SKINCARE
บิวตี้ไอเทมประเภทไหนถึงเรียกว่าเป็น “ออร์แกนิก” ?มาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากกว่านี้กันดีกว่า |
Photo: @koraorganics
ถ้าได้ชื่อว่าเป็นบิวตี้ไอเทมที่เป็น “ออร์แกนิก” แล้ว แน่นอนว่าส่วนผสมจะต้องอ่อนโยนต่อผิวและปลอดสารพิษ โดยในแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีปริมาณของความออร์แกนิกที่แตกต่างกันไป สาวๆที่อยากมีผิวหน้าเนียนสวย ปลอดสารพิษ ตามมาเช็คประเภทของบิวตี้ไอเทมที่มากับส่วนผสมออร์แกนิกกันได้เลย
@organicbunny
ประเภทของส่วนผสมออร์แกนิกตามมาตรฐาน USDA จากสหรัฐอเมริกามีระดับที่แตกต่างกันไปดังนี้:
100% Organic หมายถึง ส่วนผสมทุกชนิดในผลิตภัณฑ์ต้องผลิตด้วยกรรมวิธีปลอดสารพิษล้วนๆ
95% Organic หมายถึง ในผลิตภัณฑ์ต้องมีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิกอย่างน้อย 95% ขึ้นไป นอกเหนือจากนั้นสามารถใช้สารสังเคราะห์ได้เพียงเล็กน้อย
Made with Organic Ingredients หมายถึง ในผลิตภัณฑ์ต้องมีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิกอย่างน้อย 70% ขึ้นไป และต้องระบุชื่อของส่วนผสมนั้นด้วย ส่วนอีก 30% จะต้องเป็นส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิวและปลอดสารพิษด้วยเช่นกัน
1 / 5
2 / 5
3 / 5
4 / 5
5 / 5
WATCH
PROS
-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกนั้นต้องอาศัยการเกษตรแบบอนุรักษ์ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน ฉะนั้นการผลิตอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ดีเพราะมีของเสียน้อยและไม่ต้องใช้สารกำจัดศัตรูพืช ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิกนั้นจะให้คุณค่าการบำรุงที่ดีกว่า เนื่องจากการปลูกด้วยวิธีนี้จะช่วยให้พืชสามารถส่งพลังบำรุงออกมาได้เต็มที่
-มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายน้อยกว่า
เพราะในส่วนผสมไม่มีสารเคมี หรือมีสารสังเคราะห์อยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการมีสารเคมีตกค้างในร่างกายและยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงในระยะยาวด้วย
CONS
-อายุการใช้งานสั้น
เนื่องจากไม่มีสารกันบูด โดยถ้ายังไม่เปิดฝาจะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน แต่ถ้าเปิดฝาแล้วต้องรีบใช้ให้หมดภายใน 2-3 เดือน
-ส่วนผสมบางชนิดไม่สามารถทำเป็นออร์แกนิกได้
สูตรส่วนผสมเพื่อผลัดลอกผิวหรือ Chemical Peel นั้นไม่สามารถทำให้เป็นออร์แกนิกได้ เพราะสารที่ใช้จะต้องเป็นสารสังเคราะห์จากธรรมชาติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
WATCH