เคล็ดลับแต่งผิวให้โกลว์และดิวอี้อย่างเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องพึ่งไฮไลท์

นอกจากลุคเมกอัพป๊อปๆ แล้ว อินสตาแกรมของเธอก็ยังมีไลฟ์สไตล์และตัวตนของ @juniperjabu สอดแทรกอยู่ด้วย โดยเธอยืนยันว่าจริงอยู่ที่ในปัจจุบันเมกอัพอาร์ทิสต์หลายๆ คนใช้อินสตาแกรมเป็นพื้นที่สะสมผลงานการแต่งหน้าของตัวเอง แต่เธอยืนยันชัดเจนว่าไอจีของเธอนั้นยังคงมีความเป็นตัวตนของเธออยู่ด้วย “เรายังไม่ขายวิญญาณ (หัวเราะ) เรายังมีลงรูปเนื้อรูปหมูของเราอยู่ด้วย” ไอจีของเธอไม่ได้แชร์เฉพาะเมกอัพแค่อย่างเดียวแต่ยังมีการลงรูปที่เป็นไลฟ์สไตล์ที่เป็นสายฟู้ดดี้ของเธออยู่ด้วย “เราเป็นช่างแต่งหน้า ฟู้ดดี้ และก็เป็นติ่ง” (หัวเราะ)

หลังจากรู้จักตัวตนของเธอกันพอสมควร เราก็ได้เม้ามอยกันต่อกันถึงเคล็ดลับการแต่งหน้าในลุคต่างๆ ในแบบฉบับของ #jabubabes ซึ่งเธอก็ได้แชร์ถึงเทคนิคที่ช่วยให้แต่งผิวและยังคงดูเป็นผิว รวมถึงเมกอัพไอเท็มชิ้นสำคัญที่เธอนั้นขาดไม่ได้

เมื่อผิวมีความเย็นจะลงเมกอัพได้ดีกว่า...

เธอแชร์ว่าอุณภูมิของผิวหน้านั้นก็มีส่วนในการแต่งลุคเมกอัพที่เผยผิวและเน้นความเป็นธรรมชาติ “จูนเป็นคนติดนวดสกินแคร์ให้ลูกค้าก่อนลงเมกอัพ โดยสกินแคร์ที่ใช้ก็จะดูจากความเหมาะสมของแต่ละสภาพผิว ก่อนอื่นเลยจูนจะสัมผัสผิวหน้า ถ้าจับแล้วรู้สึกว่าผิวมีความร้อน เราก็จะขอให้ไปล้างหน้า หรือถ้าในกรณีที่ลูกค้าเขาลงสกินแคร์มาแล้วและไม่อยากล้างหน้าใหม่ จูนก็จะใช้สเปรย์น้ำแร่พ้นลงบนผิวเพื่อปรับอุณภูมิของผิวให้เย็นลง เพราะถ้าผิวหน้ามีความร้อน เวลาลงรองพื้นไปความร้อนจะผลักผลิตภัณฑ์ออก ดังนั้นเมื่อผิวมีความเย็นจะลงเมกอัพได้ดีกว่า เฟรชกว่า”

ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและสว่างขึ้นด้วย 'โทนอัพ'

