ทำความรู้จัก มาเด้คอลลาเจน (Made Collagen)

มาเด้คอลลาเจน คือชื่อของตัวยาของการทำทรีตเมนต์เมโสหน้าใสจากประเทศอิตาลี ประกอบด้วยสารอาหารสำหรับผิวต่างๆ จากธรรมชาติ วิตามินรวม แร่ธาตุ เอนไซม์ รวมทั้งพลาเซนต้าและคอลลาเจนเข้มข้น ซึ่งมีเทคนิควิธีพิเศษแบบ 16 จุดทั่วใบหน้า โดยออกฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง รวมถึงช่วยดีท็อกซ์สารพิษ ลดอาการแพ้ เติมความชุ่มชื้น ให้ผลลัพธ์ของผิวออกมาเรียบเนียน กระจ่างใส และดูฉ่ำน้ำมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาเด้คอลลาเจนในตลาดปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 สูตรตามการแก้ไขปัญหาผิวได้ดังนี้

• มาเด้คอลลาเจน สูตรอสุจิแซลมอนหรือ xDNA เน้นเรื่องการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น ลดขนาดรูขุมขน ลดริ้วรอย ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส โดยใช้เทคนิคแบบ 16 จุด
• มาเด้คอลลาเจน สูตร Tensonez เน้นเรื่องการปรับผิวหน้าให้ขาวใส เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวอื่นๆ มากนัก
• มาเด้คอลลาเจน สูตร Depigment เน้นเรื่องการลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำ ให้ผิวหน้าเรียบเนียนยิ่งขึ้น

มาเด้คอลลาเจน และ เมโสหน้าใส ต่างกันอย่างไร 

อย่างที่กล่าวไปว่า MADE Collagen เป็นหนึ่งในตัวยาสำหรับการทำทรีตเมนต์เมโสที่รับความนิยมมากกว่าตัวอื่นๆ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันที่ส่วนประกอบของตัวยาและวิตามินที่ใช้ รวมไปถึงเทคนิคการฉีด สำหรับการทำเมโสหน้าใสจะเป็นการใช้เทคนิคการสะกิดจุดเล็กๆ บนชั้นผิวชั้นนอกทั่วใบหน้า ต่างกับมาเด้คอลลาเจนที่จะใช้ตัวเข็มพิเศษซึ่งจะทำให้ตัวยาสามารถลงลึกสู่ชั้นผิวได้ดีกว่า

ปัญหาผิวแบบไหนที่เหมาะกับการทำมาเด้คอลลาเจน 

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจจะสงสัยว่าแล้วคนที่มีปัญหาผิวแบบไหนที่จะเหมาะกับการทำมาเด้คอลลาเจน หรือมาเด้คอลลาเจนนั้นเหมาะกับใครบ้าง

• ผู้ที่มีปัญหาสิวต่างๆ ต้องการให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้นรวมไปถึงลดการเกิดสิวและผดผื่นแพ้ต่างๆ
• ผู้ที่มีปัญหาสิวจากฮอร์โมนที่ผิดปกติ เป็นสิวเรื้อรัง
• ผู้ที่ต้องการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่เหนื่อยล้าให้กลับมาชุ่มชื่นอิ่มน้ำ กระจ่างใสยิ่งขึ้น
• ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบน้ำเหลือง เช่น ผิวระคายเคืองง่าย ผิวลอก ต้องการให้ระบบการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้าทำงานได้ดียิ่งขึ้น
• ผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยร่องเล็กต่างๆ ต้องการเติมเต็มให้ผิวดูอ่อนวัยยิ่งขึ้น

มาเด้คอลลาเจนของแท้และของปลอม ดูอย่างไร 

เรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยและมีมาตรฐาน โดยหลักการในการตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่นั้น สามารถสังเกตได้ดังนี้

• มีบาร์โค้ดระบุชื่อคลินิกหรือชื่อบริษัทชัดเจน
• เลขจดแจ้งทะเบียน อย. ซึ่งควรนำไปตรวจสอบกับทาง อย. ก่อนทำทรีตเมนต์
• ของแท้ที่ผ่าน อย. นั้นใน 1 กล่องจะมีปริมาณอยู่ที่ 4 CC. ซึ่งประกอบด้วย Made 2 CC. และ Collagen 2 CC.
• สติกเกอร์ Hidden Tag หลังกล่องต้องสามารถสแกนตรวจสอบได้
• สติกเกอร์ซีลที่ฝากล่องด้านข้าง จะต้องเปิดตามรอยปรุที่บริเวณกลางกล่อง
• ของแท้จะต้องมาจากบริษัท Gouth ประเทศอิตาลีได้รับใบอนุญาตจาก อย.

มาเด้คอลลาเจน ต้องทำบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผล 

สำหรับหลายคนที่กำลังจะตัดสินใจทำมาเด้คอลลาเจน คงตั้งคำถามในเรื่องของผลลัพธ์ว่าจะสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่ และต้องทำบ่อยแค่ไหนจึงจะสามารถเห็นผลได้ชัดเจน สำหรับการทำมาเด้คอลลาเจนนั้นแน่นอนว่าผลลัพธ์ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว รวมถึงปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยความถี่ที่เหมาะสมต่อการทำมาเด้คอลลาเจน แนะนำให้ทำอาทิตย์ละครั้งใน 1 เดือนแรกและหลังจากนั้นสามารถเว้นระยะทำได้ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละบุคคล สำหรับใครที่ต้องการคงสภาพผิวให้มีความชุ่มชื่นสุขภาพดี แนะนำให้กลับมาทำอย่างน้อย 1 ครั้งในทุกๆ 1-3 เดือน

ข้อดีและผลข้างเคียงของการทำมาเด้คอลลาเจน

พูดถึงข้อดีของการทำมาเด้คอลลาเจน คือ จะช่วยขับสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในผิว ลดการอักเสบ ลดสิว รวมไปถึงการแก้ปัญหาผิวหน้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝ้า กระ ริ้วรอย จุดด่างดำ ทั้งยังช่วยปรับการไหลเวียนเลือดและต่อมนำเหลืองให้ดีขึ้น ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น กระจ่างใสเรียบเนียน และมีภูมิต้านทานต่อสภาพแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเห็นผลได้ค่อนข้างรวดเร็วหลังทำ และราคาที่สามารถจับต้องได้ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก

สำหรับผลข้างเคียงและข้อควรระวังสำหรับการทำมาเด้คอลลาเจน คือ ระหว่างการทำอาจจะมีความรู้สึกเจ็บหรือแสบจากตัวยาซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ทั้งนี้สามารถบรรเทาอาการได้โดยการประคบเย็นหรือแปะยาชาก่อนการทำได้ หลังจากทำเสร็จอาจเกิดรอยช้ำแดงหรือตุ่มนูนซึ่งจะหายไปเองใน 3-4 ชั่วโมงแล้วแต่บุคคล ควรหลีกเลี่ยงการนวด เกา จับผิวหน้า งดทาครีม และเลี่ยงการเจอแสงแดดโดยตรง หมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำรวมถึงดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ

สำหรับคนที่รักในการดูแลผิวหน้าต้องการมีผิวที่ชุ่มชื่นกระจ่างใส การทำมาเด้คอลลาเจน หัตถการความงามด้วยเทคนิค 16 จุดทั่วใบหน้าถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการดูแลผิวแบบเน้นการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ชัดเจน และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด สำหรับใครที่อยากเริ่มหรือลองทำหัตถการประเภทนี้ ก็ควรหาข้อมูลเรื่องคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองมาตรฐาน หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย