SKINCARE

Exclusive | พูดคุยกับ Nicola Fuzzati ผู้อำนวยการพัฒนานวัตกรรมส่วนผสมเครื่องสำอาง CHANEL BEAUTY

บทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟที่ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานวัตกรรมด้านส่วนผสมเครื่องสำอาง CHANEL BEAUTY พูดคุยกับโว้กบิวตี้เกี่ยวกับแรงบันดาลใจและประสบการณ์อันไม่รู้ลืมเกี่ยวกับการวิจัยดอกคามิลเลีย รวมไปถึงการคาดการณ์อนาคตของสกินแคร์

ไลน์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก Chanel ที่โดดเด่นด้านสารสกัดจากดอกคามิลเลียอย่าง N°1 DE CHANEL ยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยคงจุดเด่นของการนำคุณสมบัติจากสารสกัดในดอกไม้สายพันธุ์เอกลักษณ์นี้มาช่วยดูแลลึกถึงชั้นเซลล์เพื่อคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ซึ่ง Nicola Fuzzati ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานวัตกรรมด้านส่วนผสมเครื่องสำอาง Chanel Beauty มาแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ไม่รู้ลืมจากการวิจัยไลน์ผลิตภัณฑ์ N°1 DE CHANEL กับโว้กบิวตี้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ

Nicola Fuzzati ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานวัตกรรมด้านส่วนผสมเครื่องสำอาง Chanel Beauty

ภาพ: CHANEL

VB: อะไรคือแรงบันดาลใจที่นำไปสู่การวิจัย N°1 DE CHANEL 

CHANEL BEAUTY: ความต้องการนำเสนอความความงามตามแบบฉบับ CHANEL ที่พัฒนานวัตกรรมควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างแนวทางใหม่ในการดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ จนกลายเป็นการวิจัยไลน์ผลิตภัณฑ์ N°1 DE CHANEL ที่นับเป็นผู้บุกเบิกด้านการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ของดอกคามิลเลียจนค้นพบคุณประโยชน์ในสารสกัดจากดอกไม้สายพันธุ์นี้ที่สามารถรับมือการเสื่อมลงของเซลล์ผิว และคงความมีชีวิตชีวาของผิวให้ดูอ่อนเยาว์

 

VB: ความน่าตื่นเต้นอะไรที่ทำให้การวิจัยดอกคามิลเลียยังคงเกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน? 

NICOLAความน่าตื่นเต้นสำหรับผมคือการได้เข้าใจดอกคามิลเลียอย่างครอบคลุมตั้งแต่เริ่มเพาะปลูก ซึ่งที่ห้องปฏิบัติการ “Open Sky Laboratories” เปรียบเสมือนพื้นที่สำรวจที่เหล่านักวิจัยของ CHANEL ใช้ค้นคว้าความหลากหลายทางชีวิภาพของดอกไม้ชนิดนี้ รวมถึงการสร้างสรรค์ส่วนผสมต่างๆ การวิจัยอย่างรอบด้านนี้ทำให้เราสามารถมองเห็นคุณค่าในทุกส่วน ไม่ใช่แค่เพียงคามิลเลีย แต่รวมไปถึงธรรมชาติและระบบนิเวศ ซึ่งผมและทีมคอยดูแล-วิจัยพืชพรรณเหล่านี้ไปพร้อมกับเคารพการทำงานตามระบบนิเวศ ตั้งแต่องค์ประกอบต่างๆ ของดินและจุลินทรีย์ สิ่งเหล่านี้สามารถสังเกตได้ผ่านคุณภาพของพืชพรรณและดอกคามิลเลียที่ถูกสกัดมาเป็นผลิตภัณฑ์ในไลน์ N°1 DE CHANEL



WATCH



คามิลเลียถูกยกให้เป็นดอกไม้แห่งความงามและความเยาว์วัยอันเป็นอมตะ ด้วยความทนทานต่อทุกสภาพอากาศที่สามารถเบ่งบานได้ในช่วงฤดูหนาว รวมถึงส่วนของดอกที่ทวีคูณความงามและความแข็งแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ภาพ: CHANEL

VB: อะไรคือความน่าดึงดูดที่สุดของดอกคามิลเลียที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว?

