SKINCARE

สัมผัสความหอมใหม่ล่าสุดจาก Jo Malone London น้ำหอมแห่งความเบิกบานที่ทุกคนประทับใจ

น้ำหอมกลิ่นฟลอรัลใหม่จาก Jo Malone London

เรื่อง: พิมรา กัมปนาทแสนยากร

ทุกๆ ปี โจ มาโลน ลอนดอนจะเปิดตัวน้ำหอมซิกเนเจอร์ไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับโลก ปีนี้ฮันนี่ซักเคิลหรือดอกสายน้ำผึ้ง ดอกไม้สัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษคือส่วนผสมหลัก ตั้งชื่อกลิ่นว่า Honeysuckle & Davana เป็นกลิ่นแนวฟลอรัลสดชื่นผสานกับความลุ่มลึกของวู้ดดี้และมอส กลิ่นที่ออกมาจึงมีเสน่ห์เหมาะกับอากาศอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

โว้กได้รับคำเชิญจากทางโจ มาโลน ลอนดอนเพื่อไปร่วมงานเปิดตัวน้ำหอมไฮไลต์แห่งปีนี้ที่ประเทศอังกฤษโดยทางทีมงานได้พาเรามาถึง Cotswolds เมืองชนบททางตอนใต้ซึ่งเป็นแหล่งที่มีดอกฮันนี่ซักเคิลเติบโตมากที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสพบกับ Celine Roux, Head of Global Fragrance ซึ่งเธอเป็นหัวหน้าทีมครีเอทีฟในการสร้างสรรค์กลิ่นหอมของโจ มาโลนและอยู่กับแบรนด์มายาวนานโดยเธอครีเอตน้ำหอมขายดีมาแล้วมากมายอย่างเช่น Black Berry & Bay, Wood Sage & Sea Salt และ Peony & Blush Suede

จุดเด่นของ Honeysuckle & Davana ที่ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ความหอมแห่งปี

Celine กล่าวถึงสาเหตุที่เลือกดอกฮันนี่ซักเคิลมาเป็นส่วนผสมหลักว่าเป็นดอกไม้แห่งความอบอุ่นและเบิกบานที่คนอังกฤษผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เห็นดอกไม้นี้เริ่มผลิบานจะชวนให้รู้สึกมีความสุข เพราะนั่นหมายถึงฤดูกาลใหม่ที่สดใสกำลังจะมาเยือน จึงเหมาะเป็นตัวแทนกลิ่นหอมแห่งซัมเมอร์ซึ่งเมื่อผสานกับ Davana พืชสมุนไพรจากประเทศอินเดียก็จะยื่งทำให้กลิ่นมีความสดชื่นมากขึ้น จึงนับว่าเป็นกลิ่นแนวฟลอรัลสดชื่นที่เหมาะสำหรับใช้ในวันที่ออกไปเที่ยวอยู่ท่ามกลางสายลมและแสงแดด เพราะช่วยปลุกความสดชื่นและความมีชีวิตชีวาได้ดีทีเดียว

เทคโนโลยีการสกัดกลิ่นสุดล้ำเพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่เข้มข้นที่สุด

รู้หรือไม่ว่าดอกฮันนี่ซักเคิลไม่สามารถนำมาสกัดเป็นกลิ่นด้วยวิธีธรรมชาติได้เพราะจะได้กลิ่นที่แตกต่างจากเดิมไปมาก ทางทีมผู้เชี่ยวชาญจึงใช้กรรมวิธี Headspace Technology โดยการนำวัสดุที่ทำจากแก้วมาครอบดอกไม้ให้สนิทเพื่อเก็บองค์ประกอบของกลิ่นที่กระจายอยู่รอบๆ จากนั้นนำมาถอดรหัสโมเลกุลและนำไปพัฒนากลิ่นให้เหมือนกับดอกไม้ดั้งเดิมมากที่สุด นอกจากนั้น เทคโนโลยีเหล่านี้ยังช่วยทำให้กลิ่นของดอกไม้มีความเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องใช้วัตถุดิบโดยเฉพาะดอกไม้หรือพืชหายากเป็นจำนวนมากได้

 

สร้างสรรค์กลิ่นหอมเฉพาะบุคคลด้วยเทคนิค Fragrance Combining

อีกหนึ่งคอนเซปต์ที่นับว่าเป็นจุดเด่นของโจ มาโลน ลอนดอน คือ การผสมผสานน้ำหอมสองกลิ่นเข้าด้วยกันหรือที่เรียกว่า Fragrance Combining ซึ่งจุดเด่นของน้ำหอมของแบรนด์นี้คือ ทุกกลิ่นมีองค์ประกอบของส่วนผสมที่ไม่ซับซ้อนและมีความบางเบา ฉะนั้นไม่ว่าจะผสมน้ำหอมโจ มาโลนรุ่นใดเข้าด้วยกันก็ไม่ทำให้เกิดกลิ่นที่อบอวลหรือหนักจนเกินไป แต่ถ้าต้องการคำแนะนำ ทางแบรนด์มีไกด์ไลน์ในการผสมผสานกลิ่นให้โดย ซีลีน ได้ฝากเคล็ดลับการเลเยอร์กลิ่นหอมให้กับสาวโว้กในครั้งนี้ด้วย 

 



WATCH



สร้างสรรค์กลิ่นหอมใหม่เฉพาะบุคคลในแบบซีลีน

ผสม Honeysuckle & Davana กับ Grapefruit เพื่อให้กลิ่นสดชื่นยิ่งขึ้น โดยซีลีนแนะนำให้ฉีดกลิ่นหนึ่งทั่วเรือนร่าง และอีกกลิ่นเฉพาะบริเวณหัวไหล่และเหนือศีรษะ เพื่อเพิ่มเสน่ห์ยามเคลื่อนไหว

ผสม Honeysuckle & Davana กับ Oud & Bergamot Body Creme เพื่อให้กลิ่นอบอุ่นขึ้น โดยลงบอดี้ครีมก่อนเพื่อให้ผิวชุ่มชื่นแล้วตามด้วยน้ำหอม จะช่วยให้กลิ่นติดทนนานมากยิ่งขึ้น

 

Celine Roux, Head of Global Fragrance และ Anne Flipo, Master Perfumer แห่ง Jo Malone London กำลังใช้กรรมวิธีการสกัดกลิ่นดอกฮันนี่ซักเคิลด้วยเทคโนโลยี Headspace เพื่อให้ได้กลิ่นที่เหมือนจริงมากที่สุด

 

Cotswolds เมืองชนบททางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีดอกฮันนี่ซักเคิลเติบโตมากที่สุด

 

 

พบกับน้ำหอมไลน์ใหม่ล่าสุด Honeysuckle & Davana (30, 100 มล., 2,700, 5,400 บาท) ได้แล้วตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป

@JoMaloneLondon #HelloHoney

WATCH