซ็ตความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงให้ดีขึ้นได้ ให้เริ่มจากลองฝึกหายใจลึกๆ ค่อยๆ หายใจเข้าออก การทำเช่นนี้จะช่วยให้สงบสติอารมณ์และผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อรู้สึกดีขึ้นก็อาจเปลี่ยนกรอบความคิดใหม่ และหาวิธีแก้ไขต้นเหตุของความเครียดได้ดีขึ้น
4. ทำกิจกรรมผ่อนคลาย
ดีท็อกซ์ความเครียดให้กับตัวเอง อีกวิธีที่ทำได้ง่ายๆ คือการทำกิจกรรมชวนผ่อนคลาย เช่น การนวดตัว การทำเล็บ เข้าสปา หรือการนวดหน้า เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ความหม่นหมองจางหายไป และเรียกคืนความสดชื่นกลับมาให้กับสมอง
5. อ่านคำคมสร้างแรงบันดาลใจ
หากกำลังรู้สึกเครียดและรู้สึกไร้ทางออก ลองหาอ่านหนังสือหรือข้อความที่เป็นคำคมต่างๆ ที่ช่วยสร้างกำลังใจ ไม่ว่าจะเป็น คำคมจากภาพยนตร์ หรือหากกำลังมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ คำคมความรักก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี นอกจากนี้คำคมที่ช่วยเติมพลังบวกให้ชีวิตก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน
6. เขียนชื่นชมตัวเอง
พยายามอย่ามัวแต่โทษตัวเองในวันที่เกิดเรื่องแย่ๆ ในชีวิต ลองเขียนชื่นชมหรือบอกรักตัวเองใส่กระดาษหรือโพสต์อิทไว้ จากนั้นติดไว้รอบๆ บ้านอย่างเช่นติดไว้หน้ากระจก หรืออาจจะเก็บไว้ในลิ้นชัก แล้วโน้ตเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น และคอยเป็นข้อความเตือนสติในครั้งต่อไปหากเราต้องเจอกับเหตุการณ์แย่ๆ
7. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น เพราะการลูบขนหรือการอยู่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงของเราไม่ว่าจะเป็นการอุ้ม การหอม การลูบขนเพื่อสัมผัสกันและกัน จะช่วยลดความเครียด คลายความกังวล ลดความรู้สึกโดดเดี่ยวลงได้ ฉะนั้นหากที่บ้านมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วก็ลองหาเวลาใช้กับพวกเขาให้มากขึ้น แต่กรณีที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ ก็ลองแวะไปตามคาเฟ่สัตว์ต่างๆ ได้เช่นกัน
8. อาบน้ำ
บางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องทำอะไรซับซ้อน การอาบน้ำนี่ล่ะจึงเป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยคลายเครียดได้ ลองใช้เวลาอาบน้ำให้มากขึ้น ใส่ใจสครับขัดผิว หมักผมด้วยทรีตเมนต์ หรือนวดหนังศีรษะไปพร้อมกับการสระผม วิธีนี้จะช่วยให้สมองปลอดโปร่งจากความเครียด และเรียกคืนความสดชื่นกลับมาอีกครั้ง
9. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
เมื่อใจจดจ่ออยู่กับความเครียดนานๆ ก็อาจทำให้ลืมการดูแลตัวเองขั้นพื้นฐานอย่างการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งเป็นกุญแจสู่การทำงานที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ลองดื่มน้ำเต็มแก้วและจะรู้สึกดีและสดชื่นขึ้นเกือบจะในทันที
10. ซื้อดอกไม้ให้ตัวเอง
เนื้อเพลง Flower ของ Miley Cyrus ถือถูกต้องอย่างยิ่งที่ว่าใครก็ซื้อดอกไม้ให้ตัวเองได้ โดยการซื้อดอกไม้ให้ตัวเองจะทำให้จิตใจแจ่มใสขึ้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อดอกไม้เป็นช่อสวยที่มีราคาสูง เพียงแค่ดอกไม้สักดอกที่หาซื้อง่ายๆ หรือตัดจากสวนหน้าบ้านก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน
WATCH
แม้ว่าความเครียดจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเครียดเรื้อรังสะสมจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ฉะนั้นหากคุณกำลังประสบพบกับความเครียดอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ลองออกกำลังกายให้มากขึ้น มีสติ ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง ลดเวลาอยู่หน้าจอให้น้อยที่สุด หรือออกไปข้างนอกบ้างก็ล้วนเป็นวิธีที่ได้ผลดี
WATCH