วิธีดูแลแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกให้หายไว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

ขึ้นชื่อว่าการศัลยกรรมล้วนทิ้งร่องรอยบาดแผลไว้ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมทั่วไป นอกจากผลลัพธ์หลังผ่าตัดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อว่าหลายคนกังวลก็คงจะหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องแผลเป็น วันนี้โว้กบิวตี้จึงนำแนวทางในการดูแลแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกให้หายไว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นมาแนะนำกัน

หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก งดอาบน้ำในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำหัตถการ โดยอาจจะใช้วิธีเช็ดตัวเผื่อทำความสะอาดร่างกายเฉพาะจุด  และต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ หรือเหงื่อประมาณ 5-7 วัน ซึ่งหากรู้สึกกังวล แนะนำให้ใช้พาสเตอร์กันน้ำปิดแผลผ่าตัดไว้ก็จะช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังต้องงดการแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ หรือว่ายน้ำ อย่างน้อย 8-12 สัปดาห์ เพื่อให้แผลหายสนิท

รักษาแผลผ่าตัดให้สะอาดอยู่เสมอ 

หากดูแลและทำความสะาอดแผลผ่าตัดได้ไม่ดีพออาจทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบได้ง่าย  ดังนั้น จึงควรรักษาแผลผ่าตัดให้สะอาดอยู่เสมอตามคำแนะนำของแพทย์ หรือหากมีนัดทำแผลที่โรงพยาบาล หรือคลินิกก็ควรไปตามนัดทุกครั้ง เพื่อให้แผลสะอาดอยู่เสมอ ในกรณีที่มีเลือด หรือน้ำเหลืองไหลซึมออกมาจากบริเวณแผลผ่าตัด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

หมั่นทาครีมลดรอยแผลเป็น

เมื่อแผลแห้งสนิทและสะเก็ดแผลหลุดออกจนหมดแล้ว แนะนำให้หมั่นทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ โดยแนะนำให้เลือกครีมลดรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของ ซิลิโคน (Silicone), อัลลันโทอิน (Allantoin), สารสกัดจากหัวหอม (Allium Cepa), วิตามินซี (Vitamin C) และวิตามินอี (Vitamin E) เป็นต้น เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้มีส่วนช่วยลดการอักเสบ ปรับสีผิวในเรียบเนียนสม่ำเสมอ และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวหนัง จึงช่วยลดรอยแผลเป็นหลังผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกใช้ซิลิโคนเจลลดรอยแผลเป็น

หากใครกังวลว่าจะเกิดแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก แนะนำให้เลือกใช้ซิลิโคนเจลลดรอยแผลเป็น ซึ่งเป็นแผ่นซิลิโคนทางการแพทย์ที่มีส่วนช่วยกักเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้แผลเป็นแบนราบลง ความนูนลดลง และสีของแผลเป็นดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้หลังแผลปิดสนิทแล้วเท่านั้น ไม่ควรใช้กับแผลสดเด็ดขาด ควรแปะทุกวันเป็นเวลา 12-23 ชั่วโมง ยิ่งซิลิโคนสัมผัสกับผิวหนังนานเท่าไรก็จะยิ่งเร็วและให้ผลลัพธืที่ดีขึ้นเท่านั้น