SKINCARE
จริงหรือไม่ที่ตอนกลางคืนเราควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่เป็น Night Cream?โว้กบิวตี้ไขข้อสงสัยกับผลิตภัณฑ์ประเภทไนท์ครีม |
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าไม่มีกฏอะไรตายตัวสำหรับสกินแคร์และบิวตี้รูทีน เพราะเราทุกคนมีสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน จึงทำให้ต่างคนต่างมีรูทีนเฉพาะตัว นี่จึงเป็นที่มาที่ไอเท็มบำรุงผิวอย่างมอยซ์เจอไรเซอร์แบบ Night Cream อาจจะดูเกินความจำเป็นสำหรับสาวๆ ที่อาจะไม่ค่อยมีเวลาหรือชอบขั้นตอนที่กระชับรวดเร็วแบบไม่ต้องมีหลายไอเท็มให้ปวดหัว วันนี้ทีมบิวตี้เลยขอหยิบเรื่องที่อาจจะคาใจสาวๆ หลายคนอย่างเรื่องของความจำเป็นในการที่เราจะต้องเปลี่ยนมาใช้มอยซ์เจอไรเซอร์แบบ Night Cream ในช่วงกลางคืนมาฝากกัน
- ทำไมต้องมี Night Cream?
ในช่วงกลางคืนผิวของเราจะสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าช่วงกลางวันและขณะที่เรานอนหลับผิวของเราก็จะทำงานหนักกว่าช่วงกลางวันด้วย เนื่องจากเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมตัวเอง ดังนั้นเมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับกลางคืนก็จะเป็นการช่วยบูสผิวให้ฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
- จริงๆ เดย์ครีมก็เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นได้เหมือนกัน ต่างจากไนท์ครีมอย่างไร?
หากเทียบกันแล้ว แท็กซ์เจอร์ของไนท์ครีมจะมีความหนากว่าเดย์ครีม และอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่เข้มข้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกในขณะที่เรานอนหลับ และอีกเหตุผลที่ไนท์ครีมมักจะมีเนื้อสัมผัสที่หนาก็เพื่อยืดระยะเวลาการดูดซึมเข้าสู่ผิว เพื่อที่จะเป็นเกราะที่ช่วยปกป้องการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ยาวนานตลอดทั้งคืน
ในขณะที่ไนท์ครีมมีทั้งความหนาและส่วนผสมที่เข้มข้น มอยซ์เจอไรเซอร์ประเภทเดย์ครีมจะแตกต่างตรงที่บางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้ไวกว่า จึงถูกออกแบบมาให้เข้ากับช่วงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่เรามักจะแต่งหน้าก่อนจากบ้าน ดังนั้นมอยซ์เจอไรเซอร์แบบเดย์ครีมที่มีความบางเบาจึงตอบโจทย์มากกว่า ส่วนไนท์ครีมจะมีกลไกที่ต่างกันเพราะถูกออกแบบมาให้มีเนื้อสัมผัสที่หนากว่า ซึมช้ากว่าเพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ป้อนสารอาหาร (จากสกินแคร์) ให้ผิวของเราได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ช่วยให้ตื่นมาพร้อมผิวหน้าที่สดใสเปล่งปลั่ง
Priming Moisturizer Rich / Photo: glossier.com
- สรุป
ไนท์ครีมถือว่าเป็นไอเท็มเสริมที่เข้ามาเติมเต็มสกินแคร์รูทีนในช่วงกลางคืนของเรา ซึ่งถ้าสาวๆ คนไหนอยากให้ผิวพักผ่อนและฟื้นฟูตัวเองได้เต็มที่ การใช้มอยซ์เจอไรเซอร์แบบไนท์ ครีม ที่มีความเข้มข้นมากกว่าก็จะเป็นการช่วยผิวของเราให้ซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้การเลือกไนท์ครีมควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองเป็นหลัก วันนี้ทีมบิวตี้เลยคัดไนท์ครีมที่เราชื่นชอบมาแนะนำกัน
Guerlain Abeille Royale Night Cream
ไนท์ครีมสูตรปรับปรุงใหม่ล่าสุดจากเกอร์แลง มีส่วนผสมของวิตามินอีและน้ำผึ้งจากผึ้งสายพันธุ์ Blackbee ที่ขึ้นชื่อว่ามีสรรพคุณทางการรักษาสูง โดยส่วนผสมคุณภาพที่ผสานรวมกับเทคโนโลยี BlackBee Repair จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้นเนียนกระชับและอ่อนเยาว์ เนื้อครีมเนียนนุ่มสีเหลืองอ่อนๆ ไม่หนามากให้ความชุ่มชื้นแบบไม่เหนอะหนะจนหน้าหนึบติดหมอน หลังใช้จะช่วยให้ตื่นมาพร้อมผิวหน้าที่อิ่มฟู
WATCH
Dr. Barbara Sturm Face Cream Rich
มอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้นตัวนี้จะให้ทั้งความชุ่มชื้นและความเปล่งปลั่งหลังตื่นนอน มีส่วนผสมของ Purslane ส่วนผสมเอกสิทธิ์เฉพาะของคุณหมอ Sturm ที่จะต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวแลอ่อนเยาว์ เนื้อครีมสุดเข้มข้นเนื้อสีขาวขุ่นยังมีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบของผิว และรอยแดงต่างๆ อีกด้วย จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังเผชิญกับผิวหน้าที่อิดโรย เป็นผื่นแพ้ และต้องการการบูส
Origins High-Potency Night-A-Mins™ Oil-Free Resurfacing Cream with Fruit-Derived AHAs
สำหรับตัวนี้จะเหมาะกับคนที่มีผิวผสมถึงผิวมัน เพราะเป็นสูตรออยล์ฟรี โดยมีส่วนผสมของ AHA กรดช่วยผลัดเซลล์จากผลไม้ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน พร้อมช่วยเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส สุขภาพดี
Jurlique Moisture Plus Rare Rose Cream
มอยซ์เจอไรเซอร์สูตรให้ความชุ่มชื้นตัวนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสาวผิวแห้ง โดยให้ความชุ่มชื้นยาวนาน เป็นเนื้อสัมผัสครีมที่ใช้ง่าย เบาสบายผิว ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในสกินแคร์รูทีน
Tatcha's Luminous Dewy Skin Night Concentrate
อยากตื่นนอนมาพร้อมผิวที่อิ่มฟูและดิวอี้ ก็ต้องไนท์ครีมตัวนี้เลย เมื่อทาก่อนนอนผิวหน้าของเราก็จะได้รับการบำรุงแบบเน้นๆ จากส่วนผสมทรงคุณค่าจากธรรมชาติอย่างสาหร่ายทะเลสีแดง (Red Algae) สารให้ความชุ่มชื้น squalane ที่สกัดจากผลมะกอก ชาเขียว และจินเส็งที่จะช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูผิวในขณะที่เราหลับ
WATCH