SKINCARE
อยากผิวดีต้องรู้! เปิดลิสต์ส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้น-สร้างผิวแข็งแรงนอกเหนือจากไฮยาลูรอนิก!ความชุ่มชื้นเป็นพื้นฐานของการมีผิวที่แข็งแรง ซึ่งส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นไม่ได้มีเพียงไฮยาลูรอนิกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนผสมเหล่านี้ด้วย! |
ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวแบบไหนหรือกำลังเจอปัญหาผิวใดอยู่ การบำรุงและฟื้นฟูที่เป็นขั้นตอนพื้นฐานคือการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว แล้วจึงต่อด้วยการบำรุงด้านอื่นเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อนึกถึงการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้วหลายคนอาจนึกถึงส่วนผสมสกินแคร์ตัวดังอย่าง ‘ไฮยาลูรอนิก’ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้านนี้เป็นอย่างมาก แต่ตามจริงการบำรุงผิวเพื่อความชุ่มชื้นยังมีส่วนผสมอื่นๆ อยู่อีก จะมีตัวไหนบ้าง มาดูในบทความนี้กัน
ภาพ: trulybeauty
รู้จัก ‘ไฮยาลูรอนิก’ ให้ดียิ่งขึ้น
ไฮยาลูรอนิกเป็นสสารที่ตามจริงแล้วมีอยู่ในผิวของเราตามธรรมชาติ นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นยังเป็นเหมือนสารหล่อลื่นที่คอยโอบอุ้มไม่ให้เกิดความเสียหายกับร่างกายทั้งบริเวณดวงตา เส้นผม ผิวหนังและข้อต่ออีกด้วย
ประโยชน์ต่อผิว
ด้วยการเป็นสสารที่มีประโยชน์ในการให้ความชุ่มชื้นที่เป็นเหมือนปราการป้องกันให้กับหลากหลายส่วนของร่างกาย เมื่อมาในด้านของผิวแล้วจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ตามปกติของผิวเราจะมีไฮยาลูรอนิกคอยเก็บกักและโอบอุ้มความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่ และแน่นอนว่าเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นที่เพียงพอจะลดการแห้งกร้าน ลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รวมถึงลดอาการระคายเคืองได้
WATCH
ส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้นอื่นๆ
นอกเหนือจากไฮยาลูรอนิกแล้วยังมีสสารหรือส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นอีกมากมาย เรามาดูตัวที่โดดเด่นและถูกใช้งานบ่อยในผลิตภัณฑ์สกินแคร์กัน
-
Polyglutamic Acid
สสารตัวดังที่เคยเป็นกระแสว่ามาโค่นบัลลังก์ของไฮยาลูรอนิก โดยมีการวิจัยเผยแพร่ในเว็บไซต์ PubMed ที่ดูแลโดยหอสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน ค้นพบว่า Polyglutamic Acid เกิดขึ้นจากเกลียวของกรดอะมิโนและกรดกลูตามิก นอกจากนี้ยังถูกผลิตจากรวมตัวของแบคทีเรีย Bacillus หลากหลายชนิด
เมื่อนำมาอยู่ในไอเท็มสกินแคร์จะทำหน้าที่ดึงความชุ่มชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ที่สำคัญยังมีการวิจัยในหอสมุดออนไลน์ Wiley Online Library พบว่า Polyglutamic Acid สามารถยับยั้งการเติบโตของเอ็นไซม์ ‘Hyaluronidase’ ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ทำลายกรดไฮยาลูรอนิกในผิว ทำให้ผิวสามารถคงความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้นและลดการเกิดริ้วรอยจากการแห้งกร้านได้อย่างดี
ตัวอย่างไอเท็มที่มีส่วนผสมนี้
Dr.Jart+ Cicapair Tiger Grass Re.pair Serum
-
Glycerin
หนึ่งส่วนผสมยอดนิยมเพื่อความชุ่มชื้นของผิว Glycerin ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บกักและดูดความชุ่มชื้นเช่นเดียวกับไฮยาลูรอนิกและ Polyglutamic Acid ซึ่งการดูดความชุ่มชื้นมาบนผิวจะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวเพื่อต่อต้านสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวได้
จากการวิจัยในหัวข้อ ‘Moisturizers: The Slippery Road’ ในปี 2016 ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ PubMed ได้กล่าวว่า Glycerin เป็นสารดึงความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่หากอยู่ในสภาพอากาศที่มีความแห้งมากประสิทธิภาพอาจลดลงและใช้เวลานานมากยิ่งขึ้นในการดึงความชุ่มชื้นจากอากาศมาสู่ผิว ดังนั้นควรใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดีที่สุด
ตัวอย่างไอเท็มที่มีส่วนผสมนี้
Kiehl's Ultra Facial Cream
-
Urea
ฟังชื่อแล้วอาจตกใจกันเล็กน้อย Urea ที่เราเคยได้ยินอาจเป็นของเสียที่ขับออกจากร่างกาย แต่สำหรับ Urea ในสกินแคร์จะเป็นการสังเคราะห์ขึ้น ซึ่งมีคุณสมบัตินอกจากการเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวภายนอกเพื่อเร่งการเติบโตของเซลล์ผิวใหม่ รวมถึงการปลอบประโลมผิว
ข้อมูลจากเว็บไซต์ MedicalNewsToday ได้ให้ข้อมูลว่า การใส่ Urea ลงในสกินแคร์ในสัดส่วนต่างๆ จะให้คุณสมบัติของครีมบำรุงหรือสกินแคร์ที่ต่างกันไป เช่น ครีมบำรุงที่มี Urea ผสมอยู่ 10% จะมีคุณสมบัติเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก หากผสมอยู่ในช่วง 20% - 30% จะเป็นเหมือนการผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ และลดอาการคันบนผิว เป็นต้น
ตัวอย่างไอเท็มที่มีส่วนผสมนี้
Clinique Dramatically Different Moisturizing Lotion
-
Petrolatum
ส่วนผสมที่หลายคนอาจคุ้นเคยในชื่อ Petroleum Jelly หรือปิโตรเลียมเจลที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันนั่นเอง ซึ่ง Petrolatum เป็นส่วนผสมช่วยความนุ่มและชุ่มชื้นของผิว นิยมใส่ในไอเท็มสกินแคร์ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ คุณสมบัติของส่วนผสมนี้จะช่วยเสริมสร้างเกราะการป้องกันของผิว ที่สำคัญไม่อุดตันและไม่สร้างการระคายเคืองให้กับผิวแพ้ง่ายและผิวเป็นสิวอีกด้วย
ตัวอย่างไอเท็มที่มีส่วนผสมนี้
CeraVe Moisturizing Cream
ข้อมูล : Pubmed.gov PMID: 24600308, PMID: 27293248, Wiley Online Library, Insider, Healthline
WATCH