SKINCARE

นี่คือ 6 ส่วนผสมสำคัญที่ควรมองหาในการเลือกซื้อเฟสออยล์

แนะนำส่วนผสมสำคัญในเฟสออยล์ที่จะช่วยให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพและเข้าแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

น้ำมันบำรุงผิว หรือ เฟซออยล์ เป็นอีกหนึ่งสกินแคร์ชิ้นสำคัญที่ประกอบด้วยส่วนผสมแบบอัดแน่นจัดเต็มไม่แพ้กับเซรั่ม บางคนอาจจะยังกลัวว่าการใช้น้ำมันบำรุงผิวจะทำให้เกิดการอุดตันและปัญหาสิวตามมาทีหลังได้ แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยให้ออยล์มีความเบาบางและสามารถซึมลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น โว้กบิวตี้รวบรวม 6 ส่วนผสมสำคัญในเฟซออยล์ที่ควรมองหาและตอบโจทย์สำหรับหลากหลายสภาพผิว

 

1. Sweet Almond Oil

น้ำมันสวีทอัลมอนด์ ประกอบด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน A, B1, B2, B6 และ E รวมถึงโปรตีน โพแทสเซียม และสังกะสีที่จำเป็นต่อผิว จึงช่วยป้องกันและฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาการระคายเคือง รักษาบาดแผล และผิวหนังที่เกิดการแพ้ พร้อมทั้งสามารถใช้บำรุงบริเวณใต้ตา ลดรอยหมองคล้ำใต้ตา ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

Try this: Fabulous Face Oil จาก Aesop ขนาด 25 ml (ราคา 1,950 บาท)

 



WATCH



2. Argan Oil

เรียกได้ว่าเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์หลายชนิด เพราะมีวิตามิน E และกรดไขมันที่จำเป็นต่อผิวอย่างกรดไขมันโอเมก้า 6 และ 9 จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสามารถกักเก็บน้ำในผิวได้เป็นอย่างดี ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ลดอาการอักเสบของผิวหนัง และต่อต้านการเกิดการผิดปกติของเซลล์ผิวได้ดี

Try this: Hydration Drops Argan, Rosehip and Strawberry Face Oil จาก Mellow Naturals ขนาด 20 ml (ราคา 820 บาท)

 

3. Grape Seed Oil

น้ำมันจากเมล็ดองุ่นเป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยสารสกัดและประโยชน์มากมายกว่าที่เราคิด เพราะมี Polyphenols จัดเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จึงช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดจากคอลลาเจนในผิวถูกอนุมูลอิสระทำลาย พร้อมกับวิตามิน E ที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียน ผิวเต่งตึงกระชับ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสำคัญที่เหมาะกับผิวผสมและผิวมันด้วย เพราะจะช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงและลดการเกิดสิวอุดตัน

Try this: Vinergetic C+ Overnight Detox Oil จาก Caudalie ขนาด 30 ml (ราคา 1,850 บาท)

 

4. Rosehip Oil

โรสฮิปออยล์อุดมไปด้วยวิตามิน A, B1, B2, B3, และ K ที่เป็นอาหารผิว พร้อมทั้งอัดแน่นไปด้วยวิตามิน C จึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและลดปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ รวมถึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยกรด Linoleic Acid และกรดไขมันที่จำเป็นอีกหลายชนิด ทั้งยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นและซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย เพราะเป็นน้ำมันบำรุงผิวที่ค่อนข้างบางเบา ​​ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวได้

Try this: Rosehip Oil จาก Skinplants ขนาด 15 ml (ราคา 540 บาท)

 

5. Squalane Oil

สควาเลนมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันธรรมชาติบนชั้นผิวของเรา ซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้โดยไม่ทำให้รู้สึกหน้ามันเหนอะหนะหรือเกิดการอุดตันรูขุมขน ด้วยความที่เนื้อบางเบาจึงเป็นน้ำมันที่เหมาะสำหรับคนผิวมันและผิวผสม เพราะจะช่วยไปคงความสมดุลการผลิตน้ำมันในต่อมไขมัน เสริมความแข็งแรงของเกราะชั้นผิวจากการขาดน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงเหมาะแก่การฟื้นฟูริ้วรอยและความเสียหายของเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

Try this: 100% Squalane Oil จาก Biossance ขนาด 100 ml (ราคา 1,180 บาท)

 

6. Rice Bran Oil

สารสกัดจากน้ำมันรำข้าว มีสารสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามิน E ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามิน E ทั่วไปถึง 6 เท่า ช่วยบำรุงสภาพผิวที่แห้งหยาบกร้าน ให้กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น พร้อมทั้งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ลดปัญหาร่องลึก รอยตีนกา ทำให้ผิวตึงกระชับเรียบเนียน นอกจากนี้ในน้ำมันรำข้าวยังประกอบไปด้วยสารแคโรทีนอยด์ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง มีสุขภาพดีอีกด้วย

Try this: Rice Bran Oil Moist & Anti Aging จาก Na Ha Thai ขนาด 30 ml (ราคา 1,400 บาท)

 

หลายคนอาจจะคิดว่าการใช้เฟซออยล์จะยิ่งทำให้ผิวอุดตันและเป็นสิว แต่จริงๆ แล้วน้ำมันบำรุงผิวไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะน้ำมันบางชนิดมีความบางเบาและมีคุณสมบัติตอบโจทย์กับหลากหลายสภาพผิวแตกต่างกันไป เพียงแค่มองหาส่วนผสมดีๆ ที่เหมาะกับผิวของเราก็สามารถใช้เฟซออยล์ได้อย่างสบายใจแล้ว

เรื่อง : ปัญยภัสสร์ พรหมชัยวัฒนา
ภาพ : Courtesy of brands, @ashtonwood, @iamalinamorozova

WATCH