SKINCARE
Booster 101 อยากดูแลผิวแล้วเห็นผล จำเป็นไหมที่ต้องมีบูสเตอร์ในสกินแคร์รูทีน?ทำความรู้จักสกินแคร์ในกลุ่มของบูสเตอร์ ช่วยปลุกผิวที่ทรุดโทรมให้กลับมาสดใสอีกครั้ง |
หลายคนคงทราบกันดีถึงทิปส์การดูแลผิวขั้นพื้นฐานอย่าง การใช้สกินแคร์สม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้ได้ 6-8 ชั่วโมงขึ้นไป และดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างไรก็ตามบางครั้งตารางชีวิตก็ไม่เอื้อยอำนวยให้เราได้ดูแลผิวอย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของมองหาสกินแคร์รูทีนที่สั้นกระชับแต่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งในไอเท็มสกินแคร์ที่สามารถช่วยย่นเวลาการลงสกินแคร์ลงได้แต่ยังคงมอบประสิทธิภาพการฟื้นบำรุงผิวอย่างเต็มที่ก็คือสกินแคร์ในกลุ่มบูสเตอร์ โดยมักจะมาในรูปแบบของเซรั่มเข้มข้นที่นิยมนำมาผสมกับสกินแคร์ที่ใช้อยู่อย่างมอยซ์เจอรไรเซอร์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว
Booster ต่างจากเซรั่มธรรมดาอย่างไร?
สิ่งที่ทำให้บูสเตอร์แตกต่างต่างจากเซรั่มทั่วไปคือความเข้มข้นของส่วนผสมที่ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวที่สูงกว่า โดยมาพร้อมคุณสมบัติช่วยบูสต์ความมีชีวิตชีวากลับคืนสู่ผิว อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวของสกินแคร์ที่ใช้ในรูทีนด้วย ในปัจจุบันบูสเตอร์มีหลากหลายสูตรและส่วนผสมที่ตอบโจทย์กับทุกปัญหาผิว อย่าง ช่วยบูสต์ความชุ่มชื่นและช่วยบูสต์ความกระจ่างใส
Booster ใช้อย่างไร?
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของบูสเตอร์คือสามารถใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ผสมกับสกินแคร์ตัวอื่นได้ ซึ่งเวลาที่นำมาใช้ในรูทีนสามารถทดแทนสเต็ปการลงเซรั่ม ใช้ก่อนเซรั่ม (ในกรณีที่ในสเต็ปถัดไปมีเซรั่มที่เนื้อสัมผัสหนากว่า) หรือผสมกับมอยซ์เจอรไรเซอร์ ทั้งนี้ข้อควรระวังของการใช้บูสเตอร์คือควรดูว่าส่วนผสม Active Ingredients ในบูสเตอร์นั้นๆ สามารถไปด้วยกันได้ไหม อย่างส่วนผสมของวิตามินซีและส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิว AHA/BHA ที่จริงๆ แล้วสามารถใช้ร่วมกันได้ แต่แนะนำว่าให้ใช้แยกกันจะดีที่สุดเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการระคายเคืองผิว แต่ก็จะมีส่วนผสมที่เป็นมิตรกันและแนะนำให้ใช้ควบคู่กันไปอย่าง เรตินอลและกรดไฮยาลูรอนิก ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นในขณะที่เรตินอลทำหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
1 / 4
2 / 4
3 / 4
4 / 4
WATCH