คุยกับผู้อยู่เบื้องหลัง 'Dior Capture Totale Le Sérum' กับดอกไม้ในตำนานบนเกาะมาดากัสการ์

     จากความประทับใจของแฟนๆ ที่มีต่อเซรั่ม Capture Totale ซึ่งเป็นหนึ่งในไลน์สกินแคร์ที่โด่งดังที่สุดของดิออร์ แม้จะครองใจผู้คนทั่วโลกมายาวนาน แต่การพัฒนาในโลกของวิทยาศาสตร์ความงามนั้นไม่หยุดนิ่ง Dior Beauty ต้อนรับศักราชใหม่ในปี 2023 ด้วยการเปิดตัว Capture Totale Le Sérum สูตรใหม่ ซึ่งเป็นกุญแจดอกล่าสุด สู่การฟื้นฟูผิวให้แลดูกระชับและอ่อนเยาว์ สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ และทุกสภาพผิว บรรณาธิการโว้กบินไปร่วมสัมผัสเซรั่มสูตรใหม่เป็นกลุ่มแรกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมลงนั่งคุยแบบเจาะลึกกับ Patrick Choisy และ Virginie Couturaud สองผู้อยู่เบื้องหลังการวิจัยครั้งล่าสุดซึ่งบินตรงจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

 

     Capture Totale Le Sérum สูตรใหม่นี้เป็นจุดนัดพบระหว่างการปฏิวัติ 2 ศาสตร์ทางด้านวิทยาศาสตร์ความงาม นั่นคือวิทยาศาสตร์ดอกไม้ และการพัฒนาการทำงานของโปรตีนในชั้นผิว โดยมีตัวเอกเป็นส่วนผสมใหม่ล่าสุดอย่างสารสกัดลองโกซา ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เติบโตท่ามกลางความหลากหลายของระบบนิเวศบนเกาะมาดากัสการ์ สำหรับคนท้องถิ่นแล้วลองโกซาได้รับการขนานนามว่าเป็น phoenix flower ตามชื่อนกไฟในปกรณัมของอียิปต์โบราณที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ การเกิดใหม่ และการชุบชีวิต ดิออร์ได้ทำการศึกษาและเพาะปลูกลองโกซาเป็นเวลากว่า 30 ปีใน Dior Garden ซึ่งสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชประจำถิ่นกว่าหมื่นชนิด ทำให้ค้นพบคุณสมบัติการฟื้นฟูที่ไม่ธรรมดาของลองโกซา จนนำไปสู่การมุ่งศึกษาดอกไม้ชนิดนี้อย่างจริงจัง โดยใช้กระบวนการเก็บเกี่ยวตามหลักเกษตรอินทรีย์ และการหมักโดยใช้เอนไซม์หลากหลายชนิด เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของสารสกัดในลองโกซาให้มีศักยภาพสูงสุด และสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น จากการศึกษาวิจัยนี้ดิออร์ได้ค้นพบสารสกัดกว่า 85 ชนิดที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของดอกไม้ในตำนานเพื่อรับมือกับสัญญาณแห่งวัยต่างๆ Virginie Couturaud ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ของ Parfums Christian Dior กล่าวว่า “นี่คือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในวงการความงาม” 

 

     ในโลกยุคนี้ที่ทุกคนต่างกล่าวถึงประเด็นเรื่อง “ความยั่งยืน” หรือ Sustainability ดิออร์ไม่เพียงแต่ทำการศึกษาวิจัยพืชพื้นถิ่นบนเกาะมาดากัสการ์เพื่อการค้นพบใหม่ๆ ของวงการความงามเพียงเท่านั้น แต่ยังเปิดประตูบานใหม่ให้กับคนในท้องถิ่นได้เรียนรู้กรรมวิธีการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน การถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ให้กับเกษตรกรที่เพาะปลูกลองโกซา รวมถึงมีการคิดค้นกระบวนการสกัดที่ออกแบบและคำนวณมาอย่างแม่นยำเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม “ที่ดิออร์เรามี KPI เรื่องความยั่งยืน ผมจะไม่พูดว่ามันเป็นเรื่องง่ายในการพัฒนากระบวนการเพื่อความยั่งยืนเพราะนั่นหมายถึงปัจจัยมหาศาลที่เราต้องตระหนักในทุกกระบวนการผลิต มันเป็นงานที่ยาก แต่หลายๆ ครั้งเราต้องเลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด” Patrick Choisy หัวหน้าแผนกนวัตกรรมวัตถุดิบธรรมชาติและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสถาบันวิจัย LVMH Recherche กล่าวถึงการทำงานเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนทั้งในด้านชุมชนและธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิออร์ให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์