SKINCARE

แนะนำความถี่ในการใช้มาส์กแต่ละประเภทเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวหน้าของคุณ

มาส์กแต่ละประเภทมีความถี่ในการใช้งานที่ไม่เท่ากัน สำหรับใครที่อยากมีผิวหน้าใส ไร้ปัญหาสิว ตามมาดูเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้กันเลย

โดย Kankawin Wiseskamin

4 พฤษภาคม 2565

เชื่อว่ามีสาวๆ จำนวนไม่น้อยชื่นชอบการมาส์กหน้าเป็นชีวิตจิตใจ บางคนถึงขั้นมาส์กหน้าทุกวันเลยก็มี เพราะรู้สึกว่าเป็นการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน แถมตื่นมาหน้ายังนุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย แต่เหรียญมักมีสองด้าน เช่นเดียวกับการมาส์กหน้า เนื่องจากการมาส์กหน้ามีหลายประเภท และมีความถี่ในการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งบางประเภทหากใช้งานถี่เกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อผิวหน้าของเราได้ วันนี้โว้กบิวตี้เลยจะพาทุกคนมาดูความถี่ในการใช้มาส์กแต่ละประเภทกัน ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. มาส์กโคลน (Mud Mask/Clay Mask)

มาส์กโคลน (Mud Mask หรือ Clay Mask) เป็นมาส์กที่ได้จากดินโคลนตามธรรมชาติ โดยส่วนมากจะมีเนื้อสีขาว สีเทา สีน้ำตาล และสีเขียว มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องดีท็อกซ์สารพิษ น้ำมัน และสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน เหมาะกับผิวมัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่ายเป็นสิว สำหรับมาส์กประเภทนี้ควรพอกทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาที และใช้งานประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์

Try this: Super Volcanic Pore Clay Mask 2X จาก Innisfree (ราคา 590 บาท)

WATCH

2. มาส์กแบบแผ่น (Sheet Mask)

สำหรับมาส์กแบบแผ่น (Sheet Mask) ถือเป็นแระเภทที่มีให้เลือกหลากหลายสูตร เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยแนะนำให้สาวๆ เลือกสูตรให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ข้อดีของมาส์กประเภทนี้คือสามารถใช้ได้ทุกวัน อีกทั้งยังใช้เป็นทรีตเมนต์บำรุงผิวแบบเร่งด่วนสำหรับโอกาสพิเศษได้อีกด้วย

Try this: Face Mask Moisturizer Balance จาก LuLuLun (ราคา 195 บาท)

3. มาส์กชาร์โคล (Charcoal Mask)

มาส์กชาร์โคล (Charcoal Mask) หรือมาส์กผงถ่านช่วยรักษาสิว ดีท็อกซ์สารพิษ ดูดซับน้ำมัน และสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน ด้วยเหตุนี้มาส์กประเภทนี้จึงเหมาะกับผิวมัน ผิวผสม และผิวบอบบางเป็นสิว โดยพอกทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาที และใช้งานประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่สำหรับคนที่ผิวบอบบางแนะนำให้ใช้เพียงสัปดาห์ละครั้งหรือทุกๆ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น

Try this: Clear Improvement Active Charcoal Mask จาก Origins (ราคา 1,000 บาท)

4. มาส์กเนื้อครีม หรือ เนื้อเจล (Cream / Gel Mask)

มาส์กเนื้อครีม หรือ เนื้อเจล (Cream/ Gel Mask) เป็นตัวช่วยมอบความชุ่มชื้นและสดชื่นให้กับผิว โดยเป็นมาส์กที่เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ไปจนถึงผิวที่ถูกแสงแดดทำร้าย แนะนำให้ใช้งานประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์

Try this: Water Sleeping Mask EX จาก Laneige (ราคา 1,200 บาท)

5. มาส์กที่มีส่วนผสมของเอนไซม์ (Enzyme Mask) มาส์กขัดผิว (Exfoliating Mask) และมาส์กแบบลอกออก (Peel-Off Masks)

มาส์กทั้ง 3 ประเภทเป็นมาส์กที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว พร้อมขจัดน้ำมัน สิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจอุดตันรูขุมขนให้หลุดออกไปด้วย ซึ่งเหมาะกับผิวที่หยาบกร้าน ไม่สม่ำเสมอ และผิวหมองคล้ำ แต่มาส์กที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบางประเภทมีกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHAs) และกรดเบตาไฮดรอกซี (BHAs) อาจทำให้ผิวบอบบางระคายเคืองได้ เพราะฉะนั้นจึงควรใช้เท่าที่จำเป็น หรืออย่างมากที่สุดสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น

Try this: Clarifying Mask จาก Sulwhasoo (ราคา 1,500 บาท)

6. มาส์กสูตรธรรมชาติ (Homemade Face Mask)

ปิดท้ายด้วยมาส์กสูตรธรรมชาติ (Homemade Face Mask) หรือมาส์กที่สาวๆ ทำเองจากส่วนผสมที่หาได้จากในห้องครัวและตู้เย็น เช่น น้ำผึ้ง โยเกิร์ต แตงกวา และมะเขือเทศ เป็นต้น ถึงแม้จะเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ดูเหมือนจะปลอดภัย แต่สาวๆ ต้องระวังอย่าใช้ส่วนผสมที่เป็นกรดอย่าง น้ำมะนาวและน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) เพราะอาจจะทำให้ผิวพังได้ สำหรับมาส์กประเภทนี้สามารถปรับแต่งสูตรให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองได้ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย ซึ่งควรมาส์กทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาที และใช้งานประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

สำหรับการมาส์กหน้าถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สาวๆ ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะฉะนั้นหากใครอยากมีผิวหน้าใสดูสุขภาพดีก็อย่าลืมนำเทคนิคดีๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปลองปรับใช้กันดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยกู้ผิวพังให้กับมาสวยเป๊ะกว่าที่เคยแน่นอน!

ภาพ : Courtesy of the brands