SKINCARE
คุยกับผู้ก่อตั้ง Ultra Violette ครีมกันแดดยุคใหม่กับสูตรแบบ Skinscreen ที่ตอบโจทย์ทุกผิวสัมภาษณ์พิเศษ! โว้กบิวตี้คุยกับผู้ก่อตั้ง Ultra Violette แบรนด์กันแดดสุดคูลจากออสเตรเลียถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการคิดค้นครีมกันแดดที่อยากให้ทุกคนมีความสุขไปกับการปกป้องผิวในทุกๆ วัน |
หลังจากเปิดตัวได้ไม่นานในปี 2018 Ultra Violette แบรนด์กันแดดสัญชาติออสเตรเลียก็ไต่อันดับขึ้นเป็น SPF โปรดที่ซื้อใจสาวกบิวตี้รอบโลกด้วยคอลเล็กชั่นครีมกันแดดเจเนอเรชั่นใหม่ที่มาพร้อมแพ็คเกจสุด Instagrammable โดยล่าสุดได้มาเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยให้สาวกบิวตี้ชาวไทยได้อัพเดตรูทีนดูแลผิวกันแบบไม่ต้องรอพรีออเดอร์อีกต่อไป “วิธีปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายโดยแสงแดดที่ดีที่สุดคือการทาครีมกันแดดที่เราชอบใช้เป็นประจำ” Ava Matthews หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ultra Violette แชร์กับโว้กบิวตี้ผ่านบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟทาง Zoom ถึงมิชชั่นแรกของแบรนด์ นั่นคือการทำครีมกันแดดที่ใช้แล้วชอบ พร้อมเผยที่มาที่ทำให้เธอและอีกหนึ่งผู้ก่อตั้งแบรนด์ Bec Jefferd จูงมือกันสร้างแบรนด์ Ultra Violette ซึ่งเป็นครีมกันแดดที่เป็นไฮบริดระหว่าง SPF และสกินแคร์แบบ Skinscreen วันนี้โว้กบิวตี้เลยขอพาทุกคนมาทำความรู้จักแบรนด์ Ultra Violette หรือเรียกสั้นๆ ว่า Vi ไปด้วยกันผ่านบทสัมภาษณ์นี้
Bec Jefferd (ซ้าย) Ava Matthews (ขวา)
Vogue Beauty: อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณและ Bec หันมาสร้างแบรนด์ครีมกันแดดเป็นของตัวเอง?
Ava: ก่อนหน้านี้ฉันและ Bec ทำงานด้วยกันกับรีเทลเลอร์รวมมัลติแบรนด์บิวตี้ชื่อว่า Mecca เบสอยู่ที่เมืองเมลเบิร์นค่ะ และระหว่างที่ทำเราได้ช่วยดูแลแบรนด์ที่มีโฟกัสเกี่ยวกับครีมกันแดด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการบิวตี้มา เราทั้งคู่พบว่ามันยังมีช่องว่างอยู่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นกันแดดในท้องตลาด ในแง่ของประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดและเนื้อสัมผัสที่ดี ใช้แล้วสบายผิว สามารถเลเยอร์เมกอัพทับได้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์ไหนที่เป็นไฮบริดระหว่างสกินแคร์และ SPF เราจึงได้สร้างสรรค์ไลน์ผลิตภัณฑ์ของเราขึ้นมาค่ะ รวมถึงเป็นเพราะเราอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำให้กับผิวได้ในทุกๆ วัน เรารู้ว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นสำคัญในรูทีน แต่ยังคงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยได้อยู่ในแสงสป๊อตไลท์สักเท่าไหร่ เราเลยสร้างสรรค์ Skinscreen สำหรับแบรนด์ Ultra Violette ขึ้นมา นั่นคือเรื่องราวของแบรนด์เราค่ะ
WATCH
V: ก่อนที่จะทำแบรนด์ Ultra Violette คุณพบอะไรบ้างที่ขาดหายไปสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมกันแดด
A: พบว่ายังไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตอบโจทย์กับหลากหลายสภาพผิวและสีผิวค่ะ ยังคงเป็นครีมกันแดดสูตรเดียวที่ทำมาให้ทุกสภาพผิวใช้ร่วมกัน ซึ่งมันไม่เวิร์คกับทุกคน เพราะเราต่างมีสภาพผิวและความต้องการที่แตกต่างกัน บางคนอยากได้ฟินิชแบบแมตต์ บางคนชอบฟินิชที่ดูโกลว์ หรือบางคนไม่ค่อยแต่งหน้า การลงแค่กันแดดอย่างเดียวก็สามารถทำให้ฟินิชของผิวดูแตกต่างได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีการใส่ใจถึงเรื่องส่วนผสมที่ใช้ในครีมกันแดดสักเท่าไหร่ด้วยค่ะ ห่วงแค่เฉพาะประสิทธิภาพของ SPF ในการปกป้องผิวจากแสงแดดหรือการเกิดมะเร็งผิวหนัง แต่ไม่มีครีมกันที่เนื้อสัมผัสดีๆ หรือน่าใช้สักเท่าไหร่ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างน่าเบื่อ ซึ่งเราทั้ง 2 คนรู้สึกว่า ในแง่ของส่วนผสมและตัวเลือกสำหรับแต่ละสภาพผิวยังคงขาดหายอยู่ค่ะ
V: ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Ultra Violette เป็นไฮบริดระหว่างสกินแคร์และ SPF ที่มีชื่อเรียกว่า "Skinscreen" อะไรคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังการรวม 2 คุณสมบัตินี้ไว้ด้วยกัน
A: ฉันคิดว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสกินแคร์รูทีนแบบครบทุกสเต็ปได้เสมอไป ส่วนตัวฉันใช้สกินแคร์หลายตัวสำหรับการดูแลผิว แต่บางคนอาจจะใช้แค่ชิ้นเดียว ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถได้ทั้งความชุ่มชื่นและการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจากครีมกันแดดที่ใช้ในแต่ละวัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากเติมเต็มคุณสมบัติตรงนี้ค่ะ โดยผลิตภัณฑ์ของเราจะอัดแน่นด้วยวิตามินซี สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ส่วนผสมช่วยเติมความชุ่มชื้น คุณสมบัติช่วยคุมความมันในสูตรที่เป็นเนื้อแมตต์ ซึ่งการทำเนื้อสัมผัสและฟินิชที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราตั้งแต่เริ่มต้นทำแบรนด์เลย อย่างเช่น สูตรของ Queen Screen จะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบความโกลว์ มาพร้อมสรรพคุณที่ช่วยให้ผิวเปล่งประกาย หรือถ้าเป็นสายมินิมอล อยากลดขั้นตอน อาจเลือกเป็นสูตร Supreme Screen ซึ่งสามารถให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวได้เพียงพอสำหรับทั้งวัน ช่วยเซฟเวลาได้เลยค่ะ
V: ช่วยเล่าถึง Kakadu Plum ซึ่งเป็นส่วนผสมดาวเด่นที่มีอยู่ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ของ Ultra Violette ให้เราฟังหน่อยค่ะ
A: Kakadu Plum (คาคาดู พลัม) เป็นผลไม้ที่ มีวิตามินซีสูงมากๆ ค่ะ มีถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลีย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องให้ลำต้นสามารถเติบโตในสภาพอากาศที่แห้งและโหดร้ายของทะเลทรายได้ค่ะ เราหลงรักส่วนผสมนี้เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ดีต่อผิว ช่วยในเรื่องกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแลดูโกลว์กระจ่างใสค่ะ
