SKINCARE

รีวิวการซื้อและใช้ Aesop B&C Facial Balancing Gel สกินแคร์สูตรเข้มข้นที่ทำให้เราตื่นเต้นกับผลลัพธ์

เมื่อให้ Digital Director ของ VOGUE Beauty เขียนรีวิวโดยละเอียดถึงสกินแคร์ชิ้นล่าสุดที่ซื้อมาใช้เงียบ ๆ แต่บอกเพื่อนดัง ๆ ไปทั่วว่า

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานของแบรนด์ Aesop ที่เล่าให้ฟังถึงแนวคิดใน การดูแลผิวในแต่ละสภาพแวดล้อมและความรู้สึกของผิวในขณะนั้น ซึ่งผมค่อนข้างชอบไอเดียในการดูแลผิวแบบนี้ เพราะรู้สึกสนุกดี และเราสามารถเลือกได้ว่าวันไหน เราจะใช้สกินแคร์อะไรในการดูแลผิวให้ทั้งตัวเองและผิวรู้สึกดูดีที่สุดอย่างที่อยากให้เป็น ผมตอบโจทย์ชีวิตของคนที่มองหาสกินแคร์ที่ใช้เสริมขั้นตอนปัจจุบันและต้องรู้สึกว่าทำให้เราพอใจกับผิวหน้าของตัวเองมากยิ่งขึ้น

ผมเป็นคนผิวผสมที่ค่อนไปทางผิวมัน เป็นสิวง่าย ผิวหน้าแดงง่ายจากการออกแดดหรืออยู่ในอากาศร้อนนานๆ แต่ถ้าพักผ่อนน้อย ผิวจะแห้งและรูขุมขนปรากฎเด่นชัด เรียกง่าย ๆ ว่ารวมฮิตทุกปัญหาที่คนไทยกังวลเลยก็ว่าได้ ซึ่งผมก็จะมีสกินแคร์สลับใช้อยู่หลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น La Mer, SK-II, Estee Lauder, Clarins, Ipsa รวมถึง Aesop ที่ใช้อยู่แล้วด้วย แต่ผมก็ยังมองหาอะไรใหม่ ๆ ที่น่าจะมาใช้ร่วมกับของเดิมและให้ผิวในวัยที่ใกล้จะ 40 เต็มที่ รู้สึกดีและ(หวังว่า)คนจะเดาอายุไม่ถูก ????

ผมศึกษาข้อมูลแบบผู้บริโภคตามปกติและตัดสินใจซื้อ Aesop B&C Facial Balancing Gel เป็นของขวัญวันเกิดที่ผ่านมาให้ตัวเอง ด้วยสาเหตุที่ว่า ไปฟังบรรยายถึงการดูแลผิว และทราบสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้แล้วรู้สึกว่า “น่าลองแฮะ” เนื้อสัมผัสก็แปลก ๆ ดี ลองที่หลังมือรู้สึกว่ามันชุ่มชื้นแต่ไม่เหนอะหนะเลย ซึ่งเป็นความรู้สึกแรกที่ทำให้เริ่มสนใจ จึงเข้าไปหาอ่านในเว็บของทาง Aesop ก่อนไปซื้อมาลอง ได้ความว่า

  • ผลิตภัณฑ์นี้ตั้งชื่อตามส่วนผสมเข้มข้นที่อัดแน่นในกระปุกคือ วิตามินซี และวิตามินบี และความพิเศษอยู่ตรงที่วิตามินซีที่พูดถึงเป็นวิตามินซีเสถียร ละลายได้ในไขมัน ซึ่งพัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณค่าในการต่อต้านอนุมูลอิสระ การกระตุ้นการสร้างคอลาเจนและช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนแสงแดดอยู่เป็นประจำ จะส่งตรงถึงผิวอย่างเต็มที่มากกว่าวิตามินซีแบบเดิม ๆ ที่ละลายในน้ำ ไวต่อแสง สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว
  • ในส่วนของวิตามินบี สำหรับผมแล้วค่อนข้างเข้าทาง เพราะมักจะมองหาสกินแคร์ที่มีวิตามินบีเข็มข้นอยู่เสมอ ๆ เนื่องจากผิวอักเสบและเป็นสิวง่าย โดยมากก็เกิดจากมลภาวะและความเครียด ซึ่งวิตามินบี คือการแก้เคล็ดที่ดี ในการช่วยให้ผิวที่กังวลเรื่องการอักเสบและสิว อาการดีขึ้น รวมไปถึงยังมีส่วนช่วยให้ผิวหน้าแลดูสม่ำเสมอ กระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
  • ทั้งสองส่วนผสมหลัก เมื่อผสมกัน ผมสรุปได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการของผิวที่กังวลแบบรอบด้าน ตั้งแต่รูขุมขน สิว แผลเป็นจากสิว ริ้วรอยที่เริ่มมาสักพักตามวัย ผิวที่ต้องเจออากาศร้อนและโดนแดดบ่อย ๆ
  • ความรู้ที่ได้จากการไปที่เคาน์เตอร์ พนักงานของ Aesop บอกผมว่า เนื้อผลิตภัณฑ์เป็น Aloe vera base แต่อยู่ในรูปแบบของเนื้อน้ำผึ้ง คือมีความข้นหนืดคล้าย ๆ น้ำผึ้ง และเป็นผลิตภัณฑ์ Oil Free ซึ่งมีที่มาว่า การพัฒนาเนื้อผลิตภัณฑ์แบบนี้ ช่วยให้สามารถบรรจุส่วนผสมในการบำรุงผิวได้อย่างเข้มข้นกว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่น ๆ ของ Aesop หรือจะเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารบำรุงเข้มข้นที่สุดของแบรนด์ก็ว่าได้ รวมถึงเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะตัวนี้จะแตกตัวเป็นน้ำชุ่มฉ่ำเมื่อเราใช้ผ่ามือนวดไล้ให้แตกตัว และเมื่อกดเบา ๆ ที่ผิวหน้า เนื้อผลิตภัณฑ์ก็จะถูกดูดเข้าผิวอย่างเต็มที่ ให้ความรู้สึกสบายผิวในทันที

