SKINCARE
รวม 10 น้ำหอมกลิ่นวนิลา หอมหวานนุ่มละมุน เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนให้กับตัวเองเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบในกลิ่นหอมหวานที่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่เย้ายวน |
น้ำหอมกลิ่นวนิลาเป็นกลิ่นหอมหวานละมุนคล้ายกับขนม ฉีดแล้วมีเสน่ห์ เหมาะสำหรับคนที่มีความขี้เล่น ซุกซน แต่มีความเย้ายวนและน่าค้นหาอยู่ในตัว โว้กบิวตี้รวม 10 น้ำหอมสไตล์วนิลาหอมหวานที่แอบแซ่บด้วยความเซ็กซี่ของเครื่องเทศและแมกไม้น่าสนใจมาฝากกัน
Signature Eau De Parfum จาก Montblanc (ราคา 3,500 บาท / 50 ml)
เป็นกลิ่นของความยั่วยวนใจจากวนิลาที่ตัดกันอย่างดีกับความหอมสะอาดจากมัสก์ แพ็กเกจจิ้งเป็นรูปทรงคล้ายขวดหมึกที่ให้ความรู้สึกถึงผู้หญิงน่าค้นหา มีเรื่องราวที่พร้อมจะนำเสนอให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนของเรา เพียงแค่เปิดขวดก็ได้รับความรู้สึกนั้นแล้ว
Top Note : Clementine
Middle Notes : Magnolia , Ylang-Ylang และ Peony
Base Notes : Vanilla , White , Musk และ Benzoin
Vanilla Diorama จาก Christian Dior (ราคา 8,500 บาท / 125 ml)
เป็นกลิ่นที่อุทิศให้แก่ขนม Diorama Gourmand จากร้าน Maxim's ร้านอาหารชื่อดังของชาวปารีส เป็นหนึ่งในขนมสุดโปรดของคุณ Christian Dior จึงถ่ายทอดออกมาเป็นกลิ่นหอมหวานที่ได้จากวนิลา ประเทศมาดากัสการ์ อบอุ่นด้วยกลิ่นเหล้ารัมและน้ำมันหอมระเหยพัทชูลี ตัดกับกลิ่นรสเปรี้ยวสดชื่นของซิตรัสและเน้นด้วยกลิ่นโกโก้สุดเข้มข้น
Top Notes : Orange , Pink Pepper และ Lemon
Middle Notes : Rum , Cacao และ Cardamom
Base Notes : Bourbon , Vanilla , Sandalwood และ Patchouli
WATCH
Vetiver & Golden Vanilla Cologne Intense จาก Jo Malone London (ราคา 5,200 บาท / 50 ml)
เปิดสัมผัสแรกด้วยกลิ่นหอมเย็นของกระวานที่ผสานไปกับความสดชื่นจากชาเกรปฟรุ๊ต ก่อนจะตามมาด้วยเวทิเวอร์ที่ให้ความรู้สึกเร้าใจ จากนั้นก็ตามด้วยสัมผัสแสนอบอุ่นจากวนิลา เบอร์เบินที่ถูกเก็บด้วยมืออย่างพิถีพิถัน เป็นกลิ่นวนิลาที่ค่อนข้างชัดแต่ไม่เลี่ยนจนเกินไป สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
Notes : Vanilla , Vetiver , Cardamom , Tea และ Grapefruit
Eau Duelle จาก Diptyque (ราคา 7,450 บาท / 75 ml)
เป็นกลิ่นวนิลาที่กำลังหวานพอดี สอดแทรกด้วยความเผ็ดสไปซี่ของพิงก์ เปปเปอร์ เติมความสดชื่นด้วยกลิ่นซิตรัสอย่างเบอร์กามอต และปิดท้ายด้วยความเย้ายวนของมัสก์ ถ้าให้บรรยายเป็นสถานที่ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากบรรยากาศตอนกลางคืนที่เปิดไฟสลัวๆ พร้อมเปิดแผ่นเพลงคลาสลิกย้อนยุคให้อารมณ์สุนทรีย์แบบไม่เหมือนใคร
Notes : Bourbon , Vanilla , Elemi Resin , Cardamom , Juniper , Olibanum , Pink Pepper , Black Tea , Ambergris , Bergamot , Saffron และ Musk
Black Opium Eau de Parfum จาก Yves Saint Laurent (ราคา 4,500 บาท / 50 ml)
เปิดมาด้วยกลิ่นแรกที่เป็นเหมือนเวคอัพคอลด้วยกลิ่นของเมล็ดกาแฟหอมเตะจมูกอย่างแรง จากนั้นเสริมความเป็นผู้หญิงมากขึ้นด้วยกลิ่นดอกมะลิลาและดอกส้ม ก่อนปิดท้ายด้วยความเย้ายวนของวนิลาและไม้หอมอย่างซีดาร์และพัทชูลี ให้ความรู้สึกถึงความงามสง่า น่าค้นหา และลุ่มลึก