V: Ultra Violette มีครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าทั้งหมด 4 สูตร อยากให้คุณช่วยแนะนำแต่ละสูตรกับเราค่ะ
A: ฉันขอเริ่มที่ Queen Screen นะคะ ซึ่งเป็นสูตรยอดนิยมของเราเลยค่ะ มีเนื้อสัมผัสแบบเซรั่ม ให้ฟินิชผิวโกลว์ เป็นสูตรที่ฉันใช้ทุกวันเลยค่ะเพราะชอบให้ผิวดูโกลว์ๆ ค่ะ ถ้าใช้ก่อนลงรองพื้น ตัวนี้จะเป็นเบสที่ช่วยให้ผิวดูเปล่งประกายได้ดีเลย ด้านในจะมีส่วนผสมของคาคาดู พลัม ส่วนผสมแบบ Plant-based ที่มีสรรพคุณช่วยเติมความชุ่มชื่นแบบเน้นๆ มีเนื้อที่บางเบา ไม่ทิ้งคราบขาว อีกสูตรที่เป็นไอเท็มนิยมของเราคือ Supreme Screen ค่ะ ตัวนี้เหมาะกับทุกคนทุกสภาพผิวเลยค่ะ ถ้าไม่รู้จะใช้สูตรไหนดี สามารถเริ่มที่สูตรนี้ได้เลยค่ะ เราเรียกสูตรนี้ว่าไอเท็ม 3-in-1 คือสามารถเป็นกันแดด ไพร์เมอร์ และมอยส์เจอไรเซอร์ได้ ตัวนี้เป็นสูตรโปรดของ Bec เลยค่ะ เธอไม่ค่อยใช้ผลิตภัณฑ์อะไรเยอะแต่นี่เป็นสิ่งที่เธอใช้ทุกๆ วันค่ะ ซึ่งตอบโจทย์กับเธอซึ่งมีผิวแห้ง แน่นอนค่ะมีส่วนผสมของคาคาดู พลัม สควาเลนที่ช่วยเติมความชุ่มชื่น เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ต่อมาคือสูตร Lean Screen ซึ่งมีเนื้อสัมผัสแบบแมตต์ โดยมีส่วนผสมของ Zinc Oxide เป็นสารกันแดดแบบธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวมันเป็นสิวง่าย รวมถึงอักเสบแดงง่าย มีส่วนผสมฮีโร่อย่างคาคาดู พลัม ส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื่น อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวด้วย เราทำเนื้อกันแดดให้เป็นทิ้นต์เพื่อให้เข้ากับทุกสีผิวได้ง่ายขึ้น สำหรับ Clean Screen ฉันอยากแนะนำให้คนที่เป็นสิวง่ายหรือสำหรับผิวช่วงวัยรุ่น เพราะมันมีเนื้อสัมผัสแบบเจลบางเบา ใช้แล้วคูลลิ่งสบายผิว สูตรนี้มี SPF 30 เราตั้งใจทำสูตรนี้มาเพื่อคนที่ไม่ชื่นชอบความหนาหนักของครีมกันแดดค่ะ
Queen Screen Luminising Sun Serum SPF 50+ ราคา 1,380 บาท / Supreme Screen Hydrating Facial Skinscreen SPF 50+ ราคา 1,320 บาท / Lean Screen Mineral Mattifying SPF 50+ ราคา 1,320 บาท/ Clean Screen Sensitive Skinscreen SPF 30 ราคา 1,220 บาท
V: ทำไม Ultra Violette ถึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์เท็กซ์เจอร์ที่บางเบา สบายผิว รวมถึงอะไรคือไอเดียเบื้องหลังแพ็คเกจที่มีสีสันสะดุดตา
A: เนื้อสัมผัสเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากๆ ค่ะ เราได้พูดถึงส่วนผสม การผสานคุณสมบัติสกินแคร์เข้าไปเพื่อให้แบรนด์ของเราแตกต่าง แต่ทั้งหมดมาจบที่เรื่องของเนื้อสัมผัสค่ะ ตอนเริ่มคิดค้นผลิตภัณฑ์เราพยายามปิดช่องว่างของครีมกันแดด ทั้งในด้านของส่วนผสมและเนื้อสัมผัสค่ะ แต่ละผลิตภัณฑ์ไม่ควรมีเนื้อสัมผัสที่หนาหนักเพียงอย่างเดียว พอเรารู้ว่า Queen Screen จะเป็นฮีโร่โปรดัคของแบรนด์ ฉันตั้งใจเลยว่าเนื้อจะต้องบางเบาที่สุด ไม่ทิ้งคราบขาว เข้าได้กับทุกสีผิว ซึ่งจริงๆ แล้วทุกสูตรของเรา เนื้อค่อนข้างกลืนไปกับผิวหมดเลยค่ะ สำหรับตัวแพ็คเกจจิ้ง ในช่วงยุค 80 และ 90 เราโตมากับเทรนด์ Color Zinc ที่มีสีนีออน สีพาสเทล สำหรับแปะบนจมูกเวลาไปทะเลค่ะ เราเลยหยิบสีสันเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสีของแพ็คเกจ ส่วนสีน้ำเงินเราดึงแรงบันดาลใจมาจากสีน้ำเงิน Yves Klein (อีฟว์ ไคล์น) ค่ะ และอย่างที่กล่าวถึงคอนเซปต์ของแบรนด์เราไปข้างต้น เราอยากให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีหน้าตาเหมือนสกินแคร์ เราจึงออกแบบมาเป็นขวดเซรั่มและหลอดปั๊ม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Skinscreen ของเราค่ะ
V: ทิปส์หรือวิธีการใช้ครีมกันแดดที่อยากแนะนำมีอะไรบ้าง
A: ทาเป็นประจำในตอนเช้านะคะ สำหรับวันที่คุณแต่งหน้าและต้องการเติมกันแดด ในระหว่างวัน เร็วๆ นี้เรากำลังมีกันแดดแบบทิ้นท์มอยส์เจอไรเซอร์ปล่อยออกมาด้วยค่ะ ซึ่งเหมาะมากสำหรับการเติมระหว่างวัน หรืออีกวิธีคือการใช้ฟองน้ำแต่งหน้าในการช่วยเติมกันแดดก็ได้ค่ะ ค่อยๆ แท็บๆ บนผิว เป็นวิธีที่ฉันทำเป็นประจำเลยค่ะ และตอนนี้เรากำลังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบสเปรย์กันด้วย ซึ่งจะวางขายในปีหน้า เราบอกที่นี่เป็นที่แรกเลยนะคะ
V: สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้ Ultra Violette มาก่อน มีกันแดดสูตรไหนบ้างที่คุณอยากแนะนำ
A: ส่วนตัวฉันชอบ Queen Screen ค่ะ เพราะฉันชอบความโกลว์ รวมถึงเป็นสูตรที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว ถ้าไม่ชอบความโกลว์แบบฉัน อยากแนะนำ Supreme Screen ค่ะ เพราะเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับคนที่เริ่มทำความรู้จักแบรนด์เรา เป็นสูตรเวิร์คกับทุกสภาพผิว ทุกสีผิว เข้าได้กับทุกรูทีน รวมถึงเข้าได้กับทุกเพศด้วยค่ะ
V: นอกจากทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันแล้ว คุณมีทิปส์ดูแลผิวให้สุขภาพดีในระยะยาวที่อยากแนะนำเพิ่มเติมบ้าง
A: ฉันมองว่าความสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ไม่ว่าจะกับการใช้ SPF หรือเรตินอล ฉันเป็นแฟนตัวยงของการดูแลผิวแบบกันไว้ก่อนดีกว่าต้องมาแก้ทีหลัง อย่างเลือกใช้เรตินอลที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำหรือเข้ารับทรีตเมนต์บ้าง โดยรวมฉันคิดว่าทุกอย่างควรทำแบบพอดีๆ บาลานซ์สำคัญค่ะ ฉันจะไม่บอกว่าดื่มน้ำให้เพียงพอหรือใช้น้ำมันมะกอกทาผิวอย่างเดียว สุขภาพผิวที่ดีมาจากการทำสกินแคร์รูทีนและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับตัวเราอย่างสม่ำเสมอค่ะ นอกจากนี้ดูแลตัวเองจากภายในก็สำคัญเช่นกัน อย่างการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าลืมออกไปสูดอากาศ รับแสงแดดด้วยนะคะ
นอกจากครีมกันแดดทั้ง 4 สูตรสำหรับผิวหน้าแล้ว Ultra Violette ยังมาพร้อมครีมกันแดดสำหรับผิวกายและลิปบาล์มเนืื้อชุ่มฉ่ำช่วยบำรุงพร้อมปกป้องผิวบริเวณริมฝีปากให้สุขภาพดีด้วย สามารถตามไปสัมผัสประการณ์ใหม่ของการใช้ครีมกันแดดที่มาพร้อมเนื้อสัมผัสฟีลกู้ดกันได้ที่ Sephora ประเทศไทย
WATCH