TREATMENTS

เจาะลึกมุมมองของ ‘หมอน้ำ-ณัศรัตน์’ ในแนวคิด “ทำศัลยกรรมฉบับคงความเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม”

มาร่วมพูดคุยกับมุมมองใหม่ของเทรนด์การศัลยกรรมในปัจจุบัน รวมถึงทำความเข้าใจเรื่องศัลยกรรมที่เหมาะสมกับตัวเอง ให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ และเผยความเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น ค้นหาตัวช่วยในการเสริมความงามเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล ไปกับ พญ. ณัศรัตน์ กุลเกียรติประเสริฐ หรือ “คุณหมอน้ำ” ประธานบริหารจาก Emma Clinic

ในยุคปัจจุบัน เรื่องเทรนด์ความสวยความงามเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ โดยหนึ่งในนั้นคือ “การศัลยกรรม” ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแวดวงความงาม ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรม ตา จมูก ปาก คาง หน้าอก รวมไปถึงหัตถการเสริมความงามที่นอกเหนือจากการศัลยกรรม ทว่าทำอย่างไร เพื่อที่จะคงความเป็นตัวตนและตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล

ครั้งนี้โว้กบิวตี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “คุณหมอน้ำ” ที่จะมาร่วมไขข้อสงสัย ถึงเรื่องการทำศัลยกรรมอย่างไรให้พอดี สวยอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมพาเหล่าสาวกบิวตี้ก้าวไปถึงความสวยที่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงความเป็นตัวเองได้ที่นี่!

เรื่องราวของบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยคุณหมอน้ำได้เล่าให้กับโว้กบิวตี้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า กว่าจะมาเป็นคุณหมอน้ำ Emma Clinic ได้ในวันนี้ เธอผ่านอะไรมาบ้าง “น้ำเริ่มมีความรู้สึกที่บ่งบอกชัดเจนว่าเราชื่นชอบทางด้านคอสเมติก โดยเริ่มต้นจากการทำและศึกษาการปรับรูปหน้า ด้วยสารเติมเต็มต่างๆ รวมถึงเลเซอร์ อัลเทอร์ร่า ซึ่งรู้สึกว่ามันดีนะคะ แต่ไม่ได้แปลว่าสิ่งเหล่านี้จะแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ทำให้ต่อมาก็แน่ชัดแล้วว่าเราสนใจในด้านคอสเมติก เซอร์เจอรี มากที่สุด จึงเป็นแรงผลักดันให้เราตัดสินใจไปศึกษาต่อทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศ และได้มีโอกาสบินไปศึกษาดูงานที่เกาหลีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ได้ลงลึกในหลายพาร์ต ทั้งการทำตาสองชั้น การทำจมูก ปรับรูปหน้า การเติมและดูดไขมัน จนได้มาไตร่ตรองแล้วว่า ตัวเราเองชอบการทำจมูกมากที่สุด เพราะฉะนั้นเอมม่าคลินิกของเราจึงเริ่มต้นมาจากการทำศัลยกรรมจมูกที่โดดเด่น และเป็นที่พูดถึงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่พอเราทำเป็นเรื่อยๆ ก็ได้รับประสบการณ์และมองเห็นถึงปัญหาในแต่ละเคสมากขึ้น บางคนพอปรับจมูกแล้ว สวยเป็นธรรมชาติรับกับหน้าเลย แต่ไม่ใช่กับทุกคน เพราะบางคนจมูกสวยอยู่แล้ว เขาต้องใช้การปรับจุดอื่นร่วมด้วย เพราะฉะนั้นการที่เรามีพื้นฐานทางเอสเธติกส์และคอสเมติก เซอร์เจอรี ยิ่งทำให้เราประเมินรูปหน้าได้อย่างละเอียดมากขึ้น และสามารถเลือกสรรหัตถการหรือศัลยกรรมด้านต่างๆ ให้เข้ากับคนไข้แต่ละคนได้อย่างเหมาะสมค่ะ”

นอกจากนี้คุณหมอน้ำยังเผยมุมมองและแนวคิดเกี่ยวกับ ‘การทำศัลยกรรมในแบบฉบับที่ยังคงความเป็นตัวตน’ ไว้ว่า “ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เวลาที่มีคนเข้ามาปรึกษาทรงจมูก จะมีรูปภาพของคนที่เขาชื่นชอบมาเป็นแบบ เช่นรูปดาราหรือศิลปินที่ชอบ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วค่ะ โดยเฉพาะการได้ทำงานร่วมกับคุณหมอรุ่นใหม่ๆ ของเอมม่าคลินิก ซึ่งก็บอกตรงกันว่า ภายใน 3-4 ปีที่ผ่านมามีคนเอาแบบจมูกมาให้ดูน้อยลง หรือแม้ว่าจะเอารูปมาให้ดู แต่หลายคนก็จะพูดต่อท้ายว่า จริงๆ แล้วแค่อยากสวยขึ้น เป็นตัวเองในแบบที่ดูดี ไม่จำเป็นต้องเหมือนคนนี้ก็ได้ เขาแค่รู้สึกว่าเขาอยากได้ทรงจมูกที่คล้ายๆ กับแบบนี้ ทรงที่คิดว่าน่าจะเข้ากับหน้าของเขา รวมไปถึงกระแสเทรนด์ศัลยกรรมสมัยใหม่ ที่นิยามได้ในตอนนี้ก็คือการรักตัวเอง ชอบตัวเอง แค่อยากเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่สวยขึ้น ดูดีขึ้นเท่านั้นเองค่ะ”

โดยคุณหมอน้ำเล่าต่อว่า “ผู้หญิงสมัยนี้มีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว มีความชอบและรักตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาไม่ได้อยากเป็นคนอื่น เขาแค่อยากเป็นตัวเองที่ดีกว่าเมื่อวาน และหากลองย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆ อาจจะรู้สึกได้ว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วกับวันนี้ ตอนนี้เรามาไกลแล้วนะ เราสวยขึ้นและเป็นคนที่มีความมั่นใจ พอได้ดูรูปตัวเองที่ผ่านมาในแต่ละปีแล้ว รู้สึกมีความสุขและรักตัวเองมากขึ้น โดยเราไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนใคร เพราะเราอยากเป็นเราที่มั่นใจและสวยเป็นธรรมชาติในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ซึ่งน้ำว่าคอนเซปต์นี้ น่าจะเป็นเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น เพราะตอนนี้ทุกคนรู้จักการประเมินใบหน้าของตัวเองมากกว่าเดิม มองเห็นแล้วรู้ว่าตัวเองบกพร่องตรงส่วนไหน จะต้องเติมหรือเพิ่มอะไรในจุดที่รู้สึกไม่มั่นใจ อย่างบางคนรู้สึกชอบตาของตัวเองอยู่แล้ว เขาก็จะไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องทำหรือเติมอะไรเพิ่มอีก และยังคงคาแร็กเตอร์ตาที่สวยในแบบของตัวเอง แต่อาจจะรู้สึกว่ามีจมูกที่ดรอป หรือทรงจมูกยังไม่สวยตามที่เขาต้องการ ก็อาจจะไปทำจมูกเพิ่มเพื่อให้สวยในแบบที่ตัวเองอยากเป็นมากยิ่งขึ้น”



