
WELLNESS
ชวนรู้จัก Cycle Syncing ใช้ชีวิตตามรอบเดือน บาลานซ์ฮอร์โมนผู้หญิงเทรนด์การดูแลสุขภาพให้แมทช์กับฮอร์โมนรอบเดือน ที่สาวๆ ควรรู้ |
สุขภาพของผู้หญิงที่สำคัญไม่แพ้ความสวยงามภายนอก ก็ต้องเป็นการดูแลตัวเองจากภายในทั้งในเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย รวมไปจนถึงการดูแลอารมณ์ที่จะส่งผลถึงสุขภาพทางใจ ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนของผู้หญิงทั้งสิ้น วันนี้โว้กบิวตี้จะพามารู้จักการดูแลตัวเองตามรอบเดือนหรือที่เรียกกันว่า Cycle Syncing ที่จะช่วยทำให้เราบาลานซ์การใช้ชีวิตให้เข้ากับฮอร์โมนของเราได้ดียิ่งขึ้น
Cycle Syncing คืออะไร?
เทรนด์นี้มีที่มาจากครีเอเตอร์สายรักสุขภาพที่ออกมาแชร์ถึงผลลัพธ์หลังการทดลองทำ Cycle Syncing ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้หญิงทุกคน ความหมายที่เข้าใจง่ายที่สุดของ Cycle Syncing คือ การเชื่อมความเข้าใจระหว่างฮอร์โมนผู้หญิงและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน หรือการใช้ชีวิตให้สอดคล้องไปกับช่วงเวลาที่เรามีรอบเดือนนั่นเอง โดยวิธีนี้จะช่วยทำให้เราเข้าใจฮอร์โมนในแต่ละช่วงของเดือนได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงทำให้เราสามารถบาลานซ์กิจกรรมต่างๆ ให้สนับสนุนการทำงานของฮอร์โมนในแต่ละช่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4 สเต็ปการดูแลตัวเองแบบ Cycle Syncing
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกับรอบเดือนของเราก่อน โดยรอบเดือนหรือประจำเดือนโดยทั่วไปคือ 28 วันแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ ดังนี้
1.Menstrual Phase (Day 1-7)
คือระยะแรกหรือวันที่เริ่มมีประจำเดือนซึ่งปกติจะกินเวลาประมาณ 3-7 วัน ในช่วงระยะนี้ฮอร์โมนตก ทำให้รู้สึกหมดแรงหรือมีพลังงานต่ำ เหมาะกับออกกำลังกายเบาๆ อย่าง โยคะ ยืดเหยียดร่างกายหรือนอนพักผ่อน ในช่วงที่ฮอร์โมนตกจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ง่าย แล้วยังทำให้ปราการผิวอ่อนแอ เพราะฉะนั้นในช่วงระยะนี้จึงควรเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอไม่ควรปล่อยให้ผิวแห้งและควรหลีกเลี่ยงการลองครีมใหม่ๆ ในระยะนี้ไปก่อน
2.Follicular Phase (Day 8-15)
คือระยะหลังหมดประจำเดือนหรือระยะที่ร่างกายเริ่มกลับมาสร้างไข่ใหม่อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนหลั่งกินระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน ในช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้ผิวกลับมาสงบ ค่อยๆ ดูดีขึ้นและจะทำให้ผิวดูสวยเปล่งปลั่งอย่างเห็นได้ชัดในช่วงวันที่ 14-15 ในช่วงระยะนี้ถือว่าเหมาะกับการทำกิจกรรมที่โลดโผนขึ้นมาสักหน่อย เช่น คาดิโอ จ็อกกิ้ง เดินป่าหรือออกไปสังสรรค์พบปะผู้คนเพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกลับมามีพลังงานแบบเต็มที่
3.Ovulation Phase (Day 15-17)
คือระยะไข่ตก ในช่วงนี้ร่างกายจะหลังฮอร์โมนที่มีชื่อว่าโปรสเจสเตอโรนที่ช่วยสร้างผนังมดลูกทำให้ผนังมดลูกหนาขึ้นเพื่อเสริมการตั้งครรภ์ ในช่วงนี้จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งแบบเต็มที่ แต่ต้องดูความทำความสะอาดเป็นพิเศษเพราะผิวในช่วงนี้จะมีความมันง่ายกว่าปกติ รวมถึงเป็นช่วงที่ร่างกายมีพลังงานสูงสุดในรอบเดือน จึงเหมาะกับการออกไปทำกิจกรรมหนักๆ อย่าง การวิ่ง ต่อยมวยหรือกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก
4.Luteal Phase (Day 18-28)
คืิอระยะหลังไข่ตกซึ่งเป็นช่วงที่กำลังจะเกิดประจำเดือนในรอบใหม่ ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนตกส่งผลให้ระยะนี้พลังงานของร่างกายเริ่มตกลงไปด้วย ซึ่งรวมไปถึงสุขภาพผิวที่กลับมาอ่อนแอ ในช่วงนี้ต้องรักษาสมดุลผิวให้ดี ทำความสะอาดและควบคุมความมันด้วย AHA หรือ BHA และกลับมาทำกิจกรรมเบาๆ อย่างการเดิน การว่ายน้ำหรือการโยคะ
ภาพ : Design by Freepik
WATCH