WELLNESS

เมื่อการ “ฝากไข่” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่กลับกลายเป็นเทรนด์เตรียมความพร้อมที่เหมาะสำหรับสาวๆ ยุคใหม่

เจาะลึกความสำคัญของการฝากไข่ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ยุคใหม่ที่ต้องการความปลอดภัยและห่วงใยเรื่องสุขภาพเป็นอันดับหนึ่ง

     ไลฟ์สไตล์ ความเครียด รวมไปถึงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกในขณะนี้ อาจส่งผลให้การวางแผนครอบครัวเป็นไปได้ยากมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่เริ่มสร้างครอบครัวและวางแผนที่จะมีบุตร เพราะแน่นอนว่าความกลัว ความวิตกกังวลใจ กลายมาเป็นอิทธิพลหลักที่ทำให้หลายๆ คนตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น เทรนด์ของการสร้างครอบครัวในยุคปัจจุบันจึงมุ่งเน้นไปที่ อยากมีลูก ให้ห่างไกลไวรัส (โควิด-19)” เป็นเหตุให้การฝากไข่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ไกลตัวอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นทางเลือกแรกๆ ที่ครอบครัวยุคใหม่ให้ความสำคัญ แต่การตัดสินใจในเรื่องที่มีความซับซ้อนและไม่ได้มีข้อมูลเชิงลึกประกอบการตัดสินใจเท่าที่ควรอาจทำให้บางคนยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเลือกเข้ารับคำปรึกษา ในโอกาสนี้เอง โว้กบิวตี้เลยขอพาไปเปิดโลกใหม่ กับคุณหมอผู้ชำนาญการ นายแพทย์พูลศักดิ์ ไวความดี ผู้อำนวยการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ BDMS Wellness Clinic  ท่านเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติศาสตร์นรีเวชวิทยาและการเจริญพันธุ์ รวมทั้งมีความชำนาญเป็นพิเศษทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องทางนรีเวช การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง การรักษาภาวะมีบุตรยากโดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะการทำเด็กหลอดแก้ว และการคัดกรองโรคพันธุกรรมของตัวอ่อน โดยสั่งสมประสบการณ์ในการดูแลรักษามานานกว่า 30 ปี และได้ช่วยให้คู่สมรสที่มีบุตรยากได้มีบุตรแล้วหลายพันคู่ จะมาให้ข้อมูลแบบเจาะลึก พร้อมคลายข้อสงสัยและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจไปด้วยอีกทาง

การฝากไข่คืออะไร? มีความสำคัญและจำเป็นแค่ไหนในยุคปัจจุบัน

  • การฝากไข่ (Egg freezing)คือการนำเอาไข่ในสภาพที่สมบูรณ์ในวัยเจริญพันธุ์ออกมาจากรังไข่ จากนั้นจึงนำมาแช่แข็งเก็บไว้ในไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิ-195 องศาเซลเซียส โดยไข่ที่ถูกเก็บจะเหมือนถูกหยุดอายุเอาไว้ ซึ่งตามหลักการจะสามารถแช่แข็งไข่ไว้ได้นานเท่าที่ยังมีสารรักษาความเย็นและสามารถนำกลับมาผสมกับอสุจิ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน พร้อมที่จะนำมาย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกต่อไป ซึ่งในปัจจุบันที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ทำให้หลายคนต่างวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการฝากไข่จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อรักษาสภาพความสมบูรณ์ของไข่ไว้ได้ดีที่สุดในช่วงระยะที่กำลังวางแผนครอบครัว

ทำไมผู้หญิงถึงมีบุตรยาก ต้องมีอาการแสดงแบบไหนถึงจะรู้ตัวว่ามีบุตรยาก จุดเริ่มต้นของภาวะมีบุตรยากเริ่มต้นที่ช่วงอายุประมาณเท่าไหร่?

  • ช่วงวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิง คือ อายุ 18 ถึง 35 ปี ซึ่งในปัจจุบันพบว่าผู้หญิงเริ่มมีครอบครัวช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้แต่งงานในอายุที่เกิน 35 ปีแล้ว มักจะพบปัญหามีบุตรยาก ข้อสังเกตที่ง่ายที่สุดคือหากแต่งงานโดยที่ไม่ได้คุมกำเนิดครบหนึ่งปีแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ ถือได้ว่าอาจเข้าข่ายสภาวะมีบุตรยาก ควรรีบปรึกษาแพทย์จะเป็นการดีที่สุดแต่ก็มีบางกรณีที่อายุอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักสำคัญของการมีบุตรยาก แต่สุขภาพของรังไข่ต่างหากที่เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญ บางรายอาจมีภาวะรังไข่เสื่อม คุณภาพและปริมาณของเซลล์ไข่ลดลงก่อนอายุอันควร  บางรายอาจมีรังไข่ทำงานได้ดี อ่อนกว่าวัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางพันธุกรรมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน

(เสริมไว้ว่ายังมีงานวิจัยพบว่า การสูบบุหรี่ประจำเป็นเวลานานทำให้เซลล์ไข่ในรังไข่ลดปริมาณลงเร็วกว่าปกติและอสุจิเสื่อมคุณภาพ มีบุตรยาก และมีอัตราการแท้งบุตรสูง)

 

สุขภาพของรังไข่ที่ดี ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง?

