SKINCARE
ผิวสวยด้วยการ "รีเซ็ต" Skin Fasting เทรนด์ใหม่ของการบำรุงผิวหนึ่งทางแก้ปัญหาผิวอาจเริ่มต้นได้ด้วยการ “ลด” และ “รีเซ็ต” |
ตัวเลือกการบำรุงผิวหน้าในปัจจุบันมีมากมาย ทั้งการใช้สกินแคร์บำรุงตามสภาพผิวของเราเอง หรือเลือกใช้ตัวช่วยอย่างอุปกรณ์นวดหน้าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่ในช่วงหลายปีมานี้ เกิดเทรนด์ใหม่ของการบำรุงผิวขึ้นนั่นคือ “Skin Fasting” จุดเริ่มต้นผิวสวยด้วยการรีเซ็ต
อะไรคือ Skin Fasting?
ผิวของสาวๆ ทุกคนถือว่าทำงานหนักในทุกวัน ทั้งเจอสกินแคร์บำรุงมากมาย บางส่วนผสมช่วยกระตุ้นการทำงานของผิวให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ บางส่วนผสมก็ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบนเพื่อให้ใบหน้าดูกระจ่างใสทำให้ผิวหน้าของเราต้องคอยทำงานอยู่เสมอ ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่ได้เป็นวิธีที่ผิดแต่อย่างใด แต่จะดียิ่งขึ้นถ้าให้ผิวได้หยุดพักสักหน่อย
Skin Fasting จึงเกิดขึ้นเพื่อให้ผิวได้หยุดพักการทำงานอันเนื่องมาจากการกระตุ้นของส่วนผสมสกินแคร์ต่างๆ และเปิดให้ผิวปรับบาลานซ์ของระบบการทำงานตามธรรมชาติอย่างถูกต้อง รวมไปถึงการสร้างเกราะป้องกันหรือที่เรียกกันว่า Skin Barrier ให้ผิวมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ที่สำคัญ Skin Fasting ยังเป็นวิธีการรักษาเบื้องต้นด้วยตัวเองเมื่อเกิดอาการแพ้หรือมีสิวขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะบางส่วนผสมของสกินแคร์อาจมีส่วนกระตุ้นให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้
WATCH
“ลด” - “รีเซ็ต” - “บำรุง”
ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับ Skin Fasting แนะนำให้เริ่มต้นในขั้นตอนหลังล้างหน้าช่วงเย็น
- หลังล้างหน้าเสร็จ งดการลงสกินแคร์ทุกชิ้น
- เช้าวันรุ่งขึ้นให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติแบบไม่ต้องใช้โฟมล้างหน้า
- สังเกตผิวของตัวเองว่ามีความมันส่วนเกินหรือไม่
หากสาวๆ คนไหนเป็นคนผิวแห้ง (ไม่มีน้ำมันออกมาจากผิวเลย) จะต้องใช้สกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นโดยเฉพาะ แต่หากเป็นคนผิวมัน (เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วใบหน้ายังมีความมันอยู่) สิ่งที่ควรทำคือการลดขั้นตอนสกินแคร์หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสเหมาะกับคนผิวมัน และหากสาวๆ คนไหนมีความมันออกมาในระดับปกติ หน้าไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป ถือว่าเป็นผิวปกติ (ผิวสวยที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝัน) สามารถใช้สกินแคร์ที่ใช้อยู่ต่อไปได้อย่างปกติ
ถี่แค่ไหนถึงจะดี?
กฎเกณฑ์ที่แน่นอนของการทำ Skin Fasting ขึ้นอยู่กับตัวของเราเอง แต่หากสาวๆ คนไหนแต่งหน้าบ่อยก็แนะนำให้ทำ 1-2 ครั้งต่อเดือน เพื่อให้ผิวได้หยุดพัก แต่ควรเลือกวันที่เช้าวันถัดไปไม่ต้องแต่งหน้าจัดเต็ม เพราะอาจส่งผลกับการแต่งหน้าของเราได้ หากสาวๆ คนไหนเป็นสกินแคร์เลิฟเวอร์และแต่งหน้าน้อย สามารถใช้วิธีการลดขั้นตอนลงเหลือ 1-2 ขั้นตอนในช่วงเวลากลางคืน และทำ 1-2 ครั้งต่อเดือนได้เช่นกัน
ข้อควรระวังของ Skin Fasting
แม้ Skin Fasting จะเป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน
- หากลองครั้งแรกแล้วเกิดอาการระคายเคือง ไม่ควรทำต่อ แต่ให้ค่อยๆ เริ่มลงสกินแคร์เป็นปกติ
- ไม่ควรทำ Skin Fasting หากอยู่ระหว่างการรักษาปัญหาผิวจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แนะนำให้ทำเฉพาะช่วงเวลากลางคืน เพราะในช่วงเช้าเราจำเป็นต้องทาสกินแคร์รวมถึงครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
สกินแคร์แนะนำหลังทำ Skin Fasting
สาวผิวมัน
1 / 2
Tatcha The Clarifying Clay Mask
2 / 2
Pixi Skintreats Clarity Lotion Oil-Free Moisturiser
สาวผิวแห้ง
1 / 2
Caudalie Grape Water
2 / 2
Cerave Moisturising Cream
ภาพ : Beauty On duty, Content Pixie on Unsplash, Meijimei
ข้อมูล : Skincraft.com, Currentbody.com
WATCH