SKINCARE
รวมทิปส์การลงสกินแคร์ไม่ให้เหนียวเหนอะกองอยู่บนผิว เหมาะสำหรับสภาพอากาศเมืองไทยถ้าหากทำตามทิปส์เหล่านี้ก็จะช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบลงผิวได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น |
Photo: Courtesy of the brands
"ร้อนแบบหน้าเยิ้มไหลมากองรวมกัน" คงเป็นสิ่งที่ไม่มีอยากประสบพบเจออย่างแน่นอน ยิ่งเข้าช่วงฤดูร้อนแบบนี้ คงอาจจะหลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับอากาศเมืองไทย สาเหตุหนึ่งของปัญหาหน้าไหลเยิ้มระหว่างวันเกิดจากการลงเลเยอร์สกินแคร์ที่มากเกินไป รวมถึงการเลือกเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง จึงทำให้สกินแคร์ไม่ซึมซาบลงผิวเท่าที่ควร โว้กบิวตี้มี 4 ทิปส์ที่จะช่วยลดปัญหาหน้าเหนียวเหนอะหนะจากการลงสกินแคร์มาฝากกัน
- ลงลำดับสกินแคร์ให้ถูกต้อง
แน่นอนว่าสกินแคร์แต่ละชนิดย่อมมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป เช่น โทนเนอร์มีลักษณะน้ำเหลวๆ เซรั่มมีทั้งลักษณะที่เป็นลิควิดข้นๆ และลิควิดเจลใส ขึ้นอยู่กับส่วนผสมในเซรั่มชิ้นนั้น ส่วนมอยส์เจอไรเซอร์มีทั้งเนื้อครีม เจลครีม และเจล ที่ทางแบรนด์ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ตามแต่ละสภาพผิวของผู้ใช้ หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสหนาลงไปก่อน ก็จะทำให้การลงสกินแคร์ตัวต่อมาซึมซาบได้ยาก ไม่เกิดผลในการบำรุงผิว เทคนิคง่ายๆ คือ "การลงจากบางไปหนา" ทำให้การลงสกินแคร์มีประสิทธิภาพและไม่อุดตันรูขุมขน
- เว้นระยะการลงสกินแคร์
เคยเป็นไหมลงสกินแคร์ชิ้นแรกไป พอจะลงชิ้นต่อมา ผิวหน้าของเรายังรู้สึกเหนียวลื่นจากชิ้นแรกอยู่เลย ฉะนั้นเราควรเว้นระยะการลงสกินแคร์ในแต่ละชิ้นสักเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ทาลงไป เช่น หากลงเซรั่มแล้วจะตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ อาจจะเว้นประมาณ 2-3 นาที หรือเมื่อทาครีมกันแดดเสร็จแล้วจะเริ่มลงรองพื้น ควรเว้นระยะให้ครีมกันแดดเซตตัวเสียก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิว เทคนิคนี้อาจจะเหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมันมากกว่า
- ใช้แป้งเซตสกินแคร์
หลายคนอาจจะงงว่าใช้แป้งเซตหลังสกินแคร์ได้ด้วยหรอ แล้วจะเกิดการอุดตันตามมาทีหลังหรือเปล่า? ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการสกินแคร์ บวกกับเทรนด์ Skincare Powder ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดการออกแบบแป้ง ใช้ได้ทั้งเซตเมกอัพและสกินแคร์ขั้นตอนสุดท้าย เพื่อลดความเหนียวเหนอะที่อาจกองอยู่บนผิว เรียกว่าตอบโจทย์สภาพอากาศเมืองไทยสุดๆ
Skincare Powder จาก IPSA (ราคา 1,750 บาท)
- เลือกเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
ย้ำกันอยู่เสมอว่านอกจากการเลือกส่วนผสมในสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวแล้ว เรื่องของเนื้อสัมผัสของสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าหากเราเลือกไม่เหมาะกับสภาพผิวก็อาจทำให้การลงสกินแคร์ไม่เกิดผลเท่าที่ควร แถมอาจทำให้เกิดปัญหาการอุดตันหรือเรื่องสิวตามมาได้ด้วย หากใครมีผิวแห้ง แนะนำให้ใช้ครีมที่มีลักษณะเนื้อเข้มข้นและสามารถลงได้หลายสเต็ป เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นได้อย่างแน่นอน แต่หากใครมีผิวผสมหรือผิวมัน แนะนำว่าให้ลดสเต็ปการลงสกินแคร์ลงบ้าง และเลือกเนื้อสัมผัสที่มีความเบาบาง ซึมซาบง่าย ส่วนใครที่มีปัญหาสิว แนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์ที่เป็นเวชสำอางหรือสกินแคร์แนวคลีนบิวตี้ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี รวมถึงเลือกเนื้อสัมผัสที่ซึมเข้าผิวได้ง่าย จะได้ไม่เกิดปัญหาอุดตันตามมา
WATCH
WATCH