  1. มีเลือดไปหล่อเลี้ยงรังไข่
  2. มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของรังไข่เพียงพอ
  3. มีการกำจัดสารอนุมูลอิสระที่ถูกต้อง

ซึ่งทั้งสามส่วนที่กล่าวมานั้น ทางคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ BDMS Wellness Clinic ได้มีการจัดเตรียมโปรแกรมพิเศษ เพื่อตรวจสารอาหารและวิตามินในร่างกาย สารอนุมูลอิสระและสารโลหะหนัก โดยจะเข้าช่วยปรับสภาพการทำงานของรังไข่ให้เหมาะสมก่อนที่จะกระตุ้นเซลล์ไข่เพื่อนำมาเก็บเพื่อผสมเป็นตัวอ่อนคุณภาพที่ดี เมื่อพร้อมจะตั้งครรภ์ในอนาคต เรียกว่ามีการดูแลให้คำปรึกษาครบรอบด้านเลยก็ว่าได้

 

การฝากไข่ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

  1. หากพบว่าตนมีปัญหาเข้าข่ายผู้มีบุตรยาก อันดับแรกเลยคือต้องรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อวิเคราะห์ไปถึงปัญหาที่แท้จริงก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
  2. แน่นอนว่าแค่การซักถามจะได้ข้อมูลเพียงคร่าวๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพร่างกาย มดลูกและรังไข่ ได้แก่ ตรวจอัลตราซาวด์ ตรวจฮอร์โมนและคัดกรองโรคที่สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกจากการตรวจเลือด
  3. เมื่อได้ต้นเหตุของปัญหาที่แน่นอนแล้ว ก่อนการฝากไข่ แพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่ เพื่อให้เซลล์ไข่คุณภาพดีและปริมาณที่เหมาะสม
  4. และต่อมาจะถึงขั้นตอนสำคัญนั่นก็คือการเก็บไข่ คือการนำเอาไข่สภาพดีในวัยเจริญพันธุ์ออกมาจากรังไข่
  5. จากนั้นเป็นขั้นตอนของการแช่แข็งไข่ (Egg Freezing) โดยนำไข่ที่เก็บได้ไปแช่แข็งเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งไข่ที่ถูกเก็บจะเหมือนถูกหยุดอายุเอาไว้ ทำให้ไข่ไม่เสื่อมสภาพและสามารถนำกลับมาผสมกับอสุจิ เพื่อก่อให้เกิดการปฏิสนธิและเจริญเป็นตัวอ่อน พร้อมที่จะย้ายกลับเข้าไปฝังในโพรงมดลูกต่อไป

 

วิธีการเตรียมความพร้อมในการมีบุตร ให้ห่างไกลเชื้อไวรัส ทำได้อย่างไรบ้าง?

  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเป็นทุนเดิม ย่อมส่งผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูง และมีความเสี่ยงน้อยมากต่อการติดเชื้อไวรัสทุกชนิด รวมถึงโควิด-19 ด้วย”เนื่องด้วยในปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางการแพทย์ใดๆ ที่พบว่า การตั้งครรภ์เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส แต่อย่างไรก็ดีการดูแลสุขภาพและสุขอนามัยที่ถูกต้อง ได้แก่ ล้างมือบ่อยๆ ให้ถูกหลักอนามัย ใส่หน้ากากอนามัยเวลาเดินทางออกนอกบ้าน รักษาระยะห่างตามที่กำหนด ไม่อยู่ในที่แออัด และการทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส จะช่วยให้ลดโอกาสติดเชื้อลงได้อย่างมาก

 

ข้อควรปฏิบัติหรือดูแลตัวเองของผู้ที่มีบุตรยาก รวมไปถึงข้อปฏิบัติตัวในกรณีที่กำลังตั้งครรภ์

  • หากมีบุตรยาก คู่สมรสควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเสียใหม่ อย่างแรกเลย คือ ควรงดหรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ อดนอน เครียด เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลทำให้รังไข่เสื่อมเร็วและเชื้ออสุจิไม่แข็งแรง จากนั้นควรปรับพฤติกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารให้ครบหมู่ โดยเฉพาะผู้หญิงควรเสริมวิตามินจำพวกโฟเลตและธาตุเหล็ก ที่ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงมดลูกและรังไข่มากขึ้น ช่วงเวลา 40 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ภาวะโภชนาการของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของตนเองและลูกน้อย มีรายงานทางการแพทย์ยืนยันให้เห็นชัดเจนว่า ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น โลหิตจาง ครรภ์เป็นพิษ เบาหวาน ไทรอยด์ รวมถึงการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ เหล่านี้ มีความสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ภาวะโภชนาการก่อนการตั้งครรภ์ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน


WATCH



1 / 4

แพทย์ผู้ชำนาญการ ที่มีประสบการณ์ด้านการมีบุตรยาก มากว่า 30 ปี

2 / 4

ห้อง Lab เทคโนโลยีทันสมัย ปลอดเชื้อโรค

3 / 4

สถานที่ปลอดเชื้อ ในทุกขั้นตอนของการให้บริการ

4 / 4

BDMS Wellness Clinic

หากเลือกใช้บริการการฝากไข่กับ ทาง BDMS Wellness Clinic จะมีวิธีการดูแลทั้งก่อนและหลังการตั้งครรภ์อย่างไร และแตกต่างจากที่อื่นๆ ทั่วไปอย่างไรบ้าง?

  • นอกจากคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากแล้ว ทางคลินิกส่งเสริมสุขภาพสตรี ที่ BDMS Wellness Clinicยังมีการจัดโปรแกรมดูแลสุขภาพองค์รวมให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่ดีได้ในทุกๆ ช่วงวัย มีแพทย์ผู้ชำนาญการให้คำปรึกษา ดูแลให้คู่สมรสมีความพร้อมในทุกด้าน โดยเน้นการดูแลเฉพาะบุคคล ที่พร้อมให้คำปรึกษาและโปรแกรมการรักษาที่เหมาะกับบุคคลนั้นๆ อย่างแท้จริง ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน วางแผนการตั้งครรภ์ ประเมินความพร้อมทั้งก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ และมุ่งเน้นในความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในการรักษา โดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมถึงยังมีทีมบุคลากรที่ชำนาญและอุปกรณ์ครบครัน มีนักโภชนาการร่วมกับสูติแพทย์ วางแผนควบคุมน้ำหนัก เสริมสารอาหารและวิตามินเสริมที่จำเป็นในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์และเฉพาะของแต่ละบุคคล มีแพทย์และนักกายภาพที่จะเข้ามาช่วยออกแบบโปรแกรมในการดูแลด้านการออกกำลังกายแก่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์โดยเฉพาะ  ประกอบกับมีเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย ในสถานที่โล่ง โปร่ง สะอาด เพื่อให้ผู้มาใช้บริการมีความมั่นใจและสบายใจ เพราะสุขภาพจิตใจก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ หลังคลอดบุตรยังมีโปรแกรม Fit Mom เพื่อดูแลปรับน้ำหนักและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้คุณแม่มือใหม่มีสุขภาพดี หุ่นกระชับ ผิวพรรณสดใส กลับมาเป็นวัยสาวดังเดิม

 

     ปฏิเสธไม่ได้ว่า มากไปกว่าข้อมูลความสำคัญของการฝากไข่หรือวิธีการ ขั้นตอนการเข้ารับคำปรึกษาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สาวๆ หรือคู่สมรส ตัดสินใจว่าจะเข้ารับบริการหรือไม่ โดยถ้ามีผู้เชี่ยวชาญคอยตอบปัญหาคาใจของเราก่อนการตัดสินใจได้อย่างครบถ้วน รวมไปถึงทุกขั้นตอนระหว่างทาง หากพบความกังวลใจในเรื่องใดก็สามารถขอคำปรึกษาจากผู้ชำนาญการได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้องและมีการวางแผนการมีบุตรในอนาคตได้อย่างมีคุณภาพ BDMS Wellness Clinic จึงถือเป็นอีกหนึ่งคลินิกที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพร่างกายแบบองค์รวม ด้วยเพราะมีการบริการและโปรแกรมต่างๆ ที่มากมายครอบคลุมครบทุกความต้องการ พร้อมใส่ใจดูแลทั้งในเชิงให้ข้อมูล คำปรึกษาและคอยแนะนำขั้นตอนการดูแลตนเองแบบรอบด้าน ซึ่งจะเข้าช่วยคลายความกังวลให้กับสาวๆ หรือคู่สมรสที่กำลังวางแผนครอบครัวอย่างแน่นอน 

     ข้อมูลในเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นเพียงข้อมูลและการบริการในภาพรวม หากต้องการสอบถามหรือต้องการรายละเอียดเฉพาะบุคคลสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่ BDMS Wellness Clinic เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 - 17.00 น. และ เสาร์ เวลา 9.00 - 12.00. สำรองเวลานัดหมาย เพื่อปรึกษาทีมแพทย์​ โทร 0 2826 9971, Email: bwc.ivf@bdmswellness.com หรือ LINE: @bdmswellnessclinic

WATCH