Top Notes : Pear , Pink Pepper และ Orange Blossom
Middle Notes : Coffee , Jasmine , Bitter Almond และ Licorice
Base Notes : Vanilla , Patchouli , Cedar และ Cashmere Wood
Viva La Juicy Gold Couture Eau De Parfum จาก Juicy Couture (ราคา 4,300 บาท / 100 ml)
โดดเด่นด้วยความหอมหวานฉ่ำจากผลเบอร์รี่ป่า ส้มแมนดาริน ดอกไม้นานาชนิด และคาราเมล ผสมผสานเข้ากับกลิ่นวนิลาที่อบอุ่น ให้ภาพลักษณ์ของสาวน้อยที่มีสไตล์หรูหรา มีระดับ เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นตัวของตัวเอง
Top Note : Wild Berries
Middle Notes : Honeysuckle , Jasmine และ Sambac
Base Notes : Caramel , Vanilla , Amber และ Sandalwood
Love Don’t be Shy Eau Fraiche จาก Kilian (ราคา 8,500 บาท / 50 ml)
น้ำหอมสไตล์ฟลอรัลแสนอบอุ่นที่ได้ท็อปโน๊ตจากซิตรัสและพริกไทย เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นของดอกไม้นานาชนิด ปิดท้ายด้วยความหอมหวานจากกลิ่นของคาราเมล วานิลลา น้ำตาล และมัสก์ นึกถึงภาพผู้หญิงขี้เล่น ซุกซน แอบเซ็กซี่เบาๆ แถมกลิ่นนี้ยังเป็นกลิ่นที่นักร้องชื่อดัง Rihana ชอบใช้ด้วย
Top Notes : Neroli , Bergamot , Pink Pepper และ Coriander
Middle Notes : Orange Blossom , Jasmine , Honeysuckle , Rose และ Iris
Base Notes : Sugar , Caramel , Vanilla , Musk , Civet และ Labdanum
Tobacco Vanille จาก Tom Ford (ราคา 8,800 บาท / 50 ml)
น้ำหอมกลิ่นยูนิเซ็กส์ที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะโดดเด่นด้วยกลิ่นของใบยาสูบกับวนิลาที่ทั้งแน่น หวานแห้ง และเจือโทนอบอุ่นในคราวเดียวกัน ตามมาด้วยกลิ่นเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศ และในช่วงท้ายก็จะได้พบกับกลิ่นของวนิลาแบบเต็มๆ เป็นกลิ่นที่พกเสน่ห์มาเต็มตัว ให้ความรู้น่าหลงไหล น่าค้นหาและเซ็กซี่อย่างมีระดับ
Top Notes : Tobacco Leaf และ Spicy Notes
Middle Notes : Vanilla , Cacao , Tonka Bean และ Tobacco Blossom
Base Notes : Dried Fruits และ Woody Notes
Vanille Insensee จาก Atelier Cologne (ราคา 5,000 บาท / 100 ml)
เปิดด้วยกลิ่นซิตรัสจากมะนาวและผักชี จากนั้นก็ตามมาด้วยกลิ่นวนิลาแบบจัดเต็ม โดยจะมีกลิ่นไม้วูดดี้แซมอยู่เล็กน้อย และมีความ powdery แบบแป้งๆ อยู่ด้วย เป็นกลิ่นที่สามารถใช้ได้ทุกวัน เพราะไม่อบอุ่นและเลี่ยนจนเกินไปกับอากาศประเทศไทย
Top Notes : Lime , Citron และ Coriander
Middle Notes : Vetiver , Oak Moss และ Jasmine
Base Notes : Vanille , Oak และ Amber
LA Belle Eau de Parfum จาก Jean Paul Gaultier (ราคา 5,700 บาท / 100 ml)
น้ำหอมกลิ่นโอเรียนทอลวนิลาที่ได้ความสดชื่นจากเบอร์กาม็อตสดและลูกแพร์ เข้ามาช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับขวดน้ำหอมรูปเรือนร่างที่สมส่วนประดับด้วยสร้อยคอดอกไม้สีทองที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกเย้ายวนไปอีกระดับ
Top Notes : Pear และ Bergamot
Middle Notes : Floral Notes และ Leather
Base Notes : Vanilla , Vetiver , Amber และ Musk
ภาพ : Courtesy of the brands
WATCH