“เราใช้รองพื้นปกติแต่เราจะใช้กับพัฟคุชชั่น ตัวที่ใช้เป็นประจำก็คือพัฟคุชชั่นจาก Jung Saem Mool ซึ่งตั้งแต่เคยใช้มาเป็นพัฟที่ช่วยเบลนด์ได้ดีมากและก็ไม่กินรองพื้น ซึ่งเราก็จะสามารถใช้พัฟค่อยๆ กดลงบนผิวเพื่อเกลี่ยรองพื้น ช่วงนี้จูนอินกับเทรนด์เมกอัพเกาหลี เลยจะชอบใช้พวกผลิตภัณฑ์โทนอัพที่จะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น มีลักษณะคล้ายๆ คอลเร็คเตอร์ อันนี้เราจะลงทั่วๆ ใบหน้าเลย เอาจริงๆ เกือบจะทุกรูปที่เห็นในอินสตาแกรมคือต้องลงโทนอัพก่อน” เธอได้เล่าให้ฟังว่าเทรนด์ความงามของเกาหลีนั้นได้มีอิทธิพลต่อการแต่งหน้าของเธอโดยเฉพาะในขั้นตอนของการลงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเมกอัพเบส "สำหรับเบสหรือโทนอัพที่จูนชอบใช้ก็คือ Color Correcting Primer จากแบรนด์ VDL โดยความหลงใหลในพวกผลิตภัณฑ์ประเภทโทนอัพนั้นเริ่มขึ้นตอนช่วงที่วง Black Pink มาจัดคอนเสิร์ตที่ไทยแล้วจูนได้มีโอกาสไปงาน Fan Meet แล้วเห็นกับตาเห็นว่าเขาแต่งผิวได้ดูผ่องสวยแต่ไม่ค่อยเห็นเลเยอร์ของการลงรองพื้นเลย ก็เลยทำให้เราอยากรู้ว่าเขาแต่งผิวแบบนี้ได้อย่างไร ต่อมาก็ได้ไปเกาหลีแล้วก็ได้ไปทราบเทคนิคจากช่างแต่งหน้าว่าส่วนใหญ่เขาจะใช้โทนอัพ ตอนนั้นก็เลยรู้ว่าที่เกาหลีจะเรียกเบสว่าโทนอัพแทน"

ไอเท็มเมกอัพที่ขาดไม่ได้ในกระเป๋าแต่งหน้า

หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้สาวๆ คงรอที่จะให้เธอเผยถึงไฮไลท์ที่ช่วยให้ผิวโกลว์ แต่ทราบหรือไม่ว่าลุคเมกอัพที่สวยและดูโกลว์ที่เราเห็นน้ันส่วนหนึ่งมาจากแสงในการถ่ายภาพ “เป็นแสงและการเตรียมผิวล้วนๆ จูนแทบจะไม่ใช้ไฮไลท์เตอร์เลย แต่ที่เห็นลุคของเราดูโกลว์ก็เพราะแสงที่เราถ่ายรูปมันกระทบลงบนผิวพอดี แล้วก็จะเลือกใช้สกินแคร์ก่อนแต่งหน้าที่จะช่วยให้ผิวฉ่ำด้วยอย่าง Mool Cream จาก Jung Saem Mool ที่จะช่วยให้ผิวของเราดูโกลว์จากภายใน...จูนว่าไฮไลท์ก็มีข้อเสียนะ คือผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮไลท์จะสะท้อนแสงแบบแบน ซึ่งจะสว่างก็ต่อเมื่อถูกแสงกระทบโดยตรง อย่างเช่นเวลาเราทาไฮไลท์ลงบนโหนกแก้มไฮไลท์จะโกลว์ขึ้นเมื่อแสงกระทบแต่พอไม่มีแสงหรือหันข้างปุ้บความโกลว์ก็จะไม่ปรากฏ" เธอแนะนำว่าไฮไลท์นั้นเหมาะกับลุคเมกอัพสำหรับงานกลางคืนมากกว่าเพราะเวลาถ่ายรูปจะมีแสงแฟลชจากกล้องที่กระทบลงผิวที่ทำให้ดูโกลว์ขึ้นกล้อง

นอกจากเบสก่อนลงเมกอัพจะเป็นสิ่งที่ต้องมีติดกระเป๋าเมกอัพของเธอแล้ว พัฟคุชชั่น สเปรย์น้ำแร่และมิสต์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น และลิปบาล์มก็เป็นไอเท็มที่เธอขาดไม่ได้ ซึ่งเธอแนะนำว่า “ต้องลิปบาล์มเนื้อลิควิดของ Country Stream เท่านั้นเพราะสามารถพอกลิปไว้ได้ซึ่งจะช่วยให้ลิปชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว

และเมื่อถามถึงเมกอัพรูทีนของเธอเอง เราก็พบว่าในชีวิตประจำวันเมกอัพอาร์ทิสต์คนนี้แทบจะไม่แตะเมกอัพเลย “ไม่มีเวลาแต่งเลยค่ะ บิวตี้รูทีนของเราคือสกินแคร์รูทีนล้วนๆ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในแต่ละวันก็จะมีครีมกันแดด ลิปสติกประเภทลิปโกลว์ และก็บลัชเนื้อครีมอย่างตัวที่ชอบใช้ก็คือ Cloud Paint จาก Glossier"