ไอซ์-จุฑาธร ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Amoln แชร์รูทีน New Normal และทิปส์ผ่อนคลายในวันที่งานยุ่ง

ไอซ์-จุฑาธร ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Amoln

แรงบันดาลใจที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ Amoln เกิดจากอะไร

จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ Amoln เกิดมาจากความรักในการทำเทียนหอมและการผสมน้ำหอมของตัวเองค่ะ ช่วงที่คุณพ่อป่วยหนักอยากพาตัวเองออกจากความคิดเครียดๆ เลยหางานอดิเรกทำเป็นการผสมน้ำหอมจากความทรงจำดีๆ ในช่วงต่างๆ ของชีวิต ทำเล่นๆ ไปมา ทุกคนที่มาบ้านจะถามว่าเทียนหอมที่บ้านมีกลิ่นอะไรทำไมหอมแบบไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน เลยมีกำลังใจและศึกษาการผสมกลิ่นมากขึ้น จากนั้นเพื่อนๆ ขอให้ทำให้เยอะจนเริ่มทำจริงจัง จนตอนนี้มีขาย 10 กว่าประเทศทั่วโลก ล่าสุดถ้าอยู่อังกฤษสามารถซื้อ Amoln ที่ห้าง Liberty London ได้ค่ะ

เทียนหอม Amoln แตกต่างจากเทียนหอมอื่นๆ อย่างไรบ้าง

Amoln ใส่ใจในเรื่องงานฝีมือที่ทำอย่างพิถีพิถัน เป็นเทียนทำมือทุกกระบวนการในประเทศสวีเดน กลิ่นต่างๆ ของ Amoln ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความทรงจำ สถานที่ ความรู้สึก ถูกผสมขึ้นมาเองอย่างตั้งใจในสตูดิโอของเรา โดยเราได้ร่วมงานกับ Perfume House ของฝรั่งเศสที่ปรุงน้ำหอมให้แบรนด์ระดับโลกมาช่วยเบลนด์กลิ่นด้วย แต่ละกลิ่นกว่าจะผสมเสร็จใช้เวลา 1-2 ปี ก่อนจะออกมาเป็นกลิ่นมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เทียน Amoln จะกระจายกลิ่นได้ดีเพราะเราใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบ และใช้น้ำหอมฝรั่งเศสคุณภาพสูงที่สุด โดยเนื้อเทียนของเราทำมาจากพืชพันธุ์ที่เก็บเกี่ยวทางตอนใต้ของสวีเดน ลูกค้าหลายคนใช้แล้วจะกลับมาบอกว่าแม้ไม่จุดก็หอมหรือว่าจุดไปแล้ว วันต่อมายังคงได้กลิ่นจางๆ ในบ้าน

เราพยายามจะทำธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดที่จะทำได้ เริ่มตั้งแต่กระบวนการหาวัตถุดิบชั้นเลิศ หรือขบวนการผลิตที่ทำขึ้นในประเทศสวีเดนทั้งหมด ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีต้นทุนที่สูงกว่าแต่เราต้องการวัตถุดิบที่ดีและผลิตจากที่นี่เพื่อลดมลภาวะจากการขนส่ง รวมถึงมีหลักการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการไม่เอาเปรียบแรงงานและคู่ค้าด้วย เรียกว่าเราเป็นแบรนด์ที่ทำด้วยใจรักเป็นหลักค่ะ

ถ้าให้อธิบายกลิ่นหอมซิกเนเจอร์ของทางแบรนด์ แต่ละกลิ่นเป็นตัวแทนของคาแรคเตอร์สไตล์ไหนบ้าง