WATCH



หลายคนคงอาจได้ยินกันหนาหูว่า เอมม่าคลินิกโดดเด่นในเรื่องของการทำศัลยกรรมจมูก แต่รู้หรือไม่... ไม่ได้มีเพียงแค่จมูกเท่านั้น โดยคุณหมอน้ำได้เล่าต่อว่า “ที่ผ่านมา เอมม่าคลินิกโดดเด่นเรื่องการศัลยกรรมจมูกเป็นอย่างมากใน 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่ที่จริงแล้วน้ำมองว่าเอมม่าคลินิกไม่ได้เด่นเรื่องการทำจมูกมากที่สุด แต่เด่นในเรื่องของการประเมินรูปหน้า ซึ่งนำมาสู่การมีหัตถการต่างๆ เพิ่มเข้ามา ซึ่งตอนแรกน้ำไม่ได้อยากให้หัตถการเหล่านี้เข้ามามีบทบาทมากนัก เพราะยังอยากจะชูความเป็นเอมม่าคลินิกให้คนนึกถึงเรา ในมุมมองการเป็นคลินิกเสริมจมูกของคนรุ่นใหม่ แต่พอเวลาผ่านไปน้ำรู้สึกว่าบางคนไม่ได้มีแค่ปัญหาจมูกอย่างเดียวเป็นความคิดที่เอมม่าคลินิกอยากจะสร้างแรงบันดาลใจถึงความสวยงามที่ดูเป็นธรรมชาติ และพยายามคิดค้นว่าจะทำอย่างไรให้ผู้หญิงคนหนึ่งสวยขึ้นในเวอร์ชั่นที่ยังเป็นตัวเขาเองอยู่ จึงได้เพิ่มบริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำจมูก ทำคาง ทำตาสองชั้น เสริมหน้าอก และทำปากกระจับขึ้นมา โดยที่ทั้งหมดนี้ จะยังคงความเป็นสไตล์ของเอมม่าคลินิก สะท้อนความเป็นตัวตนที่ชัดเจน และดีไซน์ตามความเหมาะสมกับแต่ละคน”

 

นวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญในสมัยนี้ แต่การที่ยึดหลักการทางการแพทย์ อาจสำคัญกว่า คุณหมอน้ำเล่าต่อว่า “น้ำมองว่า นวัตกรรมเป็นส่วนสำคัญในทางการแพทย์อยู่แล้วค่ะ ที่ทำให้การทำศัลยกรรมมีการพัฒนาให้การผ่าตัดมีความเนี้ยบขึ้นและดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้การทำจมูกจะมีหลากวิธีให้เลือกสรรว่า เทคนิคไหนจะตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาและได้ตามความต้องการตรงจุดมากที่สุด อย่างเอมม่าคลินิกหลังทำจมูกกับเราแล้ว จะใช้นวัตกรรมการฉายแสงลดบวม ช่วยลดเวลาในการพักฟื้น โดยเป็นเครื่องที่นำเข้ามาจากเกาหลี และเป็นเครื่องที่โรงพยาบาลชั้นนำในประเทศเกาหลีเลือกใช้ และน้ำยังมองอีกว่า หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ร่วมกับนวัตกรรมก็คือ เราจะไม่ละทิ้งคีย์หลักสำคัญของเรา ด้วยการคงความเป็นแพทย์โดยใช้หลักทางการแพทย์ในการทำศัลยกรรม ดีไซน์รูปทรงให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน รวมถึงความปลอดภัยของคนไข้ทุกคนในระยะยาว” ส่วนคีย์หลักของการเริ่มต้นที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในมุมมองของคุณหมอน้ำที่อยากจะฝากทิปส์ไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับผู้อ่าน “เราต้องรู้ถึงความต้องการของตัวเองค่ะ จุดไหนที่เรารู้สึกว่าไม่มั่นใจ ค่อยๆ เลือกว่าชอบแบบนี้ไหม ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล สิ่งเหล่านี้เสมือนงานศิลปะ ซึ่งแต่ละคลินิกเขามีเอกลักษณ์และคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว เราก็มาศึกษาต่อว่าเราชอบทรงนี้ไหม บางคนชอบสายฝอ บางคนชอบสายเกา(หลี) แล้วเราเข้าไปปรึกษากับแพทย์ และดูว่าเรากับคุณหมอมองเห็นไปในทิศทางเดียวกันไหม คุณหมอที่เราไปปรึกษามีสไตล์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราไหม การดูแลหลังทำเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งที่อยากจะฝากเป็นทิปส์ก่อนตัดสินใจก็คือ เราต้องรู้จักตัวเอง รู้สิ่งที่เราต้องการ รวมถึงสิ่งที่เราจะได้รับจากบริการทั้งก่อนทำและหลังทำด้วยค่ะ”

 

สิ่งที่ตอกย้ำถึงความเป็นกันเอง ที่เอมม่าคลินิกตั้งใจจะมอบสิ่งที่ดีๆ ให้กับคนไข้ ในมุมมองของคุณหมอน้ำคือ “หมอก็เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดของคนไข้ค่ะ เมื่อเข้ามาปรึกษาพูดคุยถึงปัญหาและสิ่งที่ต้องการกับเรา สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การประเมินรูปหน้าให้เหมาะสม คงไว้ในจุดที่ดีอยู่แล้ว และหากมีจุดไหนที่ควรปรับ เราค่อยแนะนำในส่วนนั้น มอบความรู้สึกว่าทำน้อยแต่ได้มาก และนอกจากนี้ทีมแพทย์ของเอมม่าคลินิกจะต้องมีประสบการณ์และมีทักษะความเชี่ยวชาญที่ดี เลือกคนที่มีเซนส์และความเป็นเอมม่าในตัวเขา เจียระไนคุณหมอแต่ละท่านให้เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามที่งดงามยิ่งขึ้น คงความเป็นเอกลักษณ์ของคลินิก และที่ขาดไม่ได้คือความจริงใจที่มีให้กับคนไข้ทุกคน และหมอยังให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่า ผลงานที่ได้รับจะมีมูลค่ามากกว่าที่ลูกค้าจ่ายมา ซึ่งเราคงไว้ในคอนเซปต์คลินิกของเราอยู่เสมอค่ะ”

เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่อย่างเต็มตัว ที่พลิกมุมมองการทำจมูกที่เคยตัดสินใจยากกลับกลายเป็นง่ายกว่าเมื่อก่อน การตัดสินใจทำศัลยกรรมเหมือนกับการตัดสินใจดัดฟัน คุณหมอน้ำคิดว่า “ผู้หญิงทุกคนไม่อยากถูกตีตราว่า ศัลยกรรม เพราะฉะนั้นเมื่อก่อนอาจถูกบูลลี่ว่า ปลอม แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ยิ่งเรามีรูปหน้าที่สวยผ่านการแก้ไขจุดด้อยให้เป็นจุดเด่นแล้ว ยิ่งทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น สามารถทำอะไรได้เต็มที่มากกว่าเดิม โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา คลินิกของเราเติบโตสอดคล้องกับตลาดเทรนด์ศัลยกรรมในเมืองไทย ที่คนหันมาสนใจพัฒนาตนเอง เปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้น และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของเอมม่าคลินิก ที่มีความหลากหลายทั้งการทำศัลยกรรมรวมถึงหัตถการต่างๆ ของคลินิก ทำให้ตอนนี้เรามีทั้งหมด 7 สาขา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมาก และคาดการณ์ว่าการเติบโตในปีหน้าจะมีการขยายสาขาไปในต่างจังหวัดมากถึง 4 จังหวัด และมีแพลนแน่นอนแล้ว พร้อมเอาใจสาวกภาคอีสานอย่างขอนแก่นด้วยค่ะ”

สุดท้ายก่อนจบบทสนทนา คุณหมอน้ำทิ้งท้ายว่า “การทำศัลยกรรมสมัยนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ ในสมัยนี้มีความละเอียด รอยแผลหรือทรงเรียบเนียนและคงความเป็นธรรมชาติ ตามที่เราตั้งใจดีไซน์ให้เหมาะสบกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งถ้าหากเราเคยกลัวหรือกังวลเรื่องการทำศัลยกรรม วันนี้หมออยากให้เราเปิดใจ เพราะมุมมองในการทำศัลยกรรมสมัยใหม่นี้เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งยังจะเห็นได้ว่าผู้หญิงยุคใหม่ ลุกขึ้นมาเป็นแถวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ แสดงถึงพลังผู้หญิงที่มีความมั่นใจและรู้ใจตัวเอง ซึ่งการเข้ามาพูดคุยปรึกษากับคุณหมอ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด ซึ่งนำไปสู่การได้เห็นมุมมองและภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปพร้อมกัน และได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด สอดรับกับรูปหน้าอย่างลงตัว คงความเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น”

WATCH