WELLNESS
แกะแนวคิดสุดโต่งในชีวิตอันแสนเรียบง่ายของนางแบบวัย 68 ปี Yazemeenah Rossi“ความสุขที่สุดของชีวิตคือการมองหา ‘ความเรียบง่าย’ จากทุกสิ่ง” |
เอ่ยถึงชีวิตที่สงบสุขในอุดมคติของคนรุ่นใหม่เมื่อใด ความเรียบง่ายกลายเป็นหนึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้เสมอ แต่เคยคิดหรือไม่ว่าชีวิตเรียบง่ายในรูปแบบของเราจะไปถึงขั้นไหน กินง่ายอยู่ง่าย ไม่ใช้ชีวิตตามกระแส ชื่นชมสิ่งสวยงามเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว หากเรียบง่ายแบบนี้แล้ว ชีวิตจะสงบสุขขึ้นจริงหรือ?
ในเซสชั่น Wave of Inspiration การพูดสร้างแรงบันดาลใจที่จัดขึ้นโดย Kinesia Pilates สตูดิโอพิลาทีสบนตึก The Upper Ground ย่านจตุจักร ครูหงส์-เมจิรัสยา อุ่ยวัฒนาไชย เชิญเพื่อนคนสำคัญผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เธอกลายเป็นครูผู้สอนพิลาทิสอย่าง ยาสมีน่า รอซซี่ (Yazemeenah Rossi) มาแบ่งปันมุมมองจากประสบการณ์ชีวิตของเธอ ซึ่งหนึ่งความสงบสุขที่โว้กบิวตี้ค้นพบจากการพูดคุยกับนางแบบวัย 68 ปีคนนี้คือความเรียบง่ายอันสุดโต่งที่ผ่านการตกตะกอนกับตัวเองในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต จนเกิดเป็นจุดยืนที่ว่า
“การเพลิดเพลินกับความงดงามที่แม้จะเล็กน้อยหรือเรียบง่ายในชีวิต จะเติมเต็มความสงบสุขที่ตามหาได้เสมอ”
WATCH
ยาสมีน่าเริ่มต้นเส้นทางนางแบบในวัย 28 ปีแบบไม่ทันตั้งตัว งานแรกของเธอคือการทำหน้าที่แทนนางแบบที่ป่วยในวันนั้น จนสุดท้ายเธอกลายเป็นนางแบบอาชีพที่เซ็นสัญญากับค่ายดังอย่าง Ford Modeling ซึ่งจุดแข็งที่ทำให้เธอถูกคัดเลือกในหลายโปรเจกต์คือการเป็นนางแบบที่คงเอกลักษณ์ความงามของผมสีเทาธรรมชาติไว้ จนเวลาผ่านไป เธอเริ่มค้นหาความเป็นธรรมชาติที่ยากจะพบในตัวเมือง จึงย้ายตัวเองออกจากลอสแอนเจลิสสู่มาลิบู เมืองแนวชายฝั่งที่อุดมไปด้วยทิวทัศน์ทางธรรมชาติอันงดงาม
“ชีวิตคือการรู้จักตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ”
เส้นทางอาชีพที่ต้องคลุกคลีอยู่กับความงาม ทำให้ยาสมีน่าต้องเผชิญกับแนวคิดตามมาตรฐานความงามอยู่เสมอ โดยเฉพาะอายุที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างผู้ใหญ่และสูงวัย เธอเคยรู้สึกวิตกกังวลกับความเหี่ยวย่นหรือริ้วรอยที่หย่อนคล้อยตามวัยจนไปลองพึ่งพาการยกกระชับด้วยโบท็อกซ์ แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดว่าความงามที่ได้มาช่างไม่ธรรมชาติเอาเสียเลย สุดท้ายจึงยืนหยัดที่จะไม่ฝืนธรรมชาติ ปล่อยให้ความสุขด้านความงามเกิดจากความพึงพอใจแบบที่ไม่ต้องคอยไขว่คว้า และใช้เวลาไปสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆ ที่จะมอบความสุขในแง่มุมอื่นให้กับตัวเอง
ภาพ: @yazemeenah
ชีวิตประจำวันของยาสมีน่าจะไม่ขลุกตัวเองอยู่บนเก้าอี้หรือโซฟา เธอจะออกกำลังกาย เล่นโยคะและอ่านหนังสืออยู่บนเสื่อ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวผ่านการลุกยืนและนั่งลงที่ใช้พลังงานมากขึ้น ด้านอาหารการกิน เธอไม่ทานเนื้อสัตว์อย่างหมูหรือเนื้อ เน้นทานอาหารคลีนที่มีผักใบเขียวและโปรตีนจากธรรมชาติ อาหารทานเล่นของเธอคือแพนเค้กที่ทำจากแป้งเชสท์นัทผสมกับไข่คู่กับกาแฟออร์แกนิก ส่วนการบำรุงเธอใช้เพียงน้ำมันออร์แกนิกอย่างโอลีฟออยล์ทั้งผิวหน้าและผิวกายเท่านั้น
“อย่าลืมใช้เวลากับปัจจุบัน”
Work Life Balance คือสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนต่างไขว่คว้าและขอพรให้เกิดขึ้นกับตัวเอง สำหรับยาสมีน่า เธอเลือกสร้างความสมดุลนี้ด้วยการอยู่กับปัจจุบัน โดยเฉพาะเวลาพักผ่อน เมื่อมีเวลาหยุดพักเธอจะหากิจกรรมอย่างการปั้นเซรามิก ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร หรืออ่านหนังสือ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดคือการใช้มือทำ เธอกล่าวว่าเมื่อเราลงมือสร้างสรรค์อะไรสักอย่าง ความรู้สึกนึกคิด จิตใจและร่างกายจะผสานเข้ากันจนเกิดเป็นสมาธิขึ้น และเมื่อทำมันสำเร็จ ความสุขก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราอย่างน่าอัศจรรย์ นี่คือวิธีการหาสมดุลง่ายๆ จากชีวิตการทำงาน เพราะหลายคนอาจวนลูปอยู่กับการไขว่คว้าหาเวลาพัก จนเมื่อได้พักจริงๆ กลับคอยฟุ้งฝันกับเรื่องในอนาคตในหัวจนลืมการลงมือทำบางสิ่งบางอย่างในเวลานั้น เพื่อให้ตัวเรากลับมาพบกับตัวตนอันเงียบสงบในเวลาพักอันแสนมีค่า และนี่คือความเรียบง่ายที่ทำเองได้โดยไม่ต้องจ่ายแพง
“เก็บความฝันที่ฟังดูบ้าสิ้นดีเอาไว้ อย่าเพิ่งรีบถอดใจทิ้งมันไป เพราะเชื่อเถอะว่ามันจะสำเร็จในวันหนึ่ง”
ประเด็นที่ฟังแล้วอาจดูเหมือนคติพจน์ของไลฟ์โค้ชขายคอร์สราคาแพง แต่นี่คือสิ่งที่ยาสมีน่าอยากฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง ความฝันอันยิ่งใหญ่เป็นจริงได้เสมอเมื่อลงมือทำทีละเล็กทีละน้อย สะสมแต้มความสำเร็จชิ้นเล็กๆ ตามเส้นทางชีวิต และต้องไม่ลืมความเชื่อมั่นในจิตวิญญาณ เพราะความเชื่อกับสัญชาตญาณจะส่งผลไปสู่ความสำเร็จที่รอคอย เหมือนกับที่เธอเชื่อมั่นในจุดยืนและค้นพบความสุขจากความเรียบง่ายในชีวิตที่เธอเลือกเอง
จากการแลกเปลี่ยนมุมมองกับ ยาสมีน่า รอซซี่ ทำให้เห็นว่าความทรงพลังของผู้หญิงคนนี้ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายคือการค้นพบความหมายของการใช้ชีวิต ความเรียบง่ายที่เป็นพื้นฐานของกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่ตื่นนอน ทานอาหาร ทำงาน ความคิดเห็นและความรัก จุดยืนอันมั่นคงนี้ส่งผลให้เธอมีเวลาเพิ่มเติมไปสัมผัสกับความงดงามรอบตัวที่เติมเต็มพลังงานแห่งความสุขให้เต็มอยู่เสมอ โดยไม่โอนเอนไปกับอุปสรรคหรือความรู้สึกแง่ลบที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ สำหรับใครที่ยังคงตามหาความหมายของชีวิตและวิ่งตามความเรียบง่ายตามแบบคนอื่น การพักเบรกจากความซับซ้อนของความคิดและกลับมาอยู่กับชีวิตในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความงามจากสิ่งรอบตัวอย่างเพื่อน ครอบครัว หรือความสำเร็จเล็กๆ ที่เคยทำมา นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นความเรียบง่ายที่ทำให้มีความสุขได้โดยไม่ต้องเสียเวลาและเสียแรงจากการทำนายอนาคตให้เหนื่อยเลย
WATCH