การกำจัดสิวเสี้ยนด้วยตัวเองมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน การขัดผิว หรือใช้สูตรต่างๆ จากวัตถุดิบธรรมชาติที่หาได้ใกล้ตัว แต่สำหรับบางคนวิธีเหล่านี้อาจยังไม่เห็นผล เพราะสิวเสี้ยนหัวดำที่อุดตันในรูขุมขนมีจำนวนมากและฝังลึกแน่น หรือกำจัดกี่ครั้งก็ยังกลับมาเป็นซ้ำจนสร้างความรำคาญใจ อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องพึ่งวิธีทางการแพทย์อย่าง ‘การเลเซอร์สิวเสี้ยน’ ซึ่งวันนี้โว้กบิวตี้จะพามาทำความรู้จักเทคนิคนี้กันให้มากขึ้น

สิวเสี้ยนมีแบบไหนบ้าง?
สิวเสี้ยนมีลักษณะ 2 แบบ คือสิวเสี้ยนหัวขาว เกิดจากไขมันซีบัมรวมตัวกับเศษผิวที่ค้างอุดตันอยู่ในรูขุมขน ส่วนมากจะเกิดกับคนที่มีผิวมัน และสิวเสี้ยนหัวดำ เกิดจากขนเส้นเล็กๆ จำนวน 5-10 เส้น รวมตัวอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน จนทำให้เห็นรูขุมขนมีลักษณะกว้าง มีจุดดำๆ ไม่เรียบเนียน เป็นภาวะที่พบได้บ่อยทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่

เลเซอร์สิวเสี้ยนคืออะไร?
การเลเซอร์สิวเสี้ยน คือการใช้เลเซอร์ยิงเข้าสู่ผิวบริเวณที่มีสิวเสี้ยน เช่น จมูกและคาง เพื่อเปิดปากรูขุมขนออก และนำสิวเสี้ยนบนใบหน้าให้หลุดออกมา แม้แต่สิวหัวดำที่อยู่ลึกก็ยังหลุดออกได้ไม่ยาก และการเลเซอร์ยังช่วยให้การเกิดสิวเสี้ยนซ้ำมีโอกาสน้อยลง

ประเภทเลเซอร์สำหรับกำจัดสิวเสี้ยนหัวดำ
ภาวะสิวเสี้ยนหัวดำที่มีลักษณะเป็นเส้นขน (Trichostasis Spinulosa) เลเซอร์กำจัดขนประเภท CoolGlide Laser ชนิด Long Pulse Nd Yag จึงตอบโจทย์มากที่สุด นอกจากนี้กลุ่ม Diode Laser หรือ IPL ก็ใช้ได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยทำลายเส้นขนแล้ว ยังทำให้รูขุมขนกระชับและผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้นด้วย

แนวทางการรักษาสิวเสี้ยนหัวขาว
สิวเสี้ยนหัวขาวเกิดจากการอุดตันบริเวณรูขุมขนของต่อมไขมัน ร่วมกับเศษเซลล์ผิวหนังชั้นบนที่ตายแล้ว แนวทางการรักษาอาจไม่จำเป็นต้องใช้เลเซอร์ สามารถใช้วิธีทายาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามิน A (Retinoic Acid ) เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) ความเข้มข้นต่ำๆ ทาบางๆ ก่อนนอนทุกคืน เพื่อลดการอุดตัน พร้อมทำร่วมกับการลอกสิวเสี้ยนโดยใช้แผ่นลอก ซึ่งประกอบด้วยสารที่มีฤทธิ์ยึดติดกับหนังกำพร้าเพื่อจับคอมีโดน (สารเหนียวที่เกิดจากการรวมตัวของ น้ำมัน ขนอ่อน และเซลล์ผิวที่ลอกตัว) ที่อุดตันในรูขุมขนให้หลุดออกมาได้เร็วขึ้น แต่ไม่ควรทำบ่อยเนื่องจากผิวอาจระคายเคืองได้

คำแนะนำหลังการเลเซอร์สิวเสี้ยน
หลังการเลเซอร์สิวเสี้ยนแล้ว เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวเสี้ยนซ้ำแนะนำให้ทาสกินแคร์กลุ่มที่เป็นกรดวิตามินเอ อย่าง Topical Retinoid ทั้งนี้มีข้อควรระวังในการทาบริเวณจมูก เพราะมีโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณซอกจมูก ดังนั้นการเริ่มทาควรทาวันเว้นวันหรือเว้นสองวัน รวมถึงลงมอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนทาเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งหรือลอกเป็นขุย
อย่างไรก็ดีการรักษาสิวเสี้ยนแตกต่างกันไปตามประเภทของสิวเสี้ยน ดังนั้นการเลเซอร์สิวเสี้ยนจึงจำเป็นจะต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะรายบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
BEAUTY TREATMENT7 คลินิกเลเซอร์สิวที่หลัง ลดรอยสิว รอยแดง เผยผิวเรียบเนียน เสื้อเว้าหลังแค่ไหนก็ไม่หวั่น!
BEAUTY TREATMENTทำความรู้จักกับ 3 ระดับความเข้มข้นของแสงเลเซอร์ที่สำหรับใช้ในการแก้ปัญหาผิวต่างๆ
BEAUTY TREATMENT7 คลินิกรักษาหลุมสิวด้วยวิธีเลเซอร์ แก้ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน หลุมสิวแลดูตื้นขึ้น


