SKINCARE

อาบน้ำอย่างไรให้ผิวชุ่มชื้นเหมือนได้ไปปรนนิบัติผิวที่สปา

เผยเทคนิคการอาบน้ำทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกและยังคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนาน ลดปัญหาผิวแตกแห้งกร้าน ดูไม่เรียบเนียน

     หลายคนอาจเคยประสบปัญหาผิวแห้งตึงหลังจากอาบน้ำเสร็จ ปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก เช่น การอาบน้ำอุ่นตลอดเวลา, ใช้สบู่ที่มีสารเคมีแรงเกินไป, ไม่ใช้ครีมบำรุงผิงกายหลังอาบน้ำเสร็จ หรือแม้แต่ปัจจัยอื่นๆ อย่างการดื่มน้ำน้อยและพักผ่อนไม่เพียงพอ หันมาดูแลผิวกายด้วยการอาบน้ำให้ผิวชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอด้วย 6 เทคนิคที่จะทำให้ผิวชุ่มชื้นตั้งแต่การทำความสะอาดผิวไปจนถึงการบำรุงผิว

 

เลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

     ถึงแม้การอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าของการทำงานมาทั้งวัน แต่การอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปก็อาจทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมได้ เพราะน้ำที่ร้อนเกินไปจะเข้าไปชะล้างไขมันและโปรตีนที่เคลือบปกป้องผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวของเรารู้สึกแห้งตึงหลังจากอาบเสร็จ ทางที่ดีควรอาบน้ำอุณหภูมิปกติหรืออาบสลับน้ำอุ่นกับน้ำเย็น เพื่อให้ผิวยังคงความสมดุลไว้

 

เลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว

     เลือกใช้สบู่ทำความสะอาดที่ไม่มีสารเคมีหรือมีส่วนผสมอ่อนโยนต่อผิว เช่น การเลือกสบู่ที่มีค่า pH 5.5 ซึ่งใกล้เคียงกับค่า pH ตามธรรมชาติของผิวหนัง ซึ่งจะช่วยรักษาเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวและป้องกันไม่ให้เกิดการทำลายความชุ่มชื้นจนทำให้เกิดผิวแห้งเป็นขุย รวมถึงพยายามเลือกใช้สบู่ที่ฟองไม่เยอะมากจนเกินไป เพราะภายในนั้นมีสาร SLS ซึ่งมีสารชำระล้างที่มีค่าความเป็นเบสสูง ทำให้ผิวเสียสมดุลความชุ่มชื้นได้เหมือนกัน

 

Argan Rose Shower Gel จาก Yves Rocher (ราคา 379 บาท)

ไม่ควรอาบน้ำนานจนเกินไป

     ระยะเวลาในการอาบน้ำปกติในทุกๆ วันไม่ควรเกิน 15-20 นาที เพราะอาจทำให้ทำให้ร่างกายเสียสมดุลในการปรับอุณหภูมิและทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ นอกจากนี้หลายคนอาจไม่รู้ว่าการอาบน้ำด้วยฝักบัว มีคลอรีนแฝงมาในน้ำได้บางส่วน ซึ่งคลอรีนที่ยังหลงเหลือในน้ำ อาจเข้าไปทำลายโปรตีนในเส้นผมและผิวหนัง จึงเป็นสาเหตุของเส้นผมแห้งแตกและผิวกายหยาบกร้านได้นั่นเอง

 

ใช้บอดี้ออยล์ในขณะที่ผิวเปียกหมาดๆ

     รู้หรือไม่ว่าการบำรุงผิวกายที่ดีควรบำรุงในขณะที่ผิวกำลังเปียกหมาดๆ เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนกำลังเปิด จึงทำให้ครีมบำรุงผิวหรือออยล์บำรุงผิว ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย และคงความชุ่มชื้นได้นาน เพราะฉะนั้นขณะเช็ดตัวหลังอาบน้ำ ควรปล่อยให้ผิวยังมีความชื้นอยู่หมาดๆ แล้วจึงทาออยล์หรือครีมบำรุง เทคนิคนี้จะทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านตลอดทั้งวัน

 

Antioxidant Milk Bath & Body Oil จาก PANPURI (ราคา 1,650 บาท)

 

เลือกบอดี้โลชั่นที่มีส่วนผสมในการเติมความชุ่มชื้นโดยเฉพาะ

     ผิวกายเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจมองข้าม แต่จริงๆ แล้วผิวกายของเราแห้งและขาดความชุ่มชื้นกว่าที่เห็นภายนอก ฉะนั้นเราเลือกโฟกัสในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเพียง เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอแล้วก็จะลดการเกิดปัญหาผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย รวมถึงความหมองคล้ำและริ้วรอยที่อาจตามมาได้ ส่วนผสมที่ควรมองหาคือกรดไฮยาลูโรนิก, กลีเซอรีน, เซราไมด์ และวิตามินอี เป็นต้น

 

ไม่ควรขัดผิวบ่อยจนเกินไป

     การขัดผิวมากเกินไปจะทำให้ผิวของเราบอบบางและสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย เพราะในแต่ละครั้งที่เราทำการผลัดเซลล์เก่าออกไป นอกจากสิ่งสกปรกแล้ว เซลล์ผิวชั้นนอกบางส่วนอาจถูกทำลายและขาดความชุ่มชื้นได้ ฉะนั้นเราควรขัดผิวแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ขัดผิวอย่างบอดี้สครับที่มีความอ่อนโยนต่อผิวก็จะช่วยบำรุงผิวได้อีกทาง

 



WATCH



L’Occitane Almond Delicious Paste

ภาพ : Courtesy of brands

WATCH

TAGS : Moisturizer