ตอบทุกคำถามเรื่อง 'เมโสหน้าใส' ช่วยแก้ปัญหาผิวได้จริงหรือเปล่า? ทำกี่ครั้งเห็นผล?

เมโสหน้าใสคืออะไร?

เมโสหน้าใส (Mesotheraphy) คือ การฉีดวิตามินแอนติออกซิเดนท์ หรือ สารบำรุงผิวตัวอื่นๆ ฉีดเข้ากับผิวโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาสภาพผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมถึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูขาวกระจ่างใส นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย

การฉีดเมโสหน้าใส มี 2 แบบ

1. การฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด เป็นการใช้เข็มฉีดยาจิ้มเป็นจุดเล็กๆ กระจายทั่วใบหน้า เพื่อเป็นการสร้างคอลลาเจน แต่ก็มีข้อเสียคือการจิ้มเข็มขนาดเล็กทั่วใบหน้าอาจทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแดง และออกฤทธิ์ช้ากว่าแบบ 16 จุด ซึ่งวิธีนี้หากใช้เข็มจิ้มไม่ดีหรือใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้

2. การฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด เป็นการฉีดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้วิตามินซึมเข้าผิวได้ดี มีข้อดีคือมีรอยแผลน้อยกว่าแบบสะกิด ออกฤทธิ์ได้นานกว่าแต่มีราคาที่สูงกว่า

ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บหรือไม่?

การฉีดเมโสหน้าใสเป็นเพียงการนำเข็มมาสะกิดเล็กน้อยทั่วใบหน้า จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บ แต่ความเจ็บจะอยู่ในระดับที่ทนได้ และอาจสัมผัสได้ถึงความร้อนขณะทำ แต่ไม่ทิ้งอาการปวดไว้หลังทำเสร็จ

เมโสหน้าใสช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

เมโสหน้าใส คือ การฉีดวิตามินที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิว หลักๆ แล้วจะช่วยให้หน้าดูกระจ่างใส เรียบเนียน พร้อมลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ แต่เนื่องจากสภาพผิวของคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงจำแนกชนิดของเมโสหน้าใสได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่

1. เน้นความขาวใส จะมีส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยให้หน้าขาว เช่น วิตามิน A, B, C, E, Transamin และ Glutathione

2. เน้นหน้าใส หลักๆ จะมีส่วนผสมของคอลลาเจนและโคเอนไซม์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวดูฟู และช่วยกระชับรูขุมขน

3. เน้นแก้สิว-แก้ผื่น ช่วยลดการอักเสบของสิว ขับสารพิษที่สะสมภายในผิวหนังออก

ทำกี่วันเห็นผล ต้องทำบ่อยแค่ไหน และผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไร?

จะเริ่มเห็นผลวันที่ 3 หลังการฉีด และเริ่มเห็นผลชัดเจนในวันที่ 7-14 โดยความถี่ของการฉีดโดยปกติแล้วจะฉีดสัปดาห์ละครั้งในเดือนแรก และในเดือนต่อไปจะฉีดทุกๆ 2 สัปดาห์ ส่วนผลลัพธ์เมโสหน้าใสจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน และจะสลายหายไปเองตามธรรมชาติ

ฉีดเมโสหน้าใสอันตรายหรือไม่?

เนื่องจากส่วนผสมที่ใช้ในการฉีดเมโสหน้าใสประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ คือ วิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิว อีกทั้งตัววิตามินยังค่อยๆ สลายหายไปเองได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย การฉีดเมโสหน้าใสจึงไม่เป็นอันตราย แต่แนะนำให้เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ให้บริการเพื่อป้องกันการฉีดที่ผิดวิธี

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดเมโสหน้าใส

ข้อดี

• เห็นผลไวกว่าการใช้ครีมบำรุง
• ช่วยรักษาปัญหาผิวได้หลากหลายและเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสิว หรือ รูขุมขนกว้าง
• ไม่เจ็บ และไม่ต้องรอพักฟื้น 

ข้อเสีย

• หากไม่ได้รับการฉีดที่ถูกต้องอาจทำให้เกิดแผลฟกช้ำ เป็นรอยแดง และผิวอักเสบได้
• เนื่องจากเมโสหน้าใสสามารถสลายหายไปเองได้จึงต้องฉีดซ้ำอยู่บ่อยๆ 

ราคาเท่าไร?

ราคาในการฉีดเมโสหน้าใสขึ้นอยู่กับราคาของแต่ละคลินิกและโปรโมชั่นในแต่ละช่วง โดยปกติแล้วจะมีราคาเฉลี่ยต่อครั้งอยู่ที่ 1,000 บาทขึ้นไป แนะนำให้ปรึกษาและสอบถามกับทางคลินิกก่อนตัดสินใจทำ