เริ่มจากกลิ่นที่ขายดีที่สุดอย่าง 1945 แล้วกันค่ะ สำหรับไอซ์คือเป็นกลิ่นที่สดชื่น สร้างพลังงานดีๆ ในบ้าน เราผสมกลิ่นนี้จากความทรงจำที่มีต่อคุณพ่อ มีลูกค้าหลายคนเขียนมาบอกว่าชอบเพราะเป็นกลิ่นที่ทำให้บ้านอบอุ่น มีความสุข หรือกลิ่นล่าสุดที่เพิ่งออกใหม่อย่าง Kassett ก็ขายดีมากเพราะถูกปรุงมาให้ซับซ้อน มีเสน่ห์ เซ็กซี่หน่อยๆ ส่วนถ้าใครชอบกลิ่นที่เฟรชสดชื่น แบบ Gender-neutral เข้าได้กับทุกเพศ และออกไม้ๆ วู้ดดี้ ก็แนะนำ Barr ซึ่งเป็นกลิ่นหนามสนและป่าสวีเดน สำหรับคนที่ชอบกลิ่นรีแล็กซ์ แนวสปาผ่อนคลาย แต่ไม่หวาน แนะนำ Chado นะคะ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากห้องพิธีชงชาของญี่ปุ่น เป็นกลิ่นที่ผสมภาพของเสื่อตาตามิ ชา ฟาง และดอกไม้ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เหมาะกับวันที่อยากจะมีสมาธิ ใช้ตอนเล่นโยคะหรืออ่านหนังสือ กลิ่นที่ขายดีมากในแถบเอเชียอีกอันก็คือ Sisu Bouquet อันนี้เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นฟลอรัลหรูหรา โดยเป็นกลิ่นของดอก Lilly of the valley จากประเทศฟินแลนด์ผสมเข้ากับหญ้าฝรั่น (Saffron) และถ้าหากเป็นสายหวาน ก็จะแนะนำ Berrybomb กลิ่นหอมแนวฟรุ๊ตตี้ ค่ะ

เทียนหอมกลิ่นโปรดที่ต้องจุดเป็นประจำคือกลิ่นไหน

ช่วงนี้ที่บ้านติด Kassett กันมากค่ะ ชอบจุดช่วงค่ำๆ เปิดเพลงฟังไปด้วย ช่วยสร้างบรรยากาศ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์รู้สึกว่าช่วยให้หัวแล่นขึ้นเมื่อได้กลิ่น Kassett พอเลิกจุดแล้วกลิ่นหอมก็ยังคงอบอวลไปทั่วบ้าน

สถานการณ์โควิด-19 เปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของคุณไอซ์ไปอย่างไรบ้าง

เปลี่ยนมากค่ะ ก่อนหน้านี้เดินทางต่างประเทศบ่อย พอมีโควิด-19 ไอซ์อยู่สวีเดน ซึ่งระบาดหนักมาก อากาศหนาว และฟ้ามืดตั้งแต่บ่ายๆ ตอนนี้ก็ Work From Home กันมาเป็นปีแล้ว เราต้องอยู่บ้านเยอะจึงต้องบริหารเวลา Work Life Balance ให้ได้ เช้ามาก็จะอาบน้ำแต่งตัวให้ดีแม้จะอยู่บ้าน เพื่อสร้างมู้ดให้วันทำงาน ไอซ์จะสร้างบรรยากาศห้องให้สดชื่น ซึ่งเทียนหอม Amoln ช่วยได้มาก จริงๆ ที่เริ่มทำเทียนในตอนแรกก็เพราะอยากสร้างบรรยากาศที่ช่วยให้อารมณ์ให้ตัวเอง แต่ละกลิ่นก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ต่างกันไป อย่าง ตอนทำงานจะจุดกลิ่น 1945 บ่อยเพราะทำให้สมองโล่ง รู้สึกมีพลัง โฟกัสงานได้ดี วันไหนอยากผ่อนคลายหลังเลิกงาน ก็จะจุดกลิ่น Chado หรือ Sisu Bouquet ตอนอาบน้ำ

น้องหมาของไอซ์ ชื่อ เกาดี้ แวะมาทักทายทุกคน

รูทีนในชีวิตประจำวันตั้งแต่ AM-PM ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ตื่นเช้ามาพาน้องหมาเดินในสวนก่อนเลยค่ะ เป็นรูทีนที่ทำทุกวันเพราะช่วยเรียกสติเตรียมความพร้อมให้ตัวเองก่อนเริ่มทำงาน พอกลับเข้าบ้านมาก็อาบน้ำลงสกินแคร์ จากนั้นก็จะวุ่นแทบทั้งวันเลย สารพัดทั้งงานบริหาร Amoln งานสอนที่มหาลัย ตรวจข้อสอบ และก็มีโปรเจคงานวิจัยที่ทำให้องค์กรต่างๆ หลังจากทานข้าวเย็น ก็จะเริ่มบิวตี้รูทีนช่วงเย็น เป็นช่วงเวลาของการดูแลตัวเอง บำรุงผิว แล้วก็อ่านหนังสือก่อนนอน เนื่องจากเป็นคนที่มีตารางยุ่งมาก เลยต้องเซ็ตเวลาสำหรับการทำโซเชียลมีเดียดีท็อกซ์ให้ตัวเองอาทิตย์ละวันหรือครึ่งวันด้วยการไปเดินป่า ปั่นจักรยาน อยู่กับธรรมชาติ หรือจัดดอกไม้ในบ้าน

บิวตี้รูทีนของคุณไอซ์เป็นแบบไหน ก่อนและหลังสถานการณ์โควิด-19 มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่

พวกสกินแคร์ ก็ไม่ได้มีเปลี่ยนแปลงอะไร ปกติไอซ์จะเน้นใช้พวกส่วนผสมจากธรรมชาติของสแกนดิเนเวียเป็นหลัก แต่ตั้งแต่โควิดระบาด เราจะออกไปทานอาหารข้างนอกไม่ค่อยได้ ก็จะหันมาทำอาหารเองมากขึ้น ทำให้หลังๆ มาเราศึกษาเรื่องวัตถุดิบ จากที่ทานทุกอย่างเพราะรักการกินของมัน ของทอด ขนมทุกชนิด ตอนนี้พยายามทานอาหารแปรรูปให้น้อยลง อย่างตอนนี้ช่วงเช้าก็จะกินเป็นสมูทตี้ผักผลไม้ทุกวัน

ไอเท็มบิวตี้ที่คุณไอซ์ขาดไม่ได้

น้ำมัน Rosehip Oil ผสมกับมอยซ์เจอไรเซอร์ ทั้งสำหรับช่วงเช้าและเย็น ลิปสติก Chanel สี 806 Pink Brown และแฮนด์ครีมค่ะ

ในวันที่ต้องการการผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้า มีวิธีสร้างความผ่อนคลายให้ตัวเองอย่างไรบ้าง

ตอนเย็นจะรีเล็กซ์ด้วยการจุดเทียนหอมระหว่างแช่น้ำอุ่นเพื่อสร้างความผ่อนคลาย อยู่กับคนที่เรารักและน้องหมา ที่สำคัญคือวันหยุดพยายามหาเวลาไปอยู่กับธรรมชาติ ไม่อยู่ติดกับโลกออนไลน์ ด้วยการออกไปพักในป่าอย่างน้อยเดือนละครั้งโดยไม่ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์เลย เพราะนอกจากทำให้คลายเครียดแล้ว เรายังได้ความสงบและไอเดียดีๆ กลับมาด้วย อย่างเทียนหอมกลิ่น Barr เราก็ได้ไอเดียมาผสมกลิ่นจากตอนไปเดินในป่าสน Trollskogen ที่ Öland

เพื่อช่วยถนอมคุณภาพของกลิ่น มีเคล็ดลับการใช้เทียนหอมอย่างไรบ้าง

ไอซ์แนะนำว่า เก็บเทียนโดยมีฝาครอบหรือวางในมุมมืด อย่าวางเทียนให้โดนแดดหรือแสงจ้า ตัดไส้เทียนให้สั้น 3 มิลลิเมตรก่อนจุดทุกครั้ง และใช้เทียนให้หมดก่อนวันหมดอายุค่ะ นอกจากนี้สามารถตามไปดูทิปส์อื่นๆ เกี่ยวกับการจุดเทียนหอมและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Amoln หรือทาง Instagram ที่ @amolnofficial ส่วนคนไหนที่สนใจอยากไปพิสูจน์กลิ่นหอมจากความทรงจำแบบฉบับของ Amoln สามารถตามไปพบกันที่ร้าน Norse Republics ได้ค่ะ