NICOLA: ไม่มีดอกคามิลเลียดอกไหนที่เหมือนกัน สีของดอกคามิลเลียมีตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ไปจนถึงสีดำ รวมไปถึงโทนสีเหลือง หากไม่นับสายพันธุ์ของกุหลาบ ก็มีดอกไม้ไม่กี่ชนิดที่มีสีหลากหลายเช่นนี้ ความหลากหลายของคามิลเลียสอนให้พวกเราได้รู้จักความอดทนและความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอจนทำให้ทีมของเราเข้าใจการทำงานของอาณาจักรพืชพรรณได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งความน่าทึ่งของคามิลเลียยังไม่จบเท่านี้ ดอกคามิลเลียยังขึ้นชื่อเรื่องการเบ่งบานในฤดูหนาว มันสามารถทนสภาพอากาศต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเยาว์วัยชั่วนิรันดร์ เพราะยิ่งดอกคามิลเลียมีอายุมากเท่าไหร่ ความงามก็จะยิ่งทวีคูณและแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น 

VB: เมื่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมลภาวะและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนทั่วโลกตระหนัก ทีมวิจัยได้ผสมผสานประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับสกินแคร์อย่างไรบ้าง?

NICOLA: ความยั่งยืนถูกใส่มาเป็นหนึ่งกลยุทธ์หลักทางธุรกิจของ CHANEL ทำให้การออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งสำคัญหนึ่งข้อคือพัฒนาสูตรส่วนผสมโดยการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาจากแหล่งที่มีความยั่งยืน และต้องกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด  โดยทีมวิจัยประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากวัตถุดิบที่ใช้ผ่านการวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นกำเนิดไปจนถึงกระบวนการผลิตและสกัดเป็นส่วนผสม 

ซึ่งห้องปฏิบัติการ Open Sky Laboratories ในเมืองโกฌักค์ (Gaujacq) ประเทศฝรั่งเศสมีการใช้ระบบชลประทานขนาดเล็กเพื่ออนุรักษ์น้ำและลดการระเหยจากดิน จากนั้นปลูกต้นไม้ที่ทนความร้อนให้เป็นร่มเงาและลดอุณหภูมิในพื้นที่เพื่อรับมือกับคลื่นความร้อนและความแห้งแล้งที่จะส่งผลต่อสุขภาพดอกคามิลเลียได้ ซึ่งกระบวนการนี้ยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถดูแลดอกคามิลเลียได้อย่างยั่งยืน

การวิจัยและสกัดสดอกคามิลเลีย ณ ห้องปฏิบัติการ Open Sky Laboratories ในเมืองโกฌักค์ (Gaujacq) ประเทศฝรั่งเศส

ภาพ: CHANEL

VB: ช่วยแชร์แนวโน้มการวิจัยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในปัจจุบัน รวมถึงการคาดการณ์ความก้าวหน้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ว่าเป็นอย่างไร 

CHANEL BEAUTY: การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์มากมายกำลังเกิดขึ้นไม่ว่าจะ AI เทคโนโลยีชีวภาพหรือความก้าวหน้าทางประสาทวิทยาศาสตร์ สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคต ทีมนักวิจัยของเราจากทั่วโลกคอยเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ทำการทดลอง และสร้างความเปลี่ยนจากโอกาสนี้ พวกเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาและควบรวมนวัตกรรมหรือความก้าวหน้าต่างๆ และนำเสนอผ่านผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงที่จะเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญของความงามและความเป็นอยู่ที่ดีของกลุ่มผู้บริโภคของเรา และในขณะเดียวกันก็ยังมีความรับผิดชอบอย่างลึกซึ้งต่อโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด



ไลน์ผลิตภัณฑ์ N°1 DE CHANEL

ภาพ: CHANEL

ไลน์ผลิตภัณฑ์ N°1 DE CHANEL

ภาพ: CHANEL

สัมภาษณ์, แปล และ เรียบเรียง : ธีรชยา พิมพ์กิติเดช

WATCH

TAGS : Interview