SIGN IN
|
TREATMENTS
พบกับ 5 เทคโนโลยีการลดไขมันต้นแขน แบบไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวบอกลาไขมันและความหย่อนคล้อยบริเวณต้นแขนด้วยเทคโนโลยีลดไขมันหลากหลายรูปแบบ เห็นผลไว ไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา |
ปัญหาต้นแขนหย่อนคล้อย เกิดจากไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณต้นแขน ทำให้กล้ามเนื้อและผิวหนังหย่อนยาน ขาดความกระชับ อาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การลดไขมันต้นแขนสามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกายที่เน้นไปที่กล้ามเนื้อแขน เช่น วิดพื้น ยกดัมเบล ต่อยมวย จะทำให้กล้ามเนื้อแขนมีความแข็งแรงและกระชับมากขึ้น แต่ถ้าอยากลดไขมันต้นแขนแบบเร่งด่วน เห็นผลทันใจ ไม่ต้องผ่่าตัดและพักฟื้น นี่คือ 5 เทคโนโลยีลดไขมันต้นแขนที่น่าสนใจ!
เมโสแฟต
เมโสแฟตเป็นการนำตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน ฉีดลงไปในชั้นไขมันบริเวณต้นแขน เพื่อทำให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณแขนจึงสลายไป ส่งผลให้ต้นแขนดูเล็กลง ราคาไม่แพง คุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาแขนใหญ่จากไขมันส่วนเกิน มีน้ำหนักตัวมากต้องการลดไขมันเฉพาะจุด โดยจะเริ่มเห็นผลใน 1-3 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 เดือน ซึ่งจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละคน
Coolsculpting
Coolsculpting เป็นการใช้ความเย็นเข้าไปสู่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน เพื่อแช่แข็งไขมันให้เซลล์ไขมันตายและถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันลงได้ 25% ต่อการทำ 1 ครั้ง หลังทำแขนจะเล็กลงและกระชับมากขึ้น เห็นผลใน 3-4 สัปดาห์และเห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน ซึ่งสามารถทำได้หลายตำแหน่งที่มีการสะสมของไขมัน เช่น ต้นขาและหน้าท้อง เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินระดับปานกลาง และมีค่า BMI<35 เพราะหากคนไข้มีปริมาณไขมันเยอะหรืออ้วนมากๆ อาจจะทำไม่ได้ผล
Liposonix
เป็นการสลายไขมันส่วนเกินด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ โดยคลื่นจะลงไปทำงานที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังได้ลึกประมาณ 13 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการดูดไขมัน แต่เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่การดูดไขมันหรือการผ่าตัด แต่สามารถทำให้สัดส่วนต้นแขนเล็กลงได้ประมาณ 1 นิ้ว หรือ 2.5 เมตร ใช้เวลาทำการรักษาแค่ 1 ชั่วโมง ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการกำจัดไขมันที่ตายแล้ว จึงจะเห็นผลชัดเจนมากที่สุด
UltraShape Power
เป็นพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่ปล่อยพลังงานออกมาเป็นช่วงๆ (Pulse) ลงไปกำจัดไขมันส่วนเกินที่ความลึกประมาณ 15 มิลลิเมตร เป็นการลดสัดส่วนรูปแบบใหม่ที่เน้นให้ความปลอดภัยกับผิวด้านบน เนื้อเยื่อข้างเคียง เส้นเลือดและเส้นประสาท จึงทำให้ไม่เจ็บมากขณะที่รักษา ไม่เกิดรอยแดงและอาการช้ำ เมื่อผ่านไป 4 เดือนหลังจากรักษาครั้งสุดท้าย จะพบว่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังลดลงถึง 32% จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเข้ามาทำการรักษาทุกๆ 2 สัปดาห์ และทำประมาณ 3 ครั้งติดต่อกัน
WATCH
Ultraformer III Body
มีขนาดของหัวเครื่อง 6 มิลลิเมตร โดยจะปล่อยคลื่นพลังงานอัลตราซาวด์แบบ Macro Focus Ultrasound ออกแบบมาเพื่อช่วยสลายไขมันที่มีไขมันสะสมน้อยๆ สามารถทำลายเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร แนะนำให้ทำ 3 ครั้งติดต่อกัน โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน หลังจากรักษา ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการกำจัดไขมันที่ตายแล้ว ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนที่ทำการรักษาเล็กลงและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น
ไขมันต้นแขนถือว่าเป็นไขมันที่ลดได้ค่อนข้างยาก บางคนใช้วิธีควบคุมอาหารและออกกำลังกายแต่ก็ยังไม่สามารถลดต้นแขนได้ ฉะนั้นการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยจึงเป็นทางออกที่รวดเร็ว เห็นผลไว เสริมความมั่นใจให้ได้ไม่น้อย ซึ่งเทคโนโลยีแต่ละแบบก็มีความแตกต่่างกันไป เพราะแต่ละคนมีปริมาณไขมันน้อยและมากไม่เท่ากัน
WATCH
