แม้ไม่ใช่ฤดูร้อนประเทศไทยก็มีแสงแดดร้อนแรงที่คอยแผดเผาอยู่เสมอ และไหนจะรังสียูวีที่คอยทำร้ายผิวมาตลอดนั่นจึงทำให้ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทาประจำไม่ให้ขาด ซึ่งหลายคนอาจจะโฟกัสแค่การทาที่ใบหน้าและผิวกายอย่างแขนหรือขาเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังมีตำแหน่งอื่นบนร่างกายที่ควรทาครีมกันแดดด้วยเช่นกัน นี่คือจุดที่ควรทากันแดดทุกครั้งไม่ให้ขาด มาเช็กไปพร้อมกันว่าคุณละเลยบริเวณเหล่านี้ของร่างกายไปบ้างหรือไม่

 

 

1. หนังศีรษะ

     เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักปกป้องแสงแดดและยูวีแค่ผิวหน้าหรือผิวบนร่างกายเท่านั้น โดยอาจลืมจุดที่เปราะบางที่สุดจุดหนึ่งไปคือหนังศีรษะ เพราะเส้นผมไม่สามารถป้องกันแสงยูวีที่เป็นอันตรายได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะสวมหมวกเมื่อออกแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดกับหนังศีรษะด้วย จริงอยู่ว่าคงไม่เหมาะที่จะเอาครีมกันแดดไปทาบนศีรษะเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ทางเลือกอื่น เช่น สเปรย์กันแดดที่ออกแบบมาเพื่อการปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมโดยเฉพาะแล้ว

 

2. หู

     แม้ว่าปกติเราจะไม่ลืมทาครีมกันแดดบนผิวหน้ากันอยู่แล้ว แต่หูก็เป็นอีกส่วนที่มักถูกมองข้ามไป หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าหูก็สามารถเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นอย่าลืมที่จะทาครีมกันแดดกันที่ส่วนหูชั้นนอกด้วย และยังแนะนำให้ทาซ้ำที่ติ่งหูในทุกๆ 2 ชั่วโมงเช่นเดียวกันผิวเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดจัด โดยเฉพาะในช่วงเวลาตั้งแต่สิบโมงถึงช่วงบ่าย

 

3. ลำคอ

     อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าผิวส่วนของลำคอเป็นตำแหน่งแรกๆ ที่ส่งสัญญาณแห่งวัยด้วยริ้วรอยที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องปกป้องผิวที่คอด้วยการทาครีมกันแดดด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะลืมทากันแดดที่ส่วนคอกันอยู่แล้ว แต่แนะนำเพิ่มว่าให้ทาลงมาถึงเนินอกเลย เพื่อจะได้มั่นใจได้ว่าปกป้องผิวบริเวณนี้ได้อย่างทั่วถึง

 

4. เปลือกตา

    เปลือกตาเป็นบริเวณที่ค่อนข้างยุ่งยากต่อการครีมกันแดด เพราะอาจเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย เพราะฉะนั้นออกนอกบ้านทุกครั้งอย่าลืมหยิบแว่นกันแดดพกติดตัวไปด้วย หรือหากต้องการทาครีมกันแดดที่เปลือกตา ก็ควรทาครีมกันแดดบนเปลือกตาหลังจากทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อเป็นเกราะป้องกันขั้นสุดท้ายจากแสงยูวี รวมถึงเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์น้อยเนื่องจากผิวเปลือกตามีแนวโน้มที่จะบอบบางกว่า

 

5. ริมฝีปาก

     ริมฝีปากเป็นอีกส่วนที่มักถูกมองข้ามเรื่องการปกป้องแสงแดด แต่ดีที่ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดบนริมฝีปาก เพราะลิปบาล์มกันแดดที่มีค่า SPF จะช่วยป้องกันแทนได้ อย่าลืมพกพาลิปบาล์มกันแดดติดตัวไว้โดยเฉพาะเมื่ออยู่กลางแจ้ง และทาซ้ำเท่าที่จำเป็น เช่นเดียวกับการทาครีมกันแดดบนผิวหน้าและผิวกาย เพราะการทาลิปบาล์มจะช่วยรักษาความชุ่มชื้น ซึ่งนั่นเป็นอีกส่วนที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดได้นั่นเอง

 

6. มือ

     ไม่ว่าจะทาครีมกันแดดบ่อยแค่ไหน แต่หลังจากทาเสร็จมักจบลงด้วยการล้างมือเพื่อกำจัดความเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งนั่นย่อมทำให้ผลิตภัณฑ์กันแดดถูกชะล้างออกไปหมด เท่ากับว่ามือก็จะไม่ได้รับการปกป้องอะไรเลย อย่าลืมว่ามือเป็นอีกส่วนที่รองลงมาจากใบหน้าและลำคอที่แสดงถึงสัญญาณแห่งวัยได้ชัดที่สุด เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทาครีมกันแดดที่มือ ทั้งบริเวณหลังมือและฝ่ามือด้วย

 

7. นิ้วเท้าและเท้า

     เชื่อว่าหลายคนไม่รู้มาก่อนว่านิ้วเท้าและเท้าเป็นจุดที่พบมะเร็งผิวหนังได้บ่อย คนส่วนใหญ่มองว่าเท้าและนิ้วเท้าได้รับการปกป้องจากแสงแดดโดยอัติโนมัติจากการสวมใส่รองเท้าอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าก็มีบางวันที่เราใส่รองเท้าแตะซึ่งผิวเท้าจะโดดแดดได้ ฉะนั้นจึงเป็นอีกบริเวณที่ไม่ควรลืมทาครีมกันแดด โดยแนะนำให้ทาทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้ารวมถึงนิ้วเท้าด้วยเช่นกัน

 

     เมื่อรู้เช่นนี้แล้วลองเช็กตัวเองว่ามักลืมหรือละเลยการทากันแดดที่ส่วนไหนไปบ้าง จากนั้นจึงหันมาหมั่นทากันแดดที่ส่วนนั้นๆ ให้เป็นรูทีนจนติดเป็นนิสัย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผิวของเราทุกส่วนบนร่างกายมีสุขภาพดี และลดโอกาสการเกิดอาการและโรคที่มีตัวการมาจากแสงแดดและรังสียูวี