แนะนำ 3 โปรแกรมทรีตเมนต์ ที่จะช่วยเพิ่มทั้งความผ่อนคลายและเพิ่มความสวยกันแบบเน้นๆ

แนะนำทรีตเมนต์ที่ครอบคลุมตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า ให้สาวๆ ได้ผ่อนคลายกันในวันหยุดวีคเอนต์หรือจะแวะไปช่วงหลังเลิกงานคลายเครียดก็ยังได้ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของความผ่อนคลายเท่านั้น ยังรวมไปถึงความสวยความงาม ผิวผ่อง ผมเงาสลวยกลับบ้านไปด้วยเป็นของแถม

 

ผิวหน้า

งานนี้ต้องหน้าใสไปด้วยกันทั้งคุณลูกและคุณแม่กับ Vitamin C and Enzyme Peel Facial สปาทรีตเมนต์ออร์แกนิกจาก The Oriental Spa ทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้าที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าเรียบเนียนสว่างกระจ่างใสด้วยผลิตภัณฑ์ออแกนิคสูตรส่งตรงจากประเทศอังกฤษอย่างแบรนด์ The Organic Pharmacy ที่คุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นการผ่อนคลายด้วยการสูดดมน้ำมันหอมระเหยจากเอสเซนเชียล ออยล์ ช่วยปรับสมดุลอารมณ์สร้างความสงบทางจิตใจ และเริ่มทำความสะอาดผิวหน้าและโทนเนอร์ เพื่อปรับผิวให้สมดุล จากนั้นเริ่มการทำทรีตเมนต์ด้วยการมาสก์หน้าขจัดเซลล์ผิวที่แห้งเสียและต่อด้วยการมาสก์หน้าบำรุงเซลล์ผิวอีกหนึ่งชั้น เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตใต้ชั้นผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยระหว่างนั้นนักบำบัดจะคอยนวดศีรษะกระตุ้นระบบการไหลเวียนภายในร่างกายให้รู้สึกผ่อนคลาย พร้อมนวดยกกระชับผิวบริเวณใบหน้า คอ บ่า ไหล่ คลายความตึงเครียด แล้วมาสก์หน้าเติมสารอาหารเข้าสู่ผิวอย่างลึกซึ้งด้วยคอลลาเจนธรรมชาติเข้มข้นที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ก่อนลงครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งนอกเหนือไปจากทรีทเมนต์เข้มข้นแล้วยังมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่สามารถซื้อกลับไปลองได้ บอกเลยว่าแบรนด์นี้ค่อนข้างน่าสนใจเพราะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย มีส่วนผสมที่ได้คุณภาพแน่นอน 

 

 

1 / 3

2 / 3

3 / 3

ผิวกาย

สำหรับใครที่ต้องการความผ่อนคลายแบบชิลๆ แนะนำ The Eight Spa อย่างสปานวดตัว Sleep Well Massage ที่ใช้เทคนิคการนวดตัวแบบอโรม่าพร้อมใช้น้ำมันหอมระเหยปรับจิตใจและอารมณ์ซึ่งกลิ่นหอมระเหยระหว่างนวดตัวช่วยให้รู้สึกสงบยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ลดความอ่อนล้า และหลับสนิทมากขึ้น แถมยังมีให้บริการ Healing Touch Massage นวดคลายกล้ามเนื้อ แก้อาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเป็นปัญหาของคนเมืองในปัจจุบันที่เพิ่มมากขึ้น

1 / 3

2 / 3

3 / 3

1 / 3

2 / 3

3 / 3

ทรีทเมนต์สำหรับเส้นผมแหละหนังศีรษะที่โดดเด่นโดยการแยกเมนูและผลิตภัณฑ์ตามแต่ละปัญหาอย่างชัดเจน 

ซาลอนสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Moga โด่งดังและเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมานานหลายปี ด้วยเพราะมีจุดเด่นคือช่างผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นคอยให้คำปรึกษา ออกแบบทรีตเมนต์และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดจริงๆ  ซึ่งซาลอนแห่งนี้ได้จับมือเข้าคู่กับแบรนด์ Milbon ซึ่งเป็นแบรนด์ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน โดยจะมีแชมพูและคอนดิชันเนอร์แยกตามปัญหาของเส้นผม ยกตัวอย่างเช่นถ้าผมแห้งหรือกระด้างมากจะต้องเลือกแชมพูหรือคอนดิชันเนอร์สูตร Moisture ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผมเป็นหลัก หรือผมที่ผ่านการทำเคมีมาอย่างหนัก ซึ่งต้องการการซ่อมแซมเพิ่มความยืดหยุ่นโดยเฉพาะจะต้องเลือกใช้ไลน์ Repair เป็นต้น แต่เมนูที่โว้ก บิวตี้ขอแนะนำในช่วงนี้คือ Anti-Frizz Treatment Program เมนูที่ช่วยลดการชี้ฟูของเส้นผมด้วยเทคโนโลยี Aqua Balancing ช่วยปรับสมดุลของน้ำภายในเส้นผมเพื่อลดการชี้ฟูของเส้นผม โดยเฉพาะสาวที่มีผมหยักศกแถมยังจัดทรงยาก ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่อากาศทั้งร้อน ทั้งชื้น แถมพอฝนตกยังทำให้ผมฟูหนักกว่าเก่าอีกต่างหาก เมนูนี้จึงถือว่าตอบโจทย์กับสถานการณ์ตอนนี้ที่สุด โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนในซาลอน และ อีก 1 ขั้นตอนที่จะต้องกลับไปรักษาสภาพเส้นผมต่อด้วยตนเองที่บ้าน เริ่มต้นที่ขั้นตอนแรก จะเป็นการปรับสภาพเส้นผมที่เปรียบเสมือนการลงโทนเนอร์บนผิวหน้า เพื่อให้เส้นผมสามารถกักเก็บความชุ่มชื่นเอาไว้ได้ดียิ่งขึ้น ต่อมาที่ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นขั้นตอนการเติมความชุ่มชื่นหรือเติมน้ำเข้าสู่เส้นผมหรือเปรียบเหมือนการลงเซรั่มเข้มข้นเข้าฟื้นบำรุงเส้นผม และปิดท้ายด้วยการปิดเกล็ดของเส้นผม ที่เปรียบเสมือนการลงมอยซ์เจอไรเซอร์ที่จะช่วยปกป้องระดับความอิ่มน้ำในชั้นผิวให้คงอยู่บนผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เส้นผมมีระดับน้ำที่เหมาะสมและไม่ทำให้เส้นผมเกิดการชี้ฟู แถมยังมีทรีตเมนต์ที่หน้าตาคล้ายคอนดิชันเนอร์เข้มข้นให้กลับไปใช้ต่อที่บ้านอีก 4 หลอด และใช้เพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อรักษาสภาพเส้นผมให้เงางามและจัดทรงง่ายยิ่งขึ้น สาวๆ ที่สนใจอยากเข้ารับบริการสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Moga สาขา Isetan, Emporium, Siam Paragon และ Zen