เรียกได้ว่าหาข้อมูลกันเต็มที่ก่อนจะตัดสินใจซื้อสกินแคร์สักชิ้นมาเพิ่ม เพราะจากเดิมที่มีอยู่มากมายแล้ว การเลือกชิ้นใหม่มาเพิ่มเป็นอะไรที่ท้าทายพอสมควร และผมมีความคาดหวังกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ค่อนข้างมากเสียด้วย แล้วประสบการณ์จากการได้ใช้ Aesop B&C Facial Balancing Gel มาแล้วเกือบ 1  เดือน ผมรู้สึกอย่างไร สรุปได้ตามด้านล่างนี้ครับ

  • สัปดาห์แรก ผมงดสกินแคร์ตอนกลางคืนทุกตัว จากเดิมที่มี Treatment Lotion, Serum, Eye Cream, Night Cream เหลือแค่ B&C เพียงตัวเดียว หลังล้างหน้าหมาด ๆ ผมใช้บริมาณเท่าเหรียญบาท นวดให้เนื้อเจลแตกตัว แล้วกดที่ผิวหน้าให้ทั่ว รู้สึกหนึบ ๆ ในช่วงแรงที่กดฝ่ามือไปบนผิว แต่กดไปสักพักเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวไปอย่างรวดเร็ว ยังรู้สึกชุ่มชื่นแต่ไม่เหนอะหนะ ตื่นเช้ามาสังเกตผิวใกล้ ๆ รู้สึกผิวอิ่ม ๆ และไม่มีอาการยับ ซึ่งปกติถ้าไม่ทาครีมก่อนนอน ผิวจะมีรอยยับตามบริเวณหางตาและหน้าผากลาง ๆ ผิวหน้ามีความมันบนผิวเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้กังวลอะไร ค่อนข้างพอใจกับการรวบสเตปในการดูแลผิวกลางคืนใช้ B&C เพียงตัวเดียว แทนการใช้หลาย ๆ ชิ้น
  • หลังสัปดาห์แรกผ่านไป ผมลองใช้ B&C กับขั้นตอนการดูแลผิวตอนกลางคืนตามปกติ โดยเอา Night Cream ออก แล้วทดแทนด้วย B&C ผมสังเกตตอนเช้าแล้วรู้สึกว่า สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รอยแดงที่มีน้อยลง รวมถึงรูขุมขนก็ไม่ปรากฎเด่นชัดด้วย ซึ่งผมเข้าใจว่า การมี Treatment Lotion ช่วยเติมน้ำไปในผิวได้เยอะขึ้นและเนื้อเจลของ B&C ก็เสริมเข้าไปอีก ผิวจึงแลดูอิ่มน้ำกว่าที่เคย
  • ผมลองเล่นสนุกด้วยการใช้ B&C แทนการใช้ sleeping mask โดยการเอา B&C ไปแช่ตู้เย็น แล้วใช้ปริมาณเป็นสองเท่าจากการใช้ปกติ เป็นความรู้สึกเย็นสบายผิวที่ผมชอบมาก และเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำไม่มีความเหนอะหนะอยู่บนผิวเลย ตื่นเช้าหลังกลับจากทริปต่างประเทศที่ผิวล้า ๆ รู้สึกสดชื่น อาการแดงที่ผิวลดลง
  • ในบางวันที่ผมรู้สึกระคายเคืองจากการออกแดดนาน ๆ ผมลองผสม Aesop Damascan Rose Facial Treatment ซึ่งเป็น essential oil ที่ผมมีอยู่เดิม นวดบนฝ่ามือให้เข้ากันแล้วกดเบา ๆ ทั่วผิวหน้าและลำคอ เพื่อลดอาการแดง เพิ่มความชุ่มชื้นและให้ความรู้สึกสบายผิวมากยิ่งขึ้น

สำหรับผม Aesop B&C Facial Balancing Gel เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผมรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่แรกกับวิธีการคิดค้น ส่วนผสมวิตามินซีเสถียรที่ละลายได้ในน้ำมันตลอดจนขั้นตอนในการใช้ คุณสมบัติตอบโจทย์การหาตัวช่วยในการดูแลผิว มาเสริมเข้ากับสกินแคร์เดิมที่มีอยู่และรู้สึกว่าเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระหว่างใช้ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ สามารถพลิกแพลงเอามาใช้ได้หลายวิธีตั้งแต่ใส่ไว้ในขั้นตอนประจำ หรือใช้เป็นทรีทเมนต์พิเศษ ซึ่งออกแบบการใช้ได้ตามความกังวลและความต้องการของสภาพผิวแต่ละวัน

ถ้าถามว่าวิทยาศาตร์กับความงามและไลฟ์สไตล์ไปด้วยกันได้มั้ย ผมว่า Aesop B&C Facial Balancing Gel เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ผมคิดว่าอยู่ในแนวความคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจและผมอยากแชร์ประสบการณ์จริงที่ตัดสินใจซื้อและการลองใช้กับผู้อ่าน VOGUE Beauty ไว้เป็นประโยชน์ในการมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นะครับ



WATCH



